มอสโก 26 ก.ย.- นายดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ขู่ใช้อาวุธนิวเคลียร์โจมตียูเครนว่า พันธมิตรทางทหารที่นำโดยสหรัฐจะไม่เข้ามาข้องเกี่ยวโดยตรงกับความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน เพราะกลัวหายนะนิวเคลียร์
นายเมดเวเดฟ วัย 57 ปี รองประธานสภาความมั่นคงรัสเซียโพสต์ในเทเลแกรมว่า รัสเซียมีสิทธิที่จะปกป้องตนเองด้วยอาวุธนิวเคลียร์หากถูกกดดันจนเลยขีดจำกัด เรื่องนี้ไม่ใช่การขู่ให้กลัว ขอให้ลองนึกภาพรัสเซียถูกบีบให้ต้องใช้อาวุธที่น่ากลัวที่สุดกับระบอบยูเครนที่ดำเนินการรุกรานขนานใหญ่ที่เป็นอันตรายต่อการดำรงอยู่ของรัสเซีย เขาเชื่อว่า องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต จะไม่เข้ามาแทรกแซงความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน แม้แต่ในกรณีดังกล่าว เพราะบรรดาผู้ปลุกปั่นยุยงในยุโรปและข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกไม่อยากตายเพราะหายนะนิวเคลียร์ นายเมดเวเดฟซึ่งเป็นคนสนิทของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ย้ำว่า ขอเตือนไปถึงคนหูหนวกที่ฟังแต่เสียงของตัวเองว่า รัสเซียมีสิทธิที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์หากจำเป็น โดยจะทำล่วงหน้าและเป็นไปตามนโยบายของประเทศอย่างเคร่งครัด
ประธานาธิบดีปูตินประกาศระดมพลเมื่อวันพุธ ซึ่งเป็นครั้งแรกของประเทศนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 และสนับสนุนการลงประชามติขอรวมกับรัสเซียในดินแดนยูเครนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย พร้อมกับเตือนชาติตะวันตกว่า เขาไม่ได้ขู่ให้กลัวเมื่อพูดว่าพร้อมจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ปกป้องรัสเซีย ทั้งนี้รัสเซียมีหลักการเรื่องการใช้อาวุธนิวเคลียร์ว่า ประธานาธิบดีอาจใช้อาวุธนิวเคลียร์หากประเทศเผชิญภัยที่มีอยู่จริง รวมถึงภัยจากอาวุธทั่วไป ปัจจุบันหัวรบนิวเคลียร์ร้อยละ 90 ของทั้งโลกอยู่ในความครอบครองรัสเซียและสหรัฐ.-สำนักข่าวไทย