ยูเครนยึดฐานที่มั่นสำคัญทางตะวันออกคืนจากรัสเซีย

เคียฟ 2 ต.ค.- กองกำลังยูเครนเผยว่า สามารถยึดเมืองลีมัน ซึ่งเป็นฐานที่มั่นสำคัญในแคว้นโดเนตสก์ ทางตะวันออกของประเทศคืนจากรัสเซียได้แล้ว เป็นชัยชนะครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการโต้กลับสายฟ้าแลบเมื่อเดือนก่อน ด้านพันธมิตรผู้นำรัสเซียเรียกร้องให้ใช้อาวุธนิวเคลียร์


ทหารยูเครนบันทึกคลิปหน้าสภาเทศบาลเมืองลีมันและโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์ว่า สามารถปลดแอกและยึดเมืองลีมันในแคว้นโดเนตสก์คืนได้เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น จากนั้นนำธงชาติรัสเซียลงจากหลังคาสภาเทศบาลและเชิญธงชาติยูเครนขึ้นไปแทน ด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมงว่า กำลังถอนทหารออกจากพื้นที่ดังกล่าวเนื่องจากเสี่ยงถูกปิดล้อม กองกำลังยูเครนเผยว่า รัสเซียมีทหารอยู่ในเมืองนี้ราว 5,000-5,500 นายก่อนถอนกำลังออกไป

รอยเตอร์ระบุว่า รัสเซียใช้เมืองลีมันเป็นศูนย์การขนส่งและโลจิสติกส์สำหรับปฏิบัติการทางทหารทางตอนเหนือของแคว้นโดเนตสก์ การยึดคืนได้ในครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ที่สุดของกองกำลังยูเครนที่เริ่มใช้ปฏิบัติการโต้กลับสายฟ้าแลบในแคว้นคาร์คิฟ ทางตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อเดือนกันยายน ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนกล่าวในคลิปที่บันทึกเมื่อค่ำวันเสาร์ว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาธงของยูเครนได้โบกสะบัดในภูมิภาคดอนบาสเพิ่มมากขึ้น และจะเพิ่มขึ้นอีกภายใน 1 สัปดาห์


รัมซัน กาดีรอฟ ผู้นำสาธารณรัฐเชเชน

ภูมิภาคดอนบาสครอบคลุมแคว้นโดเนตสก์และแคว้นลูฮันสก์ที่ส่วนใหญ่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียเพิ่งประกาศผนวกทั้ง 2 แคว้นนี้ รวมถึงแคว้นเคอร์ซอนและแคว้นซาปอริชเชียเมื่อวันศุกร์ ทำให้ทั้ง 4 แคว้นซึ่งมีพื้นที่เกือบ 1 ใน 5 ของยูเครนอยู่ภายใต้หลักการใช้อาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซีย ด้านนายรัมซัน กาดีรอฟ ผู้นำสาธารณรัฐเชเชนที่เป็นหนึ่งในสหพันธรัฐรัสเซียโพสต์ในเทเลแกรมก่อนที่ที่ผู้นำยูเครนเผยแพร่คลิปว่า โดยส่วนตัวแล้วเขาเห็นว่าควรใช้มาตรการที่รุนแรงมากขึ้นด้วยการประกาศกฎอัยการศึกตามพื้นที่ชายแดนและใช้อาวุธนิวเคลียร์ที่มีอำนาจทำลายต่ำ ปูตินกล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ไม่ได้ขู่ที่บอกว่าพร้อมใช้อาวุธทุกอย่างที่มีอยู่เพื่อปกป้องบูรณภาพทางดินแดน และกล่าวขณะประกาศผนวกแคว้นของยูเครนว่า แคว้นเหล่านี้อยู่ภายใต้หลักการนี้ด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก