กทม.ลุยทำงาน 24 ชม. รับมือฝน 80%

กรุงเทพฯ 11 พ.ค. – กทม. ลุยทำงาน 24 ชม. รับมือฝน 80% เร่งพร่องน้ำ-เก็บขยะ เฝ้าระวังจุดเสี่ยง ป้องกันน้ำท่วมซ้ำ


Screenshot

นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายอาสา สุขขัง ผู้อำนวยการกองสารสนเทศระบายน้ำ สำนักการระบายน้ำ อัปเดตสถานการณ์ฝนประจำวัน พร้อมแผนการรับมือฝน หลังกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าจะมีฝนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ถึง 80% ณ ศูนย์ป้องกันน้ำท่วม กรุงเทพมหานคร สำนักการระบายน้ำ เขตดินแดง

โฆษก กทม. กล่าวว่า หลังจากวานนี้เกิดฝนตกหนักในกรุงเทพมหานคร หลายพื้นที่น้ำลดไว แต่บางพื้นที่มีน้ำท่วมขังนาน วันนี้จึงพามาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในศูนย์ป้องกันน้ำท่วมฯ เพื่อติดตามสถานการณ์ฝนวันนี้ที่คาดการณ์ว่าจะมีฝนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ถึง 80%


ด้านนายอาสา กล่าวว่า วันนี้กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าในกรุงเทพมหานคร จะมีฝน 80% ของพื้นที่ โดย 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา ฝนเริ่มก่อตัวด้านจังหวัดปทุมธานี และพัดลงมา ซึ่งวันนี้ลมพัดจากเหนือลงใต้ ทำให้มีกลุ่มฝนอยู่กลางกรุงเทพมหานครทั้งฝั่งธนฯ และฝั่งพระนคร ด้านทางเขตประเวศ เขตบางนา ก็เริ่มมีฝนกลุ่มใหญ่ ทั้งนี้ ใน 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกเล็กน้อยสะสมที่เขตพญาไท เพียง 8.5 มิลลิเมตร ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับเมื่อวาน (10 พ.ค.)

นายอาสา กล่าวต่อว่า จากวานนี้ฝนกระหน่ำทั้งกรุงเทพมหานคร ยาวนานถึง 6 ชั่วโมง ทำให้ปริมาณฝนสะสมรวมกว่า 130 มิลลิเมตร ส่วนใหญ่จะตกในโซนกลางพื้นที่กรุงเทพฯ เช่น เขตลาดพร้าว เขตวังทองหลาง เขตบางเขน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังหลายแห่ง และจากเมื่อวานที่กรมอุตินิยมวิทยาคาดการณ์ว่าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จะมีฝนตก 60% ของพื้นที่ ประกอบกับอากาศร้อนมาก ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก ในส่วนของวันพรุ่งนี้ (12 พ.ค.) คาดการณ์ว่าฝนจะลดลง

สำหรับอุปสรรควานนี้คือ 1.ฝนตกหนัก 2.สถานีสูบน้ำบางจุดไฟฟ้าดับ โดยทางศูนย์ป้องกันน้ำท่วมฯ มีการประสานงานโดยตรงกับการไฟฟ้า ในการแก้ไขปัญหา ซึ่งเป็นไปด้วยความรวดเร็ว 3.มีต้นไม้ล้มขวางเต็มคลองบางซื่อ ซึ่งคลองมีความกว้างประมาณ 10-15 เมตร ทำให้น้ำที่จะระบายไปทางอุโมงค์คลองบางซื่อค่อนข้างยาก เป็นอุปสรรคในการลดระดับน้ำในเขตพื้นที่ลาดพร้าว ทั้งนี้ วันนี้ทางสำนักการระบายน้ำจะเข้าไปตัดและเคลียร์ต้นไม้ที่ล้มดังกล่าวทั้งหมด


สำหรับเมื่อวานนี้ฝนที่ตกบริเวณด้านบนในพื้นที่กรุงเทพฯ คลองสายหลักในการระบายน้ำ คือ คลองลาดพร้าวลงมา ซึ่งในเขตลาดพร้าวเองปริมาณน้ำก็ยังเยอะอยู่ ดังนั้น ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขัง ฝนตกช่วง 15 นาทีแรก พื้นที่ด้านบนของกรุงเทพฯ ตกเกือบ 40 มิลลิเมตร ซึ่งระบบท่อระบายน้ำช่วง 15 นาทีแรก เรารับได้ประมาณ 15-20 มิลลิเมตรเท่านั้น ซึ่งเขตลาดพร้าว โชคชัย 4 เกิดปัญหาอย่างมาก น้ำแห้งช้าที่สุด เนื่องจากต้องรอน้ำท่วมขังบนถนนลาดพร้าวแห้งก่อน น้ำในซอยต่างๆ ถึงจะสามารถไหลออกมาถนนใหญ่ได้ ส่วนจุดอื่นๆ เช่น บางนา สุขุมวิท ดอนเมือง น้ำสามารถลดลงได้เร็ว

ในส่วนคลองลาดพร้าว ช่วงก่อนเกิดฝนน้ำในคลองค่อนข้างต่ำมาก แต่เมื่อฝนตกไป 3 ชั่วโมงแรก ปริมาณน้ำในคลองก็เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ ปัจจุบันเร่งดำเนินการลดระดับน้ำให้ได้ใกล้เคียงกับช่วงก่อนฝนตก เพื่อรอรับฝนที่จะตกลงมาใหม่ ส่วนคลองแสนแสบ คลองประเวศบุรีรมย์ ก็ลดระดับน้ำให้อยู่ระดับที่ควบคุมไว้เช่นกัน ทั้งนี้ ข้อมูลเหล่านี้ประชาชนสามารถเข้าไปดูในเว็บไซต์ของกรุงเทพมหานครได้

นายอาสา กล่าวอีกว่า เมื่อวานนี้ฝนตกหนัก แต่ไม่ได้ถือว่าตกหนักที่สุดในรอบ 10 ปี เมื่อปี 2565 ตกหนักกว่า คือ ในเดือนกันยายน ประมาณ 170 มิลลิเมตร แต่ตกเพียงไม่กี่จุด ไม่ได้ตกเต็มพื้นที่เหมือนกับวานนี้ และน้ำท่วมขังน้อยกว่านี้

Screenshot

สำหรับสถานการณ์ต่อจากนี้ จากการคาดการณ์ฝนล่วงหน้า 3 ชั่วโมงข้างหน้า แสดงให้เห็นว่าฝนจากด้านจังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นด้านบนของ กทม. ยังไม่มีกลุ่มฝน ยังวางใจได้ในช่วงบ่ายนี้ ซึ่งข้อมูลการแสดงเรดาร์ฝนนี้ ประชาชนสามารถเข้าดูได้ในเว็บไซต์ของสำนักการระบายน้ำ ซึ่งเป็นข้อมูลที่กรุงเทพมหานคร ร่วมกับบริษัท weathernews จากประเทศญี่ปุ่น ร่วมกันจัดทำขึ้น

“วันนี้เจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานครที่เกี่ยวข้องทั้งหมดลุยต่อ เจ้าหน้าที่ดำเนินการเก็บขยะหน้าตะแกรง อาคารรับน้ำพระราม 9 เร่งระบายน้ำลงอุโมงค์พระราม 9 ออกแม่น้ำเจ้าพระยา ดำเนินการเก็บขยะหน้าตะแกรง และเร่งสูบน้ำที่บ่อสูบน้ำสุขุมวิท 42 เป็นต้น และทางศูนย์ป้องกันน้ำท่วมฯ จะทำงาน 24 ชั่วโมง และเฝ้าระวังในจุดที่เกิดปัญหาเมื่อวานเป็นหลัก เพราะมีโอกาศเกิดปัญหาอีกได้ ยืนยันว่า กทม. ทำงานเต็มที่ ช่วงที่มีน้ำท่วมขังจะมีเจ้าหน้าที่ของสำนักการระบายน้ำและสำนักงานเขต ออกไปเก็บขยะที่ไปอุดตันท่อระบายน้ำ หากประชาชนพบปัญหาน้ำท่วมสามารถแจ้งเข้ามาที่ Traffy Fondue หรือ โทร.0 2248 5115” นายอาสา กล่าว .-417-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]

“มาริษ” จ่อบินเจนีวา แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี

สวีเดน 24 ส.ค.-“มาริษ” เตรียมบินเจนีวาต่อ แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี-องค์การสิทธิมนุษยชน-กาชาด ย้ำไทยรักสันติ ทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ ฟ้องเขมรใช้ทุ่นระเบิด-โจมตีพลเรือนไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าหลังการเยือนสวีเดนอย่างเป็นทางการแล้วจะเดินทางไปเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการคือ ไปชี้แจงให้กับประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคีให้เข้าใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งกัมพูชาใช้ยุทธศาสตรฺของการใช้ วัตถุระเบิดสังหารบุคคน ที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และอนุสัญญาออตตาวาและในโอกาสนี้จะพบกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่สืทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหาร การละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ของกัมพูชา รวมทั้งการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (icrc )ก็ได้ออกมาพูดชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยอย่างมาก และไม่สนับสนุนให้มีการใช้สงครามข่าวสารในการต่อสู้ โดยใช้พลเรือนเป็นตัวกระทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน ซึ่งในโอกาสนี้ตนจะได้พบปะกับประธาน crc พอดี ซึ่งเคยพบกันที่กรุงเทพมหานครแล้ว และทางประธานทราบว่าตนจะมาเจนีวาก็สามารถมาพูดคุยกันต่อได้ ซึ่งจะได้อธิบายทั้ง 2 ประการเหล่านี้เพราะ icrc เป็นองค์กรหลักที่ดูกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งสามองค์กรที่เราวางกลยุทธ์ จะเข้ามาพูดคุย ชี้แจงก็เพื่อยืนยัน ใน ท่าทีบทบาท ของประเทศไทยที่ชัดเจนว่าเราเป็นประเทศ ที่รักสันติ เราต้องการ แก้ไขปัญหาระหว่างกันอย่างสันติวิธี แต่ต้องมีความจริงใจ […]