‘ฟิชชิงและคลิกเบต’ ไม่ใช่แค่น่ารำคาญแต่ยังเสียดทานเสรีภาพสื่อ | ชัวร์ก่อนแชร์

เมื่อคลิกเบตกลายเป็นเครื่องมือฟิชชิ่ง ภัยเงียบที่บ่อนทำลายเสรีภาพสื่อในยุคดิจิทัล ?
วันที่ 3 พฤษภาคมของทุกปี สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติประกาศให้เป็น “วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก” เพื่อส่งเสริมบทบาทของสื่อที่เสรี มีจริยธรรม และรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมย้ำเตือนรัฐบาลให้เคารพสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกตามข้อ 19 แห่งปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
ในยุคที่ข้อมูลหลั่งไหลผ่านหน้าจอเพียงปลายนิ้ว การคงไว้ซึ่ง “เสรีภาพของสื่อ” ต้องเดินคู่กับ “ความตระหนักรู้ของผู้รับสาร” เพราะภัยอย่างฟิชชิงอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในระบบสื่อโดยรวมได้


ฟิชชิง (Phishing) คืออะไร ?
ฟิชชิง (Phishing) คือรูปแบบหนึ่งของการหลอกลวงทางออนไลน์ โดยมักใช้อีเมล ข้อความ หรือหน้าเว็บไซต์ปลอม เพื่อให้ผู้ใช้หลงเชื่อและเปิดเผยข้อมูลสำคัญ เช่น ชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน หรือข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ โดยไม่รู้ตัว
คำว่า “Phishing” มีที่มาจากคำว่า “Fishing” ซึ่งหมายถึงการตกปลา เปรียบได้กับการที่อาชญากรไซเบอร์โยนเหยื่อล่อ เช่น ลิงก์ปลอมหรือข้อความเร่งด่วน เพื่อให้เหยื่อหลงคลิกและตกเป็นเป้าหมายของการโจมตี
ข้อมูลจาก พันตำรวจเอก มรกต แสงสระคู ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พบว่า มีความพยายามโจมตีแบบฟิชชิงมากถึง 11 ล้านรายการต่อปี และฟิชชิงยังถูกจัดอยู่ใน 6 อันดับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่พบบ่อยที่สุดอีกด้วย
รูปแบบของฟิชชิงมีหลากหลาย โดยแรกเริ่มจะเป็นรูปแบบ Email Phishing ซึ่งเป็นการส่งอีเมลปลอมพร้อมลิงก์หลอกให้คลิก แต่ในปัจจุบัน เมื่อสื่อสังคมออนไลน์มีบทบาทมากขึ้นและผู้คนหันมาเสพข่าวผ่านอินเทอร์เน็ตมากกว่าเดิม จึงเปิดช่องให้เกิดฟิชชิงในรูปแบบใหม่ตามมา นั่นคือ Clickbait Phishing การใช้พาดหัวล่อใจหรือข้อความชวนสงสัย เช่น “คุณถูกรางวัล” หรือ “คลิกดูด่วน” เพื่อให้ผู้ใช้เผลอคลิกลิงก์อันตราย

Clickbait คืออะไร ?
คลิกเบต (Clickbait) หมายถึง เนื้อหาในรูปแบบข้อความ ภาพขนาดย่อ (thumbnail) หรือลิงก์ ที่ออกแบบมาเพื่อดึงดูดความสนใจและชักจูงให้ผู้ใช้งานคลิกตามลิงก์นั้นเข้าไปดู อ่าน หรือฟังเนื้อหาออนไลน์ โดยมักใช้วิธีการที่หลอกลวง สร้างความตื่นเต้นเกินจริง หรือทำให้เข้าใจผิด 
ในบริบทภาษาไทย สำนักงานราชบัณฑิตยสภาได้บัญญัติศัพท์คำว่าคลิกเบตเอาไว้ว่า “พาดหัวยั่วให้คลิก” ขึ้นเพื่อใช้แทนคำว่า Clickbait หรือ คลิกเบต โดยเน้นย้ำถึงลักษณะการพาดหัวข้อที่จูงใจให้กดเข้าไปดู 


เมื่อคลิกเบตกลายเป็นเครื่องมือฟิชชิ่ง
ลักษณะสำคัญประการหนึ่งของคลิกเบตคือ มักเกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่มีคุณค่าหรือความน่าสนใจที่น่าสงสัยหรือเนื้อหาที่ให้ได้ไม่เท่ากับที่พาดหัวสัญญาไว้ ซึ่งคลิกเบตทำหน้าที่เหมือนเป็น “เหยื่อล่อ” ให้เกิดการคลิก จนส่งผลไปสู่ผู้ใช้หลงเชื่อและเปิดเผยข้อมูลสำคัญ โดยใช้กลไกทางจิตวิทยาและกลวิธีทางภาษาและภาพ เพื่อให้ผู้อ่านเกิดความสนใจมากขึ้น 
แม้คลิกเบตจะดูเหมือนแค่พาดหัวลวงที่กวนใจ แต่ในความเป็นจริง มันอาจก่อให้เกิดผลกระทบที่คาดไม่ถึง ทั้งต่อผู้อ่าน ผู้เขียน และวงการสื่อโดยรวม เนื่องจากพฤติกรรมการเสพข่าวที่เน้น “คลิกก่อนคิด” กำลังสร้างวงจรที่ทำลายคุณภาพของเนื้อหา และความน่าเชื่อถือของสื่อ จนอาจนำไปสู่ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์โดยไม่รู้ตัว เช่น
1. เสียเวลาและความสนใจของผู้อ่าน โดยผู้อ่านต้องเสียเวลากับเนื้อหาที่ไม่มีคุณภาพ หรือไม่ได้ตรงกับสิ่งที่พาดหัวสื่อไว้
2. บ่มเพาะนิสัยการเขียนที่มุ่งหวังแค่ยอดคลิก ซึ่งเป็นวิธีการหลอกล่อ แทนที่จะยึดถือความจริงและคุณภาพของเนื้อหา
3. บั่นทอนความเชื่อมั่นต่อสื่อโดยรวม เพราะหากผู้อ่านรู้สึกถูกหลอกซ้ำ ๆ ความไว้ใจที่มีต่อสื่อทั้งหมดก็อาจถูกสั่นคลอน
4. เสี่ยงต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์โดยไม่รู้ตัว จากพฤติกรรมการชินกับการคลิกลิงก์โดยไม่ตรวจสอบ อาจกลายเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่เปิดทางให้ฟิชชิงและมัลแวร์

10 วิธีสังเกตสัญญาณคลิกเบต
1. ใช้ภาษาที่เร้าอารมณ์หรือเกินจริง
เช่น สุดยอด, ช็อก, ไม่น่าเชื่อ, ตะลึง, หายนะ, เปลี่ยนแปลงชีวิต
2. สร้าง “ช่องว่างความอยากรู้” (Curiosity Gap)
พาดหัวที่จงใจปกปิดข้อมูลสำคัญเพื่อกระตุ้นให้คลิก เช่น คุณจะไม่เชื่อว่าเกิดอะไรขึ้น
3. ใช้ตัวเลขหรือทำเป็นรายการ
พาดหัวในรูปแบบโดยเฉพาะการใช้ตัวเลข (บางครั้งเป็นเลขคี่) เช่น “X สิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ…”
4. ตั้งคำถามที่คลุมเครือหรือยั่วให้สงสัย
คำถามที่ทำให้รู้สึกค้างคาใจและอยากหาคำตอบ จนต้องกดเข้าไปอ่าน
5. สร้างความรู้สึกเร่งด่วนหรือกลัวตกข่าว
ใช้วลีที่กดดันให้ต้องรีบคลิก เช่น ห้ามพลาด!, มีเวลาจำกัด!
6. ใช้ภาพขนาดย่อ (Thumbnail) ที่ดูสะดุดตาเกินจริงหรือไม่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่ดูน่าตกใจ เร้าอารมณ์อย่างรุนแรง หรือดูไม่สอดคล้องกับข้อความในพาดหัว
7. มีการใช้อักษรตัวพิมพ์ใหญ่ (ALL CAPS) หรือเครื่องหมายวรรคตอนมากผิดปกติ
อาจมีเครื่องหมายตกใจ (!!!) หรือคำถาม (???) ซ้ำๆ เพื่อดึงดูดความสนใจ
8. สัญญาผลลัพธ์ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้หรือเกินจริง
พาดหัวที่ให้คำมั่นสัญญาถึงผลลัพธ์ที่ดูดีเกินจริง หรือแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนด้วยวิธีง่ายๆ 
9. อ้างอิงถึงบุคคลมีชื่อเสียงในบริบทที่น่าสงสัย
เช่น การใช้ชื่อดารา ผู้เชี่ยวชาญ หรือผู้มีอำนาจในหัวข้อข่าวซุบซิบ
10. เน้นการกระตุ้นอารมณ์อย่างรุนแรง
เช่น ความโกรธ, ความกลัว, ความประหลาดใจอย่างสุดขีด หรือเรื่องราวที่น่ารัก/น่าสงสารจนเกินจริง

สื่อเสรีในยุคดิจิทัลเผชิญความท้าทายรูปแบบใหม่ ที่ไม่ได้มาในรูปของการปิดกั้นโดยตรง หากแต่อยู่ในรูปของการบิดเบือนข้อมูล คลิกเบต และฟิชชิงข่าว ซึ่งแฝงตัวมากับช่องทางสื่อออนไลน์ที่ดูน่าเชื่อถือ 

ดังนั้น การรู้เท่าทันสื่อและข้อมูลข่าวสารจึงเป็นอีกหนึ่งแนวทางสำคัญในการปกป้องเสรีภาพสื่อได้
เพราะหากผู้อ่านยังปล่อยให้คลิกเบตหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า และหากสื่อยังหลงใหลในพาดหัวที่ยั่วยวนให้คลิกโดยไร้ความจริง สุดท้ายแล้ว เราอาจต้องร่วมกันออกตามหาแหล่งข่าวใหม่แห่งเสรีภาพที่ไว้วางใจได้จริง ๆ

3 พฤษภาคม 2568
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์
สำนักข่าวไทย อสมท
เขียนและรวบรวม โดย นัฐภรณ์ ผลพฤกษา


ดูคลิป ชัวร์ก่อนแชร์ เพิ่มเติม

ชัวร์ก่อนแชร์ Keyword : PHISHING ? — การหลอกลวงบนโลกออนไลน์ ผ่านการแอบอ้าง

อ้างอิง
clickbait พาดหัวยั่วให้คลิก, คลิกเบต
https://www.facebook.com/RatchabanditThai/posts/719203190232701/
วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%A5%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81
คลิกเบต คืออะไร ?
https://www.digitalfactory.co.th/th/what-is-clickbait-S0227
https://anga.co.th/marketing/what-is-clickbait
ทำความรู้จัก Phishing (ฟิชชิง) และการป้องกัน

https://www.nstda.or.th/home/know-phishing
ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

ส่องความเสียหายน้ำท่วมหล่มสัก ชาวบ้านหวั่นท่วมซ้ำซาก

เพชรบูรณ์ 21 ก.ย. – แม้ว่าน้ำที่ท่วมชุมชนและย่านการค้าในเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ จะลดลงจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายเป็นวงกว้าง บ้านเรือนร้านค้าหลายร้อยหลังเจอน้ำท่วมซ้ำเป็นรอบที่ 2 ในช่วง 3 สัปดาห์ ทำให้ชาวบ้านกังวลหล่มสักจะกลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก.-สำนักข่าวไทย

ไรเดอร์ร้องถูกชายอ้างเป็นตำรวจ ขี่รถประกบ-ข่มขู่

กทม. 21 ก.ย. – ไรเดอร์หนุ่ม สุดงง ถูกชายอ้างเป็นตำรวจสายสืบขี่รถตามประกบ ข่มขู่ดำเนินคดีเป็นไรเดอร์เถื่อน ขณะ สน.หนองแขม ยันไม่ใช่ตำรวจในสังกัด “ต๊ะ” ไรเดอร์วัย 27 ปี โพสต์คลิปบนเฟซบุ๊ก และนำมาร้องสื่อ โดยบอกว่า ชายคนนี้อ้างตัวเป็นตำรวจ ขี่รถมาประกบ และจอดขวางขณะกำลังขี่รถมาถึงปากซอยเพชรเกษม 81/5 เพื่อไปรับงานส่งลูกค้า ส่วนตอนคนที่อ้างเป็นตำรวจ เดินลงจากรถจักรยานยนต์ ก็อ้างว่าที่เรียกตรวจ เพราะเห็นว่าเป็นไรเดอร์ แต่ไม่มีกล่องใส่อาหารอยู่ท้ายรถ ซึ่งชายคนนี้ตามตัวมีครบทั้งวิทยุสื่อสาร ไฟฉาย และเสื้อที่ปักว่า “สืบ” มีอย่างเดียวที่ไม่เหมือนคือนิสัยที่ไม่เหมือนตำรวจ ทำให้ “ต๊ะ” ตัดสินใจถ่ายคลิปไว้ป้องกันตัวเอง เพราะเหตุเกิดขึ้นช่วงเที่ยงคืน หลังเกิดการโต้เถียงกัน สุดท้ายชายคนที่แอบอ้างเป็นตำรวจก็ไล่ “ต๊ะ” บอกจะไปไหนก็ไป เดี๋ยวโดนร้องเรียนเอง “ต๊ะ” จึงขี่รถกลับบ้านซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ เพราะที่จะไปรับลูกค้าก็ไปไม่ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อขี่รถออกมา ชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจยังขี่รถตามมา “ด่า” จนถึงปากซอยทางเข้าบ้าน แล้วก็ขี่รถฉีกออกไปมุ่งหน้าไปทางอ้อมใหญ่ ทำให้ “ต๊ะ” ค่อนข้างมั่นใจว่า ชายคนนี้ไม่ใช่ตำรวจ […]

“อนุทิน” ขึ้นรถอีแต๊ก ยกทัพภูมิใจไทย หาเสียงรอบตลาดภูสิงห์

ศรีสะเกษ 21 ก.ย.-“อนุทิน” ขึ้นรถอีแต๊ก ยกทัพภูมิใจไทย หาเสียงรอบตลาดภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ประเทศ มั่นใจชนะแน่ ไม่ต้องรบกวนให้ท่านช่วย ด้าน “จ๋า ธนนนท์” ภรรยา ขอสานฝันวัยเด็ก อยากเป็นนางงามขึ้นรถแห่ช่วยหาเสียง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ภายหลังจากเสร็จสิ้นการปราศรัยช่วยหาเสียงให้ นางสาวจินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล หรือครูอีฟ ผู้สมัคร สส.ภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 ได้ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำอำเภอภูสิงห์ อาทิ เทพารักษ์ ศาลหลักเมืองประจำอำเภอ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ขอพรอะไรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นายอนุทิน เผยว่า ได้ขอพรให้ประเทศไทยร่มเย็นเป็นสุข เข้มแข็ง มีแต่ชัยชนะ ประชาชนอยู่ดีกินดี จริงๆ ก็ขอแค่นี้ เมื่อถามว่าได้ขอพรให้ชนะเลือกตั้งซ่อมหรือไม่ นายอนุทิน เผยด้วยความมั่นใจว่า ภูมิใจไทยชนะ ไม่รบกวนท่าน ไม่รบกวนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้าจะขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ขอให้ประเทศไทยเข้มแข็ง ขอให้ประชาชนอยู่ดีมีสุขแค่นี้ ต่อมานายอนุทิน ได้เดินหาเสียงที่ตลาดภูสิงห์ ช่วยนางสาวจินณ์ตวรรณ […]

ทบ.ชี้ข้อมูลหลักเขตแดนที่ 42-43 เป็นไปตามกรอบ JBC

กทม. 21 ก.ย.-กองทัพบก ชี้ข้อมูลหลักเขตแดนที่ 42-43 เป็นไปตามกรอบ JBC พร้อมเรียกร้องกัมพูชาหยุดบิดเบือนความจริง และให้ชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเขตไทยย้ายออกนอกพื้นที่ กรณีสำนักงานเลขาธิการว่าด้วยกิจการชายแดนกัมพูชา แถลงการณ์เมื่อ 21 ก.ย. 68 ว่า “พบการเผยแพร่ข้อมูลผ่านบัญชี Facebook Page ชื่อ “Royal Thai Army: Update” เมื่อ 19 กันยายน 2568 โดยใช้แผนผังที่แสดงลักษณะภูมิศาสตร์และตำแหน่งหลักเขตแดน ซึ่งเป็นบันทึกการประชุมลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2017 (พ.ศ. 2560) และภาคผนวกของบันทึกการประชุมลงวันที่ 28 ธันวาคม 2016 (พ.ศ. 2559) ของคณะกรรมการรังวัดร่วมกัมพูชา–ไทย ซึ่งเป็นผลจากการสำรวจหาตำแหน่งที่แท้จริงของหลักเขตแดนหมายเลข 42 และหมายเลข 43 ในพื้นที่หมู่บ้านไปรจัน โดยมีการบิดเบือนให้เข้าใจผิดไปว่า คณะผู้บริหารของสำนักงานเลขาธิการว่าด้วยกิจการพรมแดน (ฯพณฯ ลาย เซียงลี) ได้ลงนามยอมรับเส้นเขตแดนอย่างเป็นทางการในพื้นที่หมู่บ้านไปรจัน ซึ่งอยู่ระหว่างหลักเขตแดนหมายเลข 42 และหมายเลข […]