ชัวร์ก่อนแชร์: Forbes ยืนยันวัคซีน mRNA เปลี่ยนแปลง DNA ผู้รับวัคซีน จริงหรือ?

15 มีนาคม 2565
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Science Feedback / Politifact (สหรัฐอเมริกา)
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ


ประเภทข่าวปลอม: ทำให้เข้าใจผิด

บทสรุป:


  1. เป็นข้อมูลเท็จจากการพาดหัวที่ไม่ตรงกับเนื้อหาในบทความต้นฉบับ
  2. เนื้อหาบทความกล่าวถึง V(D)J recombination กระบวนการสร้างแอนติบอดีในระบบภูมิคุ้มกันซึ่งเป็นขั้นตอนที่วัคซีนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

ข้อมูลที่ถูกแชร์:

มีข้อมูลบิดเบือนเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในสหรัฐอเมริกา โดยอ้างว่านิตยสาร Forbes ยืนยันว่าวัคซีนโควิด 19 ชนิด mRNA สามารถเปลี่ยนแปลง DNA ในร่างกายของผู้รับวัคซีน

FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง:


ข้อกล่าวอ้างนำมาจากบทความที่มีชื่อว่า “ใช่ วัคซีนเปลี่ยน DNA ของคุณเล็กน้อย และเป็นเรื่องที่ดี” (Yes, The Vaccine Changes Your DNA. A Tiny Bit. That’s A Good Thing) ซึ่งตีพิมพ์ทางเว็บไซต์นิตยสาร Forbes เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2021 โดย สตีเวน ซอลซ์เบิร์ก ศาสตราจารย์ภาควิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัย Johns Hopkins University

บทความดังกล่าว ถูกกลุ่มต่อต้านวัคซีน (Anti-vaxxer) นำไปใช้เป็นหลักฐานยืนยันความไม่ปลอดภัยของวัคซีนโควิด 19 ชนิด mRNA และแชร์กันอย่างแพร่หลายทางสื่อสังคมออนไลน์

สวนทางกับความเห็นของผู้เชี่ยวชาญหลายคนในวงการวิทยาศาสตร์ ที่ออกมาโจมตีเนื้อหาและการตั้งชื่อบทความของ สตีเวน ซอลซ์เบิร์ก ทำให้ Forbes ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อบทความใหม่ว่า “วัคซีนโควิดไม่เปลี่ยนแปลง DNA ของคุณ แต่ช่วยเลือกเซลล์ที่ทำให้ภูมิคุ้มกันของคุณสมบูรณ์ยิ่งขึ้น” (Covid Vaccines Don’t Alter Your DNA – They Help Choose Cells To Strengthen Your Immune Response)

แม้จะเปลี่ยนหัวข้อให้ตรงกับเนื้อหาของบทความ แต่ข้อมูลที่สร้างความเข้าใจผิดชุดเดิมก็ยังคงถูกนำไปแชร์ต่อบนโลกออนไลน์ และการเปลี่ยนหัวข้อของ Forbes ยังถูกกลุ่มต่อต้านวัคซีนมองว่าเป็นการพยายามปิดบังข้อเท็จจริงของสื่อกระแสหลักอีกด้วย

การตรวจสอบข้อมูลของ Science Feedback กับผู้เชี่ยวชาญสามารถยืนยันได้ว่าวัคซีนโควิด 19 ชนิด mRNA ไม่สามารถเปลี่ยนแปลง DNA ในร่างกายผู้รับวัคซีน เนื่องจาก DNA และ RNA มีคุณสมบัติทางเคมีที่แตกต่างกัน จึงไม่สามารถรวมกันได้

แม้จะมีการเสนอทฤษฎีว่า การเปลี่ยนแปลง DNA ด้วยวัคซีน mRNA อาจเกิดขึ้นได้ในห้องปฎิบัติการ หากใช้เอนไซม์ที่เรียกว่า Reverse Transcriptase เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา เนื่องจากเป็นเอนไซม์ที่เชื้อไวรัส HIV ใช้เปลี่ยน RNA เป็น DNA ในเซลล์ของผู้ติดเชื้อ

อย่างไรก็ดี ในวัคซีนโควิด 19 ไม่มีเอนไซม์ Reverse Transcriptase โอกาสที่ร่างกายมนุษย์จะเกิดการเปลี่ยนแปลง DNA จากการฉีดวัคซีน mRNA จึงแทบเป็นไปไม่ได้

นอกจากนี้ การพาดหัวที่สร้างข้อโต้แย้งของสตีเวน ซอลซ์เบิร์ก ยังแตกต่างจากเนื้อหาในบทความของเขา ซึ่งเนื้อหาไม่ได้บอกว่าวัคซีน mRNA เปลี่ยนแปลง DNA แต่กล่าวถึง V(D)J recombination กระบวนการสร้างแอนติบอดีในระบบภูมิคุ้มกัน โดยมีเอนไซม์ชนิดหนึ่งที่คอยทำหน้าที่ตัดต่อยีนหรือหน่วยพันธุกรรมออกจากกลุ่มยีน V D J บนสาย DNA ซึ่งยีน V D J จะถูกนำไปใช้ที่บริเวณปลายของแอนติบอดีที่เรียกว่า Antigen Binding Site หรือจุดจับแอนติเจนของเชื้อโรค ซึ่งกระบวนการ V(D)J recombination ทำให้ร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกันจำเพาะต่อเชื้อโรคหลากหลายชนิด

V(D)J recombination จึงเปรียบเสมือนโรงงานผลิตอาวุธหลากหลายชนิดให้กับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย วัคซีนทำหน้าที่แค่แนะนำให้ระบบภูมิคุ้มกันใช้อาวุธให้เหมาะสมกับเชื้อโรคชนิดนั้นๆ เมื่อร่างกายถูกโจมตีด้วยเชื้อโรค ระบบภูมิคุ้มกันก็จะสามารถลำเลียงเฉพาะอาวุธที่จำเป็นต่อการกำจัดเชื้อโรคชนิดนั้นๆ ในภายหลัง

กระบวนการ V(D)J recombination เกิดขึ้นโดยธรรมชาติและเป็นขั้นตอนที่วัคซีนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งสตีเวน ซอลซ์เบิร์ก ยืนยันอย่างชัดเจนในบทความของเขาว่า วัคซีนไม่ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงต่อ DNA หรือแม้แต่เซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน

สตีเวน ซอลซ์เบิร์ก เปิดเผยกับ Politifact ว่า เขากำลังต่อสู้กับกลุ่มที่มีแนวคิดต่อต้านวัคซีนด้วยคอลัมน์ของเขา แต่การพาดหัวของเขาถูกนำไปตีความผิดๆ จนต้องเปลี่ยนหัวข้อบทความหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง เหตุผลที่เขาพาดหัวเช่นนั้นเพื่อหวังกระตุ้นความสนใจของผู้คน ให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงในร่างกายจากการรับวัคซีนเป็นสิ่งที่ดี แต่กลับถูกคนบางกลุ่มนำไปบิดเบือน ซึ่งเขาก็ยอมรับว่ามองข้ามความสำคัญของการพาดหัวในประเด็นที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ และยืนยันว่าการฉีดวัคซีนโควิด 19 ชนิด mRNA ไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง DNA ในร่างกายของผู้รับวัคซีน

ข้อมูลอ้างอิง:

https://healthfeedback.org/claimreview/inaccurate-clickbait-headline-forbes-article-used-to-promote-false-claim-that-covid-19-vaccines-change-our-dna/
https://www.politifact.com/factchecks/2021/dec/03/instagram-posts/covid-19-vaccines-are-not-gene-therapy-and-forbes-/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยึดรถบอสดิไคอน

ตำรวจยึดรถ “บอสพอล-บอสกันต์” เพิ่มเติมรวม 4 คัน

ตำรวจยึดรถ “บอสพอล-บอสกันต์” เพิ่มเติมรวม 4 คัน ขณะที่พนักงานสอบสวนชุดเล็กประชุมสรุปรายงานผลการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เตรียมรายงานคณะทำงานชุดใหญ่พรุ่งนี้

ระเบิดสะพานโจร

“ระเบิดสะพานโจร” ทำลายสายส่งเคเบิลขนาดใหญ่ ลักลอบพาดสายบนสะพานข้ามโขง

กสทช. จับมือตำรวจ สานต่อยุทธการ “ระเบิดสะพานโจร” ทำลายสายส่งเคเบิลขนาดใหญ่ ลักลอบพาดสายบนสะพานข้ามโขง อย่างอุกอาจ เอื้อแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ว.วชิรเมธี

พระพยอมชี้ ท่าน ว.วชิรเมธี นั่งบนหิมะ ไม่ผิดวินัยสงฆ์

เพจดังลงภาพท่าน ว.วชิรเมธี นั่งสมาธิบนหิมะที่ญี่ปุ่น ด้านพระพยอมชี้ ไม่ผิดวินัยสงฆ์ คิดว่าท่าน ว.วชิรเมธี คงอยากทดสอบความอดทน

ข่าวแนะนำ

ต่างชาติประทับใจซ้อมขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

วันนี้มีการซ้อมใหญ่เสมือนจริง ครั้งที่ 2 ขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารค ซึ่งไม่เพียงแต่คนไทย นักท่องเที่ยวต่างชาติก็ประทับใจกับความงดงาม

“พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ” ยันไม่ปล่อยผ่านคดีตากใบ เร่งตามผู้ต้องหาก่อนหมดอายุความ

ผบ.ตร.เผยคดีตากใบ เร่งติดตามตัวผู้ต้องหาก่อนหมดอายุความ เข้าตรวจค้น 29 ครั้ง เฝ้าจุดระวังติดตามกว่า 180 ครั้ง ยันไม่ปล่อยผ่าน