กรุงเทพฯ 11 พ.ค. – กทม. ลุยทำงาน 24 ชม. รับมือฝน 80% เร่งพร่องน้ำ-เก็บขยะ เฝ้าระวังจุดเสี่ยง ป้องกันน้ำท่วมซ้ำ

นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายอาสา สุขขัง ผู้อำนวยการกองสารสนเทศระบายน้ำ สำนักการระบายน้ำ อัปเดตสถานการณ์ฝนประจำวัน พร้อมแผนการรับมือฝน หลังกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าจะมีฝนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ถึง 80% ณ ศูนย์ป้องกันน้ำท่วม กรุงเทพมหานคร สำนักการระบายน้ำ เขตดินแดง
โฆษก กทม. กล่าวว่า หลังจากวานนี้เกิดฝนตกหนักในกรุงเทพมหานคร หลายพื้นที่น้ำลดไว แต่บางพื้นที่มีน้ำท่วมขังนาน วันนี้จึงพามาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในศูนย์ป้องกันน้ำท่วมฯ เพื่อติดตามสถานการณ์ฝนวันนี้ที่คาดการณ์ว่าจะมีฝนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ถึง 80%

ด้านนายอาสา กล่าวว่า วันนี้กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าในกรุงเทพมหานคร จะมีฝน 80% ของพื้นที่ โดย 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา ฝนเริ่มก่อตัวด้านจังหวัดปทุมธานี และพัดลงมา ซึ่งวันนี้ลมพัดจากเหนือลงใต้ ทำให้มีกลุ่มฝนอยู่กลางกรุงเทพมหานครทั้งฝั่งธนฯ และฝั่งพระนคร ด้านทางเขตประเวศ เขตบางนา ก็เริ่มมีฝนกลุ่มใหญ่ ทั้งนี้ ใน 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกเล็กน้อยสะสมที่เขตพญาไท เพียง 8.5 มิลลิเมตร ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับเมื่อวาน (10 พ.ค.)
นายอาสา กล่าวต่อว่า จากวานนี้ฝนกระหน่ำทั้งกรุงเทพมหานคร ยาวนานถึง 6 ชั่วโมง ทำให้ปริมาณฝนสะสมรวมกว่า 130 มิลลิเมตร ส่วนใหญ่จะตกในโซนกลางพื้นที่กรุงเทพฯ เช่น เขตลาดพร้าว เขตวังทองหลาง เขตบางเขน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังหลายแห่ง และจากเมื่อวานที่กรมอุตินิยมวิทยาคาดการณ์ว่าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จะมีฝนตก 60% ของพื้นที่ ประกอบกับอากาศร้อนมาก ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก ในส่วนของวันพรุ่งนี้ (12 พ.ค.) คาดการณ์ว่าฝนจะลดลง
สำหรับอุปสรรควานนี้คือ 1.ฝนตกหนัก 2.สถานีสูบน้ำบางจุดไฟฟ้าดับ โดยทางศูนย์ป้องกันน้ำท่วมฯ มีการประสานงานโดยตรงกับการไฟฟ้า ในการแก้ไขปัญหา ซึ่งเป็นไปด้วยความรวดเร็ว 3.มีต้นไม้ล้มขวางเต็มคลองบางซื่อ ซึ่งคลองมีความกว้างประมาณ 10-15 เมตร ทำให้น้ำที่จะระบายไปทางอุโมงค์คลองบางซื่อค่อนข้างยาก เป็นอุปสรรคในการลดระดับน้ำในเขตพื้นที่ลาดพร้าว ทั้งนี้ วันนี้ทางสำนักการระบายน้ำจะเข้าไปตัดและเคลียร์ต้นไม้ที่ล้มดังกล่าวทั้งหมด
สำหรับเมื่อวานนี้ฝนที่ตกบริเวณด้านบนในพื้นที่กรุงเทพฯ คลองสายหลักในการระบายน้ำ คือ คลองลาดพร้าวลงมา ซึ่งในเขตลาดพร้าวเองปริมาณน้ำก็ยังเยอะอยู่ ดังนั้น ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขัง ฝนตกช่วง 15 นาทีแรก พื้นที่ด้านบนของกรุงเทพฯ ตกเกือบ 40 มิลลิเมตร ซึ่งระบบท่อระบายน้ำช่วง 15 นาทีแรก เรารับได้ประมาณ 15-20 มิลลิเมตรเท่านั้น ซึ่งเขตลาดพร้าว โชคชัย 4 เกิดปัญหาอย่างมาก น้ำแห้งช้าที่สุด เนื่องจากต้องรอน้ำท่วมขังบนถนนลาดพร้าวแห้งก่อน น้ำในซอยต่างๆ ถึงจะสามารถไหลออกมาถนนใหญ่ได้ ส่วนจุดอื่นๆ เช่น บางนา สุขุมวิท ดอนเมือง น้ำสามารถลดลงได้เร็ว
ในส่วนคลองลาดพร้าว ช่วงก่อนเกิดฝนน้ำในคลองค่อนข้างต่ำมาก แต่เมื่อฝนตกไป 3 ชั่วโมงแรก ปริมาณน้ำในคลองก็เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ ปัจจุบันเร่งดำเนินการลดระดับน้ำให้ได้ใกล้เคียงกับช่วงก่อนฝนตก เพื่อรอรับฝนที่จะตกลงมาใหม่ ส่วนคลองแสนแสบ คลองประเวศบุรีรมย์ ก็ลดระดับน้ำให้อยู่ระดับที่ควบคุมไว้เช่นกัน ทั้งนี้ ข้อมูลเหล่านี้ประชาชนสามารถเข้าไปดูในเว็บไซต์ของกรุงเทพมหานครได้
นายอาสา กล่าวอีกว่า เมื่อวานนี้ฝนตกหนัก แต่ไม่ได้ถือว่าตกหนักที่สุดในรอบ 10 ปี เมื่อปี 2565 ตกหนักกว่า คือ ในเดือนกันยายน ประมาณ 170 มิลลิเมตร แต่ตกเพียงไม่กี่จุด ไม่ได้ตกเต็มพื้นที่เหมือนกับวานนี้ และน้ำท่วมขังน้อยกว่านี้
สำหรับสถานการณ์ต่อจากนี้ จากการคาดการณ์ฝนล่วงหน้า 3 ชั่วโมงข้างหน้า แสดงให้เห็นว่าฝนจากด้านจังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นด้านบนของ กทม. ยังไม่มีกลุ่มฝน ยังวางใจได้ในช่วงบ่ายนี้ ซึ่งข้อมูลการแสดงเรดาร์ฝนนี้ ประชาชนสามารถเข้าดูได้ในเว็บไซต์ของสำนักการระบายน้ำ ซึ่งเป็นข้อมูลที่กรุงเทพมหานคร ร่วมกับบริษัท weathernews จากประเทศญี่ปุ่น ร่วมกันจัดทำขึ้น
“วันนี้เจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานครที่เกี่ยวข้องทั้งหมดลุยต่อ เจ้าหน้าที่ดำเนินการเก็บขยะหน้าตะแกรง อาคารรับน้ำพระราม 9 เร่งระบายน้ำลงอุโมงค์พระราม 9 ออกแม่น้ำเจ้าพระยา ดำเนินการเก็บขยะหน้าตะแกรง และเร่งสูบน้ำที่บ่อสูบน้ำสุขุมวิท 42 เป็นต้น และทางศูนย์ป้องกันน้ำท่วมฯ จะทำงาน 24 ชั่วโมง และเฝ้าระวังในจุดที่เกิดปัญหาเมื่อวานเป็นหลัก เพราะมีโอกาศเกิดปัญหาอีกได้ ยืนยันว่า กทม. ทำงานเต็มที่ ช่วงที่มีน้ำท่วมขังจะมีเจ้าหน้าที่ของสำนักการระบายน้ำและสำนักงานเขต ออกไปเก็บขยะที่ไปอุดตันท่อระบายน้ำ หากประชาชนพบปัญหาน้ำท่วมสามารถแจ้งเข้ามาที่ Traffy Fondue หรือ โทร.0 2248 5115” นายอาสา กล่าว .-417-สำนักข่าวไทย