
จีนจะคว่ำบาตรบริษัทสหรัฐที่ขายอาวุธให้ไต้หวัน
รัฐบาลจีนประกาศว่า จะดำเนินมาตรการคว่ำบาตรต่อบุคคลและบริษัทของสหรัฐที่เกี่ยวข้องกับการขายอาวุธให้ไต้หวัน
รัฐบาลจีนประกาศว่า จะดำเนินมาตรการคว่ำบาตรต่อบุคคลและบริษัทของสหรัฐที่เกี่ยวข้องกับการขายอาวุธให้ไต้หวัน
ทางการจีนรายงานวันนี้ว่า มียอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการสูงสุดในรอบเกือบ 7 เดือน หลังพบการระบาดที่ไม่รู้ที่มาในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์
ประชาชนหลายร้อยคนชุมนุมประท้วงในเมืองไทเป ของไต้หวัน ในวันนี้ เพื่อเรียกร้องให้จีนปล่อยตัวชาวฮ่องกง 12 คน ที่ถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่จีนขณะที่กำลังล่องเรือเพื่อรณรงค์สนับสนุนขบวนการประชาธิปไตยในฮ่องกง
เกาหลีเหนือเตือนประชาชนให้อยู่ในแต่ในอาคาร เพราะเกรงว่าฝุ่นตามฤดูกาลที่พัดมาจากจีนอาจนำเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคโควิด-19 มาด้วย
วอชิงตัน 22 ต.ค.- สหรัฐเพิ่มความเข้มงวดระเบียบที่ใช้กับองค์กรสื่อจีนอีก 6 แห่ง โดยระบุว่าเป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อให้แก่ทางการจีน ด้านจีนประกาศจะดำเนินมาตรการตอบโต้ แต่ไม่ได้ระบุชื่อสื่อสหรัฐที่อาจตกเป็นเป้าหมาย นับเป็นครั้งที่สามแล้วที่สหรัฐกำหนดให้องค์กรสื่อจีนมีฐานะเป็นคณะผู้แทนต่างชาติ มีหน้าที่ต้องรายงานรายละเอียดต่อกระทรวงต่างประเทศเรื่องพนักงานที่ทำงานในสหรัฐและการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ นายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐแถลงข่าวว่า องค์กรสื่อที่ถูกประกาศชื่อจะไม่ถูกจำกัดการรายงานข่าว โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงว่า สื่อเสรีทั่วโลกยึดมั่นเรื่องการรายงานความจริง แต่สื่อสาธารณรัฐประชาชนจีนหรือพีอาร์ซี (PRC) ยึดมั่นต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีน สหรัฐจึงแสดงความตระหนักในเรื่องนี้อย่างเปิดเผยผ่านการกำหนดฐานะคณะผู้แทนต่างชาติกับองค์กรสื่อจีนอีก 6 แห่งประกอบด้วยอี้ไขโกลบอล เจี่ยฝ่างเดลี่ ซินหมินอีฟนิงนิวส์ ไชนาโซเชียลไซเอินซ์อินไชนาเพรส (เอสเอสซีพี) ปักกิ่งรีวิว และอีโคโนมิกเดลี ด้านโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนประณามว่า เป็นการกระทำที่ไร้เหตุผล อ้างอิงจากความคิดสมัยสงครามเย็นและอคติทางอุดมการณ์ จีนจะตอบโต้อย่างชอบธรรมและจำเป็น แต่ม่ได้ระบุชื่อสื่อสหรัฐ สหรัฐเคยกำหนดฐานะดังกล่าวกับสื่อชื่อดังของจีน 9 แห่ง เช่น สำนักข่าวซินหัว ซีจีทีเอ็น (CGTN) ทำให้จีนประณามและตอบโต้ด้วยการขับพลเมืองอเมริกันที่ทำงานกับองค์กรสื่อใหญ่สหรัฐ เช่น นิวยอร์กไทมส์ วอชิงตันโพสต์ วอลล์สตรีทเจอร์นัล.-สำนักข่าวไทย
ทางการจีนเผยว่า จะยังคงสั่งห้ามกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนเดินทางออกนอกประเทศ และห้ามบริษัทท่องเที่ยวนำนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ
นักวิเคราะห์มองว่า แม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทำให้จีนปั่นป่วนและไม่พอใจตลอดการดำรงตำแหน่งสมัยแรกมาตั้งแต่ปี 2560 แต่มีหลายเหตุผลที่จีนอาจอยากให้เขาอยู่ต่อเป็นสมัยที่สอง
อภิมหาเศรษฐีของจีนรวยขึ้นกว่าเดิมถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 หรือรวยขึ้นกว่าตลอด 5 ปีที่ผ่านมารวมกัน เนื่องจากอี-คอมเมิร์ซและเกมที่เฟื่องฟูในช่วงที่มีการปิดเมืองเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19
ผลสำรวจพบช่วงโควิด-19 ระบาด จีนมีมหาเศรษฐีพันล้านรายใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 200 คน และยังมีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์
ฮานอย 19 ต.ค.- นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ ของญี่ปุ่น และ นายกรัฐมนตรีเหงียน ซวน ฟุก ของเวียดนาม ตกลงที่จะกระชับความร่วมมือกันในประเด็นระดับภูมิภาค รวมถึงทะเลจีนใต้ที่จีนแสดงท่าทีแข็งกร้าวขึ้นในน่านน้ำพิพาทจนสร้างความกังวลให้แก่ประเทศเพื่อนบ้าน ในการแถลงต่อสื่อมวลชนหลังการประชุมสุดยอด นายกรัฐมนตรีซูงะ ได้ยกเวียดนามว่าเป็นรากฐานสำคัญของความพยายามในการสร้างภูมิภาคอินโด-แปซิฟิคให้เสรีและเปิดกว้าง พร้อมประกาศว่า ญี่ปุ่นจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค ผู้นำญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ระหว่างเยือนต่างประเทศเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง กล่าวว่า ญี่ปุ่นและเวียดนามได้ตกลงในหลักการข้อตกลงทางทหารที่จะเปิดทางให้ญี่ปุ่นสามารถส่งออกอุปกรณ์และเทคโนโลยีทางทหาร อาทิ เครื่องบินลาดตระเวน และเรดาร์ ให้กับเวียดนาม เพื่อช่วยยกระดับความสามารถในการเฝ้าระวังของเวียดนาม หนึ่งในประเทศผู้อ้างสิทธิในพื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้ที่จีนกำลังเสริมสร้างแสนยานุภาพบนเกาะเทียม ผู้นำญี่ปุ่นและเวียดนามยังตกลงจะฟื้นเที่ยวบินปกติระหว่างกันโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จะเปิดช่องทางนักธุรกิจให้ผู้บริหารและคนทำงานมีทักษะเดินทางไปมาหาสู่กันโดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน หากปฏิบัติตามระเบียบบางอย่างในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 นอกจากนี้ยังได้ยืนยันถึงความร่วมมือในประเด็นเกาหลีเหนือ โดยผู้นำญี่ปุ่นกล่าวว่า ผู้นำเวียดนามได้สนับสนุนความพยายามของญี่ปุ่นที่จะนำพลเมืองที่ถูกเกาหลีเหนือลักพาตัวไปในช่วงคริสต์ทศวรรษหลังปี 1970 และ 1980 กลับประเทศ.-สำนักข่าวไทย
ททท.19 ต.ค.-นักท่องเที่ยวในโครงการวีซ่าพิเศษ หรือ STV กลุ่มแรกจากเซี่ยงไฮ้จำนวน 41คน เดินทางถึงสุวรรณภูมิพรุ่งนี้ ส่งเข้ากักตัว14วันและปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติในโครงการวีซ่าพิเศษหรือ STV กลุ่มแรก จะเดินมามาถึงประเทศไทยในวันพรุ่งนี้ (20 ต.ค.) โดยสายการบิน Spring Airlines เที่ยวบินที่ 9C8579จากเซี่ยงไฮ้ ลงสุวรรณภูมิ เวลาประมาณ 17.00 น. จำนวน 41คน โดยไม่มีพิธีการต้อนรับ เนื่องจากต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบและกักตัวตามมาตรการสาธารณสุข และส่งเข้ากักตัวในสถานที่กักตัวตามระเบียบ ASQ หรือ ALSQ เป็นเวลา 14 วัน หลังครบกำหนดแล้วไม่พบเชื้อก็สามารถเดินทางท่องเที่ยวตามปกติ แต่ต้องถูกติดตามโดยแอปพลิเคชันตลอดเวลาที่พำนักในไทย เบื้องต้นรับแจ้งว่า กลุ่มนี้จะเดินทางไปเที่ยวแถบชายทะเล ส่วนในวันที่ 26 ต.ค.กลุ่มที่ 2 จะเดินทางจากกว่างโจว ลงสนามบินสุวรรณภูมิ กว่า 100 คน โดยต้องผ่านขั้นตอนและมาตรการเดียวกัน […]
จีนผ่านกฎหมายฉบับใหม่ที่มีระเบียบเข้มงวดเรื่องการส่งออกสินค้าที่มีความอ่อนไหวเพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มเครื่องมือทางนโยบายในการรับมือกับมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเทคโนโลยีที่ นับวันจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ