กต. ฟาด “ผู้นำกัมพูชา” หยุดแทรกแซงการเมืองไทย

ก.ต่างประเทศ 2 ก.ค.- กต. ฟาด “ผู้นำกัมพูชา” จ้อสื่อออนไลน์ อยากเห็นไทยเปลี่ยนผู้นำประเทศ แทรกแซงกิจการการเมืองไทย ขัดกฎหมายระหว่างประเทศร้ายแรง “นิกรเดช” เรียกร้องใช้สันติวิธีแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่มีการแสดงความเห็นของผู้นำกัมพูชาในสื่อสังคมออนไลน์ในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการกล่าวในลักษณะเรียกร้องและต้องการเห็นการเปลี่ยนผู้นำของรัฐบาลไทย ว่า รัฐบาลไทยเห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของไทย ซึ่งขัดต่อกฎบัตรอาเซียน กฎบัตรสหประชาชาติ และกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง รัฐบาลไทยจึงขอเรียกร้องให้ผู้นำกัมพูชายุติการกระทำในลักษณะดังกล่าวโดยทันที เนื่องจากการดำเนินการเช่นนี้มีผลเสียต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศอย่างร้ายแรง และขอเรียกร้องให้กัมพูชาหันมาแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธีระหว่างสองประเทศโดยเร็ว.-312.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก.​ พร้อมทำหน้าที่ต่อ เข้มสกัดลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตร​

ทำเนียบ 2 ก.ค.-ศบ.ทก.​ ขอประชาชนมั่นใจ​ แม้ปรับ ครม.​ พร้อมทำหน้าที่ต่อ​ ตามมติ สมช.​ มอบอำนาจพิจารณา​ยกระดับ​-​ผ่อนปรนมาตรการได้ตามสถานการณ์​ โต้​สื่อกัมพูชา​นำเสนอข่าว​ไทยปิดด่าน​ ครม.วานนี้​ สั่งการ​สกัดลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตร​-​ขยายเวลาการทำงานแรงงานต่างด้าว พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย และ นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ​ ศบ.ทก.​ ประจำวันพุธที่ 2 กรกฎาคม​ 2568 โดยพลเรือตรี​สุร​สันต์​ กล่าวว่า​ การดำเนินการของ ศบ.ทก.​ จะยังดำเนินการอย่างต่อเนื่องไม่หยุด แม้จะมีการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี โดยมติสภาความมั่นคงแห่งชาติครั้งที่ 5/2568 เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ที่ผ่านมาเรื่องมาตรการรองรับสถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่บริเวณชายแดนไทยกัมพูชา ได้มีมติ 4 ข้อ คือการรับทราบผลการปฏิบัติของ ศบ.ทก.ในการควบคุมพื้นที่ใช้แดนไทยกัมพูชา พร้อมกับให้ความเห็นชอบกำหนดงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมติ สมช.​ อาทิ มาตรการควบคุมและผ่อนปรนบุคคลยานพาหนะสินค้า​ รวมทั้งมาตรการบรรเทาผลกระทบต่างๆ รวมไปถึงการเห็นชอบการขยายมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนประเภทต่างๆ ให้ครอบคลุมทั้งการจำกัดและการผ่อนผันบุคคลยานพาหนะและสินค้าที่ผ่านเข้าออกจุดผ่านแดน และมอบหมายให้ ศบ.ทก.เป็นกลไกหลักในการพิจารณา​ […]

ผบ.ทอ. พร้อมส่งเครื่องบินรบปฏิบัติการภายใน 5 นาที

รัฐสภา 27 มิ.ย.-ผบ.ทอ. พร้อมส่งเครื่องบินรบปฏิบัติการภายใน 5 นาที หากใช้กำลังทหารชายแดนไทย-กัมพูชา บอก “ฮุนมาเนต” ไทยแค่ปกป้องอธิปไตยไม่รุกรานใคร หลังประกาศตบโบนัสทหารกัมพูชาที่ยิงเครื่องบินรบไทยตก พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) กล่าวถึงกรณีที่การประชุมสภากลาโหมได้อนุมัติให้เตรียมแผนเผชิญเหตุในสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า การเตรียมความพร้อมของเราเป็นการเตรียมควมพร้อมปกติ ซึ่งหากเกิดสถานการณ์สู้รบก็สามารถนำเครื่องบินขึ้นปฏิบัติการได้ภายใน 5 นาที เมื่อถามถึง กรณี พล.อ.ฮุนมาเน็ต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศจะให้โบนัสทหารกัมพูชาที่ยิงเครื่องบินรบของไทยตกนั้น ผบ.ทอ. กล่าวว่า การปฏิบัติการของเราคงไม่ถึงขนาดนั้น หน้าที่ของเราก็เพื่อปกป้องอธิปไตย ไม่มีอะไรที่จะต้องไปกังวล เพราะเราไม่ได้รุกรานใคร เพียงแต่เราต้องเตรียมความพร้อมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ ส่วนการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการปกป้องอธิปไตนนั้น พล.อ.อ.พันธ์ภักดี กล่าวว่า ตนขอให้มั่นใจในประสิทธิภาพกองทัพ ซึ่งกองทัพอากาศรวมถึงเหล่าอื่นๆ มีความพร้อมสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ เรามีความมั่นใจและเตรียมพร้อมตลอด และยึดมั่นว่าจะไม่รุกรานใคร นอกจากนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ท่านระบุว่า เชื่อมั่นในกองทัพในการร่วมมือกันดูแลประเทศด้วย.-312.-สำนักข่าวไทย

“ฮุน เซน” เตรียมเปิดโปงแผน “ทักษิณ” วันนี้

27 มิ.ย. – จับตา “ฮุน เซน” เตรียมเปิดเผยแผนการ “ทักษิณ” จะเปลี่ยนแปลงผู้นำไทย ลั่นไม่เคยทรยศใครก่อน ขณะที่ “ฮุน มาเนต” ประกาศรอดู ใครคือผู้กุมพลังที่แท้จริงในไทย ‘พนมเปญโพสต์’ รายงานว่า สมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เตรียมเปิดเผยแผนการของนายทักษิณ ชินวัตร ที่จะเปลี่ยนแปลงผู้นำไทย และยังเตือนว่า เขาจะเปิดเผยแผนของนายทักษิณ ชินวัตร ที่จะเปลี่ยนแปลงผู้นำของไทย รวมถึงการดูหมิ่นสถาบัน จะส่งข้อความพิเศษนี้ไปยังประชาชนชาวไทย วันนี้ สอดคล้องกับที่ สมเด็จฮุน เซน กล่าวระหว่างการลงพื้นที่จังหวัดพระวิหาร ซึ่งมีพรมแดนติดกับไทย ว่า “ผมยอมให้คนอื่นทรยศผมก่อน ผมไม่เคยเป็นฝ่ายทรยศใครก่อน แต่ตอนนี้ผมถูกทรยศแล้ว ผมจึงจำเป็นต้องเปิดเผยสิ่งที่ครอบครัวทักษิณได้ทำลงไป ว่าเป็นการทรยศประเทศตัวเอง นี่คือคำเตือน คุณควรสั่งสอนลูกของคุณ และพวกเขาควรเข้าใจว่าพ่อของเขาและคนอื่น ๆ ทำอะไรเอาไว้บ้าง” ส่วน เฟรชนิวส์ สื่อของกัมพูชา รายงานถึงการลงพื้นที่ของ ‘สมเด็จฯ ฮุน เซน’ ที่จังหวัดอุดรมีชัย […]

“ฮุน เซน” สวมบทโหร ทำนาย 3 เดือนไทยมีนายกฯ ใหม่

25 มิ.ย. – “ฮุน เซน” สวมบทโหร ทำนาย 3 เดือนไทยมีนายกฯ ใหม่ พร้อมบอกให้คนไทยไปรวบรวมกำลัง แก้ไขความขัดแย้งในประเทศ ดีกว่ามารบกวนกันในโลกโซเชียล เมื่อวานนี้ ในเพจของสมเด็จฮุนเซน มีคนไทยเข้าไปคอมเมนต์จำนวนมาก จนกระทั่งล่าสุด ปิดกั้นไม่ได้คนไทยเห็นอีกแล้ว แต่ก่อนจะปิด ‘ฮุน เซน’ ได้คอมเมนต์ใต้โพสต์ของตัวเอง บอกว่า “อย่ามารบกวน กลับไปจัดการปัญหาในประเทศตัวเองก่อน” แล้วอ้างว่า ขนาดในเฟซบุ๊กยังมีการรุกรานโดยการจัดตั้งของผู้นำใน กทม. โพสต์ดังกล่าวแปลเป็นไทยว่า “การโพสต์ของผมในวันนี้ ต้องการชี้ให้เห็นว่า แม้แต่ Facebook พวกผู้รุกราน ก็ยังเข้ามารบกวน ไม่ต้องพูดถึงแผ่นดินจริงๆ การเคลื่อนไหวเหล่านี้ดูเหมือนมีเบื้องหลัง การจัดตั้งอย่างเป็นระบบจากผู้นำในกรุงเทพฯ การกระทำที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงแค่การรุกรานดินแดนเท่านั้น แต่ยังขยายมาสู่พื้นที่สื่อสังคมออนไลน์ ประเมินได้ว่าเป็นความพยายามเบี่ยงเบนความสนใจจากความขัดแย้งภายในประเทศไทย มาสู่การเผชิญหน้ากับกัมพูชาแทน ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามมากแค่ไหนการแย่งชิงอำนาจภายในประเทศของเขาก็ไม่มีทางคลี่คลายได้” แล้วยังทำนายด้วยว่า “ภายใน 3 เดือนข้างหน้า ประเทศไทยจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แม้ตนจะทราบดีว่าใครจะขึ้นดำรงตำแหน่ง แต่จะขอไม่เปิดเผย ให้เดาเอา และยังบอกว่า ให้กลับไปรวบรวมกำลัง เพื่อแก้ไขความขัดแย้งภายในประเทศตัวเองดีกว่าที่จะมารบกวนกันในโลกโซเชียล” ขณะที่ […]

โฆษก กต. ชี้เพื่อนบ้านที่ดี ต้องไม่ยื่นคำขู่

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.- กต.แถลงผลประชุม JBC ผิดหวังกัมพูชาเมินกลไกทวิภาคี “นิกรเดช” ยันเตรียมรับมือไว้แล้ว ชี้เพื่อนบ้านที่ดี ต้องไม่ยื่นคำขู่ บอกไทยมีสติรอบคอบ เน้นตอบโต้ระดับรัฐบาล ไม่ใช้ความสัมพันธ์ระดับประเทศมาเป็นประเด็นการเมือง เจรจาด้วยความจริงใจ-สุจริตใจ ขณะ JBC ครั้งหน้า กัมพูชาตอบรับมาแล้ว ก.ย.นี้ กระทรวงการต่างประเทศ จัดแถลงข่าวสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 14-15 มิ.ย.68 นำโดยนายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการ JBC ฝ่ายไทย และนายเบจมินทร์ สุกาญจนัทจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย นายนิกรเดช เปิดเผยว่าตามที่ได้ทราบแล้วว่าเมื่อคืนวานนี้ (15 มิ.ย.68) กระทรวงการต่างประเทศได้ออกแถลงข่าวเรื่องผลการประชุม JBC สะท้อนท่าทีว่าไทยที่ชัดเจนเรื่องการปกป้องผลประโยชน์ของชาติ และกลไกทวิภาคีตามที่รัฐบาลไทยได้แถลงยืนยันมาโดยตลอดว่า ไทยยึดมั่นในการใช้กลไกทวิภาคีเพื่อแก้ไขปัญหาเขตแดนด้วยความจริงใจและสุจริตใจ รวมถึงการเข้าร่วมประชุม JBC ที่ผ่านมาที่ไทยเข้าร่วมด้วยความตั้งใจจริงและความสุจริตใจที่จะเห็นผลลัพธ์เป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย […]

จับตาประชุม JBC วันที่ 2 หลังกัมพูชายื่นศาลโลก

กัมพูชา 15 มิ.ย.-ผู้สื่อข่าวกัมพูชา รายงานการประชุม JBC ไทย-กัมพูชา วันที่ 2 เริ่มขึ้นแล้ว ที่กรุงพนมเปญ หลังวานนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยมีการประชุมวงเล็กก่อน จากนั้นอาจมีการแถลงร่วมกัน ต้องจับตาว่าวันนี้จะได้ข้อยุติหรือไม่ รวมถึงท่าทีของแต่ละฝ่าย หลังกัมพูชายื่นศาลโลก.-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ชี้กัมพูชาถอย เป็นความสำเร็จเจรจา “ฮุนเซน-ฮุนมาเนต”

ทำเนียบ 9 มิ.ย.-“ภูมิธรรม” ชี้กัมพูชายอมถอย เป็นความสำเร็จจากการเจรจา “ฮุนเซน-ฮุนมาเนต” และพูดคุยในทุกระดับ โยน กองทัพพิจารณามาตรการปิดด่าน เชื่อสถานการณ์จะค่อยๆ คลี่คลาย ย้ำถก JBC ยึดกรอบเดิม ไม่มีคุยปม 3 ปราสาท หวังความชัดเจนเส้นเขตแดน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชายอมถอนกำลังออกจากจุดประทะ และกลับไปอยู่ ในจุดที่เคยอยู่เมื่อปี 2567 ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากหลายปัจจัย และเป็นขบวนการที่พยายามพูดคุยกันทุกระดับ ตั้งแต่ระดับนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี จนไปถึงระดับกองทัพ โดยมีทูตทหารของไทยในกัมพูชาเป็นผู้ประสานงาน ซึ่งการพูดคุยมีมาอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงเมื่อวาน เวลาประมาณ 11.00 น. ซึ่งสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ก็เห็นตรงกันว่าอยากหาข้อยุติที่เป็นสันติด้วยกัน เพราะการทำสงครามมันไม่มีประโยชน์ ซึ่งตนได้แจ้งว่า ในฐานะที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่เป็นผู้รับผิดชอบการสั่งให้รบกันมันง่าย แต่ความสูญเสียจะเกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย ดังนั้น สิ่งสำคัญคือจะทำอย่างไรให้ทุกอย่างยุติ โดยไม่เกิดความสูญเสีย สิ่งสำคัญคือ เราอยากลดการเผชิญหน้า ซึ่งจากการพูดคุยพบว่ามี มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนทั้งสองฝ่าย จึงเหมือนว่าการคุยกันยังไม่ยุติ จึงต้องพูดคุยกันใหม่ […]

...