ดินแดน 4 แห่งในยูเครนเตรียมจัดลงประชามติเข้าร่วมรัสเซีย

ดินแดน 4 แห่งของยูเครน ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียและกองกำลังที่สนับสนุนรัสเซีย เตรียมจัดการลงประชามติในวันนี้ว่า จะเข้าร่วมเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของรัสเซียหรือไม่ ซึ่งเป็นแผนการลงประชามติที่ถูกประณามจากชาติตะวันตกส่วนใหญ่ที่มองว่าผิดทำนองคลองธรรมและเป็นการปูทางเพื่อการผนวกดินแดนอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

ยูเครน-รัสเซียแลกเปลี่ยนเชลยครั้งใหญ่กว่า 200 คน

ชาวยูเครนและชาวต่างชาติกว่า 200 คน ได้รับการปล่อยตัวแล้ว ในการแลกเปลี่ยนเชลยครั้งใหญ่ที่สุดกับรัสเซีย ขณะที่กระแสตื่นกลัวการถูกบังคับให้ออกรบ ทำให้ชาวรัสเซียประท้วงและหนีออกนอกประเทศจำนวนมาก

ฟินแลนด์เผยชาวรัสเซียเดินทางข้ามพรมแดนทางบกมากขึ้น

เฮลซิงกิ 22 ก.ย. – ฟินแลนด์เผยว่าการจราจรทางถนนบนเส้นทางเชื่อมชายแดนติดรัสเซีย มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงคืนวันพุธ หลังประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ประกาศคำสั่งระดมพลรัสเซียครั้งแรก หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สำนักงานความมั่นคงชายแดนฟินแลนด์ เผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สในวันนี้ว่าการจราจรทางถนนบนเส้นทางเชื่อมชายแดนติดรัสเซีย ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของฟินแลนด์ มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงคืนวันพุธ แต่ยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ โดยมีชาวรัสเซียเดินทางข้ามพรมแดนเข้ามา 4,824 คน น้อยกว่าที่เข้ามาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่มากกว่าวันพุธก่อนที่เข้ามา 3,133 คน นายแอนติ ไคโคเนน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของฟินแลนด์ เผยเมื่อวันพุธว่า ฟินแลนด์กำลังเฝ้าระวังสถานการณ์ที่พรมแดนติดรัสเซีย หลังประธานาธิบดีปูตินสั่งระดมพลรัสเซียไปเข้าร่วมสงครามยูเครนเมื่อวานนี้ ขณะที่นายเปกกา ฮาวิสโต รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของฟินแลนด์ กล่าวในระหว่างเดินทางเยือนนครนิวยอร์กของสหรัฐ เมื่อคืนวันพุธว่าฟินแลนด์กำลังพิจารณาจำกัดจำนวนชาวรัสเซียที่เดินทางข้ามพรมแดนทางบกจากรัสเซีย ฟินแลนด์เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป หรืออียู ที่ยังคงเปิดพรมแดนต้อนรับชาวรัสเซีย หลังจากชาติตะวันตกได้ประกาศใช้มาตรการปิดพรมแดนทั้งทางบกและทางอากาศไม่ให้ชาวรัสเซียเดินทางเข้าประเทศ เพื่อตอบโต้ที่รัสเซียรุกรานยูเครน ล่าสุดสมาชิกอียูที่มีพรมแดนติดรัสเซียอย่างเอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย และโปแลนด์ เริ่มไม่อนุญาตให้ชาวรัสเซียข้ามพรมแดนเข้ามาตั้งแต่เที่ยงคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่าชาวรัสเซียไม่ควรเดินทางในขณะที่ประเทศกำลังทำสงครามกับยูเครน. -สำนักข่าวไทย

“เซเลนสกี” เรียกร้องให้รัสเซียถูกลงโทษตามกฎหมาย

นิวยอร์ก 22 ก.ย. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ระบุว่า รัสเซียต้องถูกลงโทษตามกฎหมายจากการเปิดฉากบุกโจมตียูเครน ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ โต้กลับคำขู่ใช้อาวุธนิวเคลียร์ของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียอย่างดุเดือด และให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนยูเครนต่อไป ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวผ่านคลิปวิดีโอที่ได้รับการบันทึกล่วงหน้าและเปิดต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ที่นครนิวยอร์กของสหรัฐเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่น เรียกร้องให้จัดตั้งศาลสงครามพิเศษและแจกแจงรายละเอียดตามที่กล่าวหารัสเซียว่าก่ออาชญากรรมสงคราม ผู้นำยูเครนยังได้เผยถึงแนวปฏิบัติสู่สันติภาพ เช่น การสนับสนุนทางทหารและการลงโทษรัสเซียในเวทีโลกมากขึ้น นอกจากนี้ เขายังกล่าวถึงคำสั่งระดมพลรัสเซียของประธานาธิบดีปูตินว่าแสดงให้เห็นถึงความไม่จริงจังในการเดินหน้าเจรจาเพื่อสันติภาพ และประณามการประกาศทำประชามติในดินแดนที่รัสเซียยึดจากยูเครนเพื่อเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ทั้งนี้ การกล่าวคำปราศรัยของประธานาธิบดีเซเลนสกีได้รับการลุกขึ้นยืนปรบมือให้เกียรติจากผู้เข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็น ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีไบเดนได้กล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมเดียวกัน ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ประธานาธิบดีปูตินประกาศระดมพลรัสเซียครั้งแรกหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และเตือนว่ารัสเซียมีอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมากที่สามารถนำมาใช้ตอบโต้ภัยคุกคามของชาติตะวันตกที่มีต่อดินแดนรัสเซีย ไบเดนกล่าวว่า ประธานาธิบดีปูตินและความทะเยอทะยานแบบผู้นำจักรวรรดิของเขาเป็นภัยคุกคามต่อค่านิยมของยูเอ็น พร้อมให้คำมั่นที่จะสนับสนุนยูเครนต่อไปและเดินหน้าเกลี้ยกล่อมให้กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเลิกวางตัวเป็นกลางต่อสถานการณ์ในยูเครน.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียกวาดจับคนประท้วงคำสั่งระดมพล

มอสโก 22 ก.ย.- กลุ่มสิทธิมนุษยชนในรัสเซียเผยว่า มีคนถูกจับกุมมากกว่า 3,000 คนจากการชุมนุมทั่วรัสเซีย ประท้วงประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินที่สั่งระดมพลบางส่วนเพื่อต่อสู้กับยูเครน กลุ่มโอวีดี-อินโฟ (OVD-Info) ที่มุ่งต่อต้านการข่มเหงทางการเมืองแจ้งว่า มีคนถูกจับกุมอย่างน้อย 1,332 คนถูกควบคุมตัวตามสถานที่ชุมนุมใน 38 เมือง หลังจากสถานีโทรทัศน์ของรัฐแพร่ภาพการแถลงของประธานาธิบดีปูตินเมื่อเช้าวันพุธตามเวลาท้องถิ่น เป็นการชุมนุมในรัสเซียครั้งใหญ่ที่สุดนับจากการชุมนุมที่เกิดขึ้นหลังจากปูตินประกาศเรื่องใช้ปฏิบัติการทางทหารกับยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ มีรายงานคนถูกตำรวจปราบจลาจลจับกุมกลางถนนชอปปิงหลักในกรุงมอสโกอย่างน้อย 50 คน ส่วนที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ตำรวจควบคุมตัวผู้ประท้วงแบบประกบตัวต่อตัว ขณะที่ผู้ประท้วงตะโกนว่า ไม่เอาการระดมพล สำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ของรัสเซียรายงานว่า กระทรวงมหาดไทยอ้างว่าได้ทำลายความพยายามจัดการชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาต และสามารถยุติการชุมนุมทุกแห่ง ส่วนผู้ทำการฝ่าฝืนถูกตำรวจควบคุมตัวไปแล้วเพื่อรอการสอบสวนและดำเนินคดี นายเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียเผยเมื่อวานนี้ว่า รัสเซียจะระดมพลกำลังสำรองในเบื้องต้น 300,000 คน หลังจากปูตินกล่าวทางโทรทัศน์กับคนทั้งประเทศว่า จะใช้ทุกช่องทางทางทหารที่มีอยู่ ขณะที่ข้อมูลของบริษัทนำเที่ยวและสายการบินระบุว่า เที่ยวบินออกจากรัสเซียเต็มเกือบทุกเที่ยวแล้วในสัปดาห์นี้ ดูเหมือนจะเป็นการหลั่งไหลออกนอกประเทศของชาวรัสเซียที่ไม่ต้องการเข้าร่วมสงคราม.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียเรียกระดมพลกำลังสำรอง 300,000 คน

นายเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย กล่าวทางโทรทัศน์รัสเซียในวันนี้ว่า รัสเซียจะเรียกระดมพลกำลังสำรองจำนวน 300,000 คน เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน

ยูเครนว่าคำสั่งระดมพลของรัสเซียเป็นเรื่องที่คาดเดาได้

เคียฟ 21 ก.ย. – ยูเครนระบุว่า คำสั่งระดมพลของรัสเซียเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจและคาดเดาได้จากการทำสงครามที่ไม่ได้รับความนิยมและไม่เป็นไปตามแผนการที่รัสเซียวางไว้อย่างมาก นายมิไคโล โปโดเลียก ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์สหลังประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียสั่งระดมพลรัสเซียครั้งแรกหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในวันนี้ว่า ผู้นำรัสเซียพยายามที่จะกล่าวโทษชาติตะวันตกว่าเป็นผู้เริ่มทำสงครามที่ไม่มีเหตุจากการยั่วยุและทำให้สภาพเศรษฐกิจรัสเซียย่ำแย่ลง ทั้งยังระบุว่า คำสั่งระดมพลของรัสเซียเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ ซึ่งดูเหมือนกับเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงความล้มเหลวของรัสเซีย เนื่องจากเห็นได้ชัดว่าการทำสงครามของรัสเซียไม่เป็นไปตามแผนการที่วางไว้ จนทำให้ประธานาธิบดีปูตินต้องสั่งระดมพล ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ไม่ได้รับความนิยมอย่างมากและเป็นการจำกัดสิทธิประชาชนอย่างร้ายแรง ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีปูตินได้สั่งระดมพลรัสเซียครั้งแรกหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในวันนี้ พร้อมเตือนชาติตะวันตกว่า หากยังคงขู่กรรโชกด้วยนิวเคลียร์ รัสเซียก็จะตอบโต้ด้วยแสนยานุภาพทางอาวุธที่มีอยู่ทั้งหมด ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าวถือเป็นการยกระดับสถานการณ์ขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนอย่างมีนัยสำคัญ และมีขึ้นในขณะที่รัสเซียกำลังเปิดฉากโจมตีปฏิบัติการโต้กลับอย่างรวดเร็วของยูเครนที่ทำให้กองทัพรัสเซียต้องถอนกำลังทหารออกจากดินแดนบางส่วนที่ยึดมาจากยูเครนในที่สุด.-สำนักข่าวไทย

“ปูติน” สั่งระดมพลรัสเซียครั้งแรกหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย สั่งระดมพลรัสเซียเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเตือนตะวันตกว่าหากยังคงขู่กรรโชกด้วยนิวเคลียร์ รัสเซียจะตอบโต้ด้วยแสนยานุภาพทางอาวุธที่มีอยู่ทั้งหมด

ผู้นำโลกประณามเหตุรัสเซียบุกยูเครนในงานสมัชชายูเอ็น

นิวยอร์ก 21 ก.ย. – ผู้นำจากทั่วโลกที่เข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ หรือยูเอ็น ในนครนิวยอร์กของสหรัฐ กล่าวประณามการบุกโจมตียูเครนของรัสเซีย ในขณะที่ผู้นำที่ได้รับการหนุนหลังจากรัสเซียในดินแดนที่รัสเซียยึดจากยูเครนประกาศเตรียมทำประชามติเพื่อเข้าร่วมกับรัสเซียในอีกไม่กี่วันข้างหน้า นายดมิทโตร คูเลบา รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของยูเครน ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่สำนักงานใหญ่ของยูเอ็นในนครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นที่จัดประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติในครั้งนี้ที่คาดว่าจะมีวาระสำคัญเกี่ยวกับประเด็นสงครามยูเครน เมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า รัสเซียทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ และจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง ทั้งยังระบุผ่านทวิตเตอร์ในเวลาต่อมาว่า ยูเครนมีสิทธิในการปลดแอกดินแดนที่ถูกรัสเซียยึดครอง และจะทำเช่นนั้นต่อไปโดยไม่สนใจคำพูดของรัสเซีย นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนี ระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย จะล้มเลิกแผนทะเยอทะยานแบบผู้นำจักรวรรดิที่เสี่ยงต่อการทำลายทั้งยูเครนและรัสเซีย ก็ต่อเมื่อเขายอมรับว่าไม่สามารถชนะสงครามครั้งนี้ได้เท่านั้น นี่คือสาเหตุว่าทำไมจึงไม่มีใครยอมรับข้อตกลงสันติภาพของรัสเซีย และเป็นเหตุผลว่าทำไมยูเครนถึงต้องมีสิทธิที่จะป้องกันการโจมตีจากรัสเซีย ส่วนนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น กล่าวในที่ประชุมว่า ความน่าเชื่อถือของยูเอ็นกำลังตกอยู่ในระดับอันตราย เนื่องจากการบุกโจมตียูเครนของรัสเซีย สมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี และจำเป็นต้องปฏิรูปหน่วยงานดังกล่าว ในขณะเดียวกัน ผู้นำที่ได้รับการหนุนหลังจากรัสเซียในดินแดนที่รัสเซียยึดจากยูเครนได้ประกาศทำประชามติในแคว้นลูฮันสก์ โดเนตสก์ เคอร์ซอน และซาปอริชเชีย ในวันที่ 23-27 กันยายน ซึ่งนับเป็นพื้นที่ร้อยละ 15 จากพื้นที่ทั้งหมดของยูเครน โดยมีขนาดเทียบเท่ากับพื้นที่ของประเทศฮังการี.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ หญิงอังกฤษจะขึ้นเวทีโลกครั้งแรก

นายกรัฐมนตรีลิซ ทรัสส์ ของอังกฤษ จะเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรกด้วยการเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติหรือยูเอ็น ที่สหรัฐ และจะรับปากต่อที่ประชุมเรื่องอังกฤษจะเพิ่มความช่วยเหลือทางทหารให้แก่ยูเครนในปีหน้า

ชาวยูเครนค้นหาญาติในหลุมศพเมืองที่รัสเซียถูกขับออกไป

อีซุม 18 ก.ย.- ผู้อาศัยในเมืองอีซุม แคว้นคาร์คิฟ ทางตะวันออกของยูเครน ออกค้นหาญาติที่คาดว่าจะเสียชีวิตแล้ว หลังจากเจ้าหน้าที่ขุดศพขึ้นมาจากหลุมศพในป่าที่ระบุว่ามีหลายร้อยศพ และคงเดินหน้าขุดอยู่ เป็นพื้นที่ที่กองกำลังรัสเซียถูกขับออกไปก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ยูเครนพบหลุมศพดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อน และยังไม่ได้ระบุสาเหตุการเสียชีวิต ชาวเมืองเผยว่า บางคนเสียชีวิตเพราะรัสเซียใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ขณะที่เจ้าหน้าที่พบศพหนึ่งถูกมัดมือและเห็นรอยเชือกรอบลำคอ ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนกล่าวเมื่อคืนวันเสาร์ว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนพบหลักฐานการทรมานผู้คนที่ถูกฝังในเมืองอีซุม ซึ่งเป็น 1 ใน 20 กว่าเมืองในแคว้นคาร์คิฟที่กองกำลังยูเครนสามารถยึดคืนจากรัสเซียด้วยการใช้ปฏิบัติการโต้กลับสายฟ้าแลบตั้งแต่ต้นเดือน ผู้นำยูเครนอ้างว่า เจ้าหน้าที่พบห้องทรมานมากกว่า 10 ห้องในพื้นที่ที่ได้รับการปลดแอก เป็นวิธีการที่นาซีเคยใช้ และขณะนี้รัสเซียก็นำมาใช้ รัสเซียจะต้องตอบคำถามเรื่องนี้ทั้งในสมรภูมิและศาลยุติธรรม เมืองอีซุมถูกรัสเซียยึดในเดือนเมษายน นายวิตาลี กันเชฟ หัวหน้าหน่วยงานบริหารที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซียและหนีไปตั้งแต่ต้นเดือนให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์รอสสิยา-24 ของรัสเซียว่า ชาวยูเครนเป็นฝ่ายจัดฉากความโหดร้ายขึ้นมาเอง เพราะเขาไม่ทราบเรื่องการฝังศพใด ๆ เลย.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียยืนยันไม่แบนนักท่องเที่ยวรัสเซีย

นายริชาร์ด มาร์เลส รัฐมนตรีกลาโหมออสเตรเลีย ยืนยันว่า ออสเตรเลียจะไม่ห้ามนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเข้าประเทศ แม้ว่าใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียที่ทำสงครามกับยูเครนก็ตาม

1 68 69 70 71 72 163
...