
20 เมษายน 2568
ภาวะไหล่ติด หรือที่มีชื่อทางการแพทย์ว่า Adhesive Capsulitis เป็นภาวะที่ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของข้อไหล่ สร้างความเจ็บปวดและข้อจำกัดในการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วยหลายราย แม้ภาวะนี้อาจดูเหมือนเป็นเพียงอาการปวดเมื่อยธรรมดาในระยะแรก แต่หากไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง อาจนำไปสู่การจำกัดการเคลื่อนไหวของหัวไหล่อย่างถาวรได้ บทความนี้จะพาไปรู้จักสาเหตุ อาการ การฟื้นตัวตามธรรมชาติ ไปจนถึงบทบาทสำคัญของกายภาพบำบัดในการฟื้นฟู
ภาวะไหล่ติดคืออะไร?
ผู้เชี่ยวชาญ อธิบายถึงภาวะไหล่ติดคือการอักเสบของเส้นเอ็นและแคปซูลหุ้มข้อบริเวณข้อไหล่ แคปซูลหุ้มข้อนี้โดยปกติจะมีลักษณะยืดหยุ่นและช่วยรองรับการเคลื่อนไหวของข้อไหล่ แต่เมื่อเกิดการอักเสบขึ้น แคปซูลนี้จะค่อย ๆ หนาตัวขึ้น ตึงตัว และเกิดการหดรั้ง ทำให้พื้นที่ภายในข้อไหล่ลดลง การเคลื่อนไหวของกระดูกต้นแขนที่อยู่ในเบ้าข้อไหล่จึงถูกจำกัดไปด้วย
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
ภาวะไหล่ติดสามารถเกิดขึ้นได้โดยมีสาเหตุที่หลากหลาย บางครั้งอาจเริ่มต้นจากเพียงการเคลื่อนไหวแขนที่ผิดท่าเล็กน้อยหรือการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยที่ผู้ป่วยอาจจำไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ภาวะนี้ยังมีความเชื่อมโยงอย่างชัดเจนกับโรคประจำตัวบางชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยโรคเบาหวานมีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะไหล่ติดได้สูงกว่าคนทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ยังรวมถึง:
- การไม่เคลื่อนไหวหัวไหล่เป็นเวลานาน เช่น หลังการผ่าตัด, หลังการบาดเจ็บ, หรือการใส่เฝือก
- โรคไทรอยด์
- โรคพาร์กินสัน
- โรคหัวใจและหลอดเลือดบางชนิด
กลไกที่โรคเหล่านี้เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะไหล่ติดยังไม่เป็นที่เข้าใจอย่างถ่องแท้ แต่อาจเกี่ยวข้องกับการอักเสบในร่างกายหรือการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน
อาการและการดำเนินของโรค
ภาวะไหล่ติดมักมีการดำเนินของโรคเป็น 3 ระยะ
- ระยะปวด: เป็นระยะแรกที่ผู้ป่วยเริ่มมีอาการปวดที่หัวไหล่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการเคลื่อนไหว อาการปวดมักจะรุนแรงขึ้นในเวลากลางคืน ในระยะนี้ การเคลื่อนไหวของข้อไหล่จะค่อยๆ ถูกจำกัดลง ผู้ป่วยจะเริ่มรู้สึกว่าไม่สามารถยกแขนขึ้น, หมุนแขนออก หรือหมุนแขนเข้าได้เท่าเดิม ระยะนี้อาจคงอยู่ได้ตั้งแต่ 2-9 เดือน
- ระยะยึดติด: ในระยะนี้ อาการปวดมักจะลดลงหรือคงที่ แต่อาการข้อไหล่ติดจะเด่นชัดที่สุด การเคลื่อนไหวของหัวไหล่ถูกจำกัดอย่างมาก ทำให้ทำกิจวัตรประจำวันได้ลำบาก เช่น หวีผม ใส่เสื้อผ้า ติดกระดุม หรือเอื้อมหยิบของ ระยะนี้อาจกินเวลานาน 4-12 เดือน
- ระยะฟื้นตัว: เป็นระยะที่การเคลื่อนไหวของข้อไหล่เริ่มกลับคืนมาอย่างช้าๆ อาการติดขัดค่อยๆ ดีขึ้น ผู้ป่วยเริ่มขยับแขนได้มากขึ้นเรื่อยๆ ระยะนี้เป็นระยะที่ยาวนานที่สุด โดยอาจใช้เวลาตั้งแต่ 5 เดือนถึง 2 ปี หรือในบางกรณีอาจนานกว่านั้น
การวินิจฉัย
การวินิจฉัยภาวะไหล่ติดส่วนใหญ่อาศัยการซักประวัติและตรวจร่างกายโดยแพทย์หรือนักกายภาพบำบัด ผู้เชี่ยวชาญจะทดสอบพิสัยการเคลื่อนไหวของหัวไหล่ ทั้งแบบที่ผู้ป่วยขยับเอง (Active ROM) และแบบที่ผู้ตรวจช่วยขยับ (Passive ROM) หากพบว่าทั้งการเคลื่อนไหวแบบ Active และ Passive ROM ถูกจำกัดในหลายทิศทาง โดยเฉพาะการหมุนแขนออก (External Rotation) มักจะบ่งชี้ถึงภาวะไหล่ติด การตรวจภาพถ่าย เช่น X-ray หรือ MRI อาจทำในบางกรณีเพื่อแยกแยะภาวะอื่น ๆ ที่อาจมีอาการคล้ายกัน เช่น ข้อไหล่เสื่อม หรือการฉีกขาดของเส้นเอ็น
แนวทางการรักษาและการฟื้นฟู
แม้ว่าในหลายกรณีภาวะไหล่ติดสามารถค่อย ๆ ฟื้นตัวได้เองตามธรรมชาติภายในระยะเวลา 1.5 – 2 ปี แต่กระบวนการนี้อาจสร้างความทรมานและข้อจำกัดในการใช้ชีวิตเป็นเวลานาน การแทรกแซงทางการแพทย์และการฟื้นฟูจึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยบรรเทาอาการปวด เร่งกระบวนการฟื้นตัว และป้องกันการสูญเสียการเคลื่อนไหวอย่างถาวร
บทบาทของกายภาพบำบัด: กายภาพบำบัดถือเป็นหัวใจสำคัญในการรักษาภาวะไหล่ติด นักกายภาพบำบัดจะประเมินสภาพผู้ป่วยอย่างละเอียด และวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล ซึ่งอาจประกอบด้วย:
- การบริหารเพื่อเพิ่มพิสัยการเคลื่อนไหว: เป็นหัวใจหลักของการฟื้นฟู โดยมีเป้าหมายเพื่อยืดคลายแคปซูลข้อที่ตึงตัว การบริหารจะค่อยๆ เพิ่มความยืดหยุ่นและความสามารถในการเคลื่อนไหวของข้อไหล่ ควรทำอย่างสม่ำเสมอและถูกต้องตามคำแนะนำของนักกายภาพบำบัด
- การจัดการความปวด: อาจใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัด เช่น อัลตราซาวด์, แผ่นร้อน/เย็น, หรือการประคบเพื่อช่วยลดอาการปวดและการอักเสบ
- การเสริมสร้างความแข็งแรง: เมื่ออาการปวดและข้อจำกัดในการเคลื่อนไหวดีขึ้น อาจมีการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบ ๆ หัวไหล่ เพื่อเพิ่มความมั่นคงและการทำงานของข้อไหล่
การรักษาอื่นๆ:
- การใช้ยา: แพทย์อาจพิจารณาให้ยาแก้ปวดและยาต้านการอักเสบเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวด โดยเฉพาะในระยะแรก
- การฉีดยาคอร์ติโคสเตียรอยด์: การฉีดยาเข้าในข้อไหล่สามารถช่วยลดการอักเสบและอาการปวดได้อย่างรวดเร็วในบางราย
- การขยับข้อภายใต้การดมยาสลบ: เป็นหัตถการที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการขยับข้อไหล่ของผู้ป่วยภายใต้การดมยาสลบ เพื่อคลายการยึดติด มักใช้ในกรณีที่ภาวะไหล่ติดมีความรุนแรงและไม่ตอบสนองต่อการรักษาอื่น ๆ
- การผ่าตัดส่องกล้อง: ในกรณีที่รุนแรงและเรื้อรัง อาจพิจารณาการผ่าตัดส่องกล้องเพื่อตัดส่วนของแคปซูลข้อที่หนาและหดรั้งออก
ข้อควรระวังและคำแนะนำ
ผู้เชี่ยวชาญเน้นย้ำถึงความสำคัญของการดูแลที่ถูกต้อง และให้ข้อควรระวังเกี่ยวกับการออกกำลังกายเพื่อฟื้นฟูหัวไหล่ที่พบได้ทั่วไปทางออนไลน์ การทำท่าบริหารที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ถูกต้อง อาจทำให้อาการแย่ลงหรือเกิดการบาดเจ็บเพิ่มเติมได้
คำแนะนำที่สำคัญที่สุดคือ
- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่เนิ่น ๆ: หากคุณเริ่มมีอาการปวดหรือข้อจำกัดในการเคลื่อนไหวของหัวไหล่ ควรรีบไปพบแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดเพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและเริ่มการรักษาตั้งแต่ระยะแรก การดูแลที่รวดเร็วมีแนวโน้มที่จะให้ผลการรักษาที่ดีกว่าและช่วยเร่งกระบวนการฟื้นตัว
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของนักกายภาพบำบัด: การทำท่าบริหารที่ถูกต้องและสม่ำเสมอตามโปรแกรมที่นักกายภาพจัดให้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการฟื้นตัว
- หลีกเลี่ยงการฝืน: แม้การบริหารจะช่วยเพิ่มพิสัยการเคลื่อนไหว แต่ไม่ควรฝืนทำจนรู้สึกปวดรุนแรง ควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไปภายใต้ขีดจำกัดที่เหมาะสม
สรุป
ภาวะไหล่ติดเป็นภาวะที่ต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว และอาจสร้างความท้าทายให้กับผู้ป่วย แต่ด้วยความเข้าใจในธรรมชาติของโรค การวินิจฉัยที่ถูกต้อง และการดูแลรักษาที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทของกายภาพบำบัด ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถฟื้นฟูการเคลื่อนไหวของหัวไหล่ให้กลับคืนมาได้ในระดับที่ดี การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่ระยะเริ่มต้นและการปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด คือกุญแจสำคัญในการเอาชนะภาวะไหล่ติดและกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างราบรื่นอีกครั้ง
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับ : ศ.ดร.กภ.ประวิตร เจนวรรธนะกุล นักกายภาพบำบัดระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ นายกสภากายบำบัด สัมภาษณ์เมื่อ 20 มีนาคม 2568
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์
เรียบเรียงโดย : ชยานิษฐ์ ผ่องใส
หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare
สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter