จีน

กระทรวงต่างประเทศเมียนมากล่าววันนี้ว่า จีนจะโอนเงินมากกว่า 6 ล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 200 ล้านบาทให้แก่รัฐบาลเมียนมา เพื่อใช้เป็นกองทุนในโครงการพัฒนา 21 โครงการ ซึ่งเป็นสัญญาณแสดงให้เห็นว่า ความร่วมมือได้กลับมาเดินหน้าต่อไปแล้วภายใต้รัฐบาลทหาร หลังจากก่อรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์

ศาลจีนตัดสินวันนี้ว่านายไมเคิล สปาวอร์ นักธุรกิจชาวแคนาดา มีความผิดฐานจารกรรมความลับและลงโทษจำคุกเขาเป็นเวลา 11 ปี ซึ่งการตัดสินคดีในครั้งนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับความพยายามของจีนในการกดดันรัฐบาลแคนาดากรณีการจับกุมและแผนการส่งตัวผู้บริหารระดับสูงของหัวเว่ย บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนไปยังสหรัฐ

จีนเรียกร้องในวันนี้ให้ลิทัวเนียถอนทูตประจำกรุงปักกิ่งกลับประเทศ พร้อมกับระบุว่า จีนก็จะเรียกตัวทูตจีนประจำกรุงวิลนีอุสกลับประเทศด้วยเช่นกัน จากกรณีที่ลิทัวเนีย อนุญาตให้ไต้หวันเป็นสำนักงานตัวแทนที่เป็นเสมือนสถานทูตในในลิทัวเนียโดยใช้ชื้อไต้หวัน

สำนักข่าวไชนา นิวส์ เซอร์วิส ของทางการจีน รายงานวันนี้ว่า ประชาชนมากกว่า 80,000 คน ต้องอพยพจากบ้านเรือนเนื่องจากเกิดฝนตกอย่างหนักและน้ำท่วมในมณฑลเสฉวนทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน

ซีซีทีวี โทรทัศน์ของทางการจีนรายงานว่า ฝนที่ตกอย่างหนักที่มณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ทำให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่า 250 ล้านหยวน หรือ ประมาณ 1,300 ล้านบาท

กระทรวงกลาโหมสหรัฐกล่าววานนี้ว่า กระทรวงต่างประเทศสหรัฐอนุมัติแผนการจำหน่ายระบบปืนใหญ่เฮาวิตเซอร์ขนาด 155 มิลลิเมตร รุ่นเอ็ม109เอ6 ขนาดกลางที่ขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเองจำนวน 40 กระบอก ในข้อตกลงมูลค่า 750 ล้านดอลลาร์

ฮานอย 29 ก.ค. – พลเอกลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐหาทางกระชับความสัมพันธ์กับเวียดนามที่กำลังค่อย ๆ แน่นแฟ้นขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ทั้งสองประเทศต่างเฝ้าระวังกิจกรรมของจีนในทะเลจีนใต้ด้วยความระมัดระวังมากขึ้น พลเอกออสตินกล่าวก่อนเข้าร่วมการประชุมกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลเวียดนามในกรุงฮานอยว่า สหรัฐไม่ได้ขอให้เวียดนามเลือกว่าจะอยู่ข้างประเทศใด แต่มีเป้าหมายหลักข้อหนึ่งคือ การสร้างความมั่นใจให้ประเทศพันธมิตรว่า พวกเขามีอิสระและมีพื้นที่ในการวางแผนสำหรับอนาคต อย่างไรก็ดี พลเอกออสตินไม่ได้กล่าวถึงจีนโดยตรง แต่เป็นที่รู้กันในทวีปเอเชียว่าจีนกำลังพยายามทำให้ประเทศต่าง ๆ เลือกอยู่ข้างจีนหรือสหรัฐ เนื่องจากความตึงเครียดระหว่างทั้งสองชาติมหาอำนาจได้ทวีความรุนแรงขึ้น ขณะที่ประธานาธิบดีเหวียน ซวน ฟุก ของเวียดนามกล่าวในการประชุมร่วมกับพลเอกออสตินเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า เขาตั้งตารอการเดินทางเยือนเวียดนามของนางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างแหล่งข่าวไม่เผยนามว่า นางแฮร์ริสมีกำหนดเดินทางเยือนเวียดนามและสิงคโปร์ในเดือนสิงหาคม แม้สหรัฐและเวียดนามมีความสัมพันธ์ทางทหารที่แน่นแฟ้นมากขึ้นเป็นเวลากว่า 40 ปีหลังสงครามเวียดนามสิ้นสุดลงในปี 2518 แต่รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดนเคยระบุว่า ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศยังคงมีข้อจำกัดจนกว่ารัฐบาลเวียดนามจะแก้ปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ เวียดนามถือเป็นหนึ่งในประเทศที่ต่อต้านการอ้างสิทธิเหนือทะเลจีนใต้ของจีนมากที่สุด และได้รับยุทโธปกรณ์ทางทหารของสหรัฐ เช่น เรือตรวจการณ์.-สำนักข่าวไทย