ชัวร์ก่อนแชร์: ทารกเสียชีวิตจากนมแม่ปนเปื้อนโปรตีนหนามวัคซีนโควิด จริงหรือ?

04 กุมภาพันธ์ 2565
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Politifact (สหรัฐอเมริกา)
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ


ประเภทข่าวปลอม: ข้อมูลเท็จ

บทสรุป:


ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าโปรตีนหนามจากวัคซีนโควิด 19 ชนิด mRNA ไม่เป็นอันตราย และจะไม่ส่งผ่านไปยังทารกจากการดื่มน้ำนมแม่อีกด้วย

ข้อมูลที่ถูกแชร์:

มีข้อมูลบิดเบือนเผยแพร่ทาง Instagram ในสหรัฐอเมริกา โดยอ้างว่าพบทารกรายที่ 2 ที่เสียชีวิตด้วยอาการลิ่มเลือดอุดตันและเส้นเลือดแดงอักเสบ หลังจากดื่มน้ำนมแม่ที่ฉีดวัคซีนโควิด 19 และสันนิฐานว่าสาเหตุของการเสียชีวิตเป็นเพราะการดื่มน้ำนมแม่ที่ปนเปื้อนโปรตีนหนามจากวัคซีนโควิด 19


FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง:

จากการตรวจสอบโดย Politifact พบว่าข้อมูลการเสียชีวิตของทารกคนดังกล่าวมีอยู่ในระบบรายงานเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์จากวัคซีน (VAERS) ซึ่งผู้เป็นแม่เป็นคนรายงานข้อมูลด้วยตนเอง

ข้อมูลระบุว่าทารกเพศชายอายุ 6 สัปดาห์ในรัฐนิว เม็กซิโก เกิดอาการป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุและมีไข้สูง โดยผู้เป็นแม่ได้รับวัคซีนโควิด 19 ของ Pfizer เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนปี 2021 ทารกได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อไรโนไวรัสซึ่งทำให้ป่วยเป็นไข้หวัด และทำการรักษาตัวด้วยยาปฏิชีวนะในโรงพยาบาลเป็นเวลา 2 สัปดาห์ แต่อีกสัปดาห์หลังจากนั้นเด็กทารกต้องถูกส่งตัวมายังโรงพยาบาลอีกครั้ง หลังเกิดอาการคล้ายกับโรคคาวาซากิ โรคร้ายแรงที่พบในเด็กตั้งแต่วัยทารกจนถึงอายุ 5 ขวบ ทำให้มีไข้ขึ้นสูง, เกิดผื่นแดง และอาการเส้นเลือดแดงอักเสบ ก่อนที่เด็กทารกจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา

นอกจากนี้ยังพบว่าทารกผู้นี้ยังคลอดก่อนอายุครรภ์ครบ 37 สัปดาห์ เนื่องจากผู้เป็นแม่เกิดอาการไส้ติ่งอักเสบระหว่างตั้งครรภ์

แม้สาเหตุการเสียชีวิตจะไม่แน่ชัด แต่การอ้างว่าทารกเสียชีวิตเพราะดื่มน้ำนมแม่ที่เจือปนโปรตีนหนามจากวัคซีนโควิด 19 เป็นการกล่าวอ้างที่ไม่ถูกต้องตามหลักการทางวิทยาศาสตร์

ดร.พอล ออฟฟิต แพทย์และผู้อำนวยการศูนย์วัคซีนศึกษาโรงพยาบาล Children’s Hospital of Philadelphia อธิบายว่าโปรตีนของไวรัสโควิด 19 จากวัคซีนไม่เป็นอันตราย และไม่มีทางที่โปรตีนหนามจากวัคซีนจะส่งผ่านไปยังน้ำนมแม่และเข้าสู่ระบบไหลเวียนโลหิตหรือลำไส้ของทารกได้

ดร.พอล ออฟฟิต ชี้แจงว่า ต่อให้โปรตีนหนามปนเปื้อนในน้ำนมแม่ โปรตีนเหล่านั้นไม่อาจทนต่อกรดและน้ำย่อยโปรตีน ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ใช้ย่อยสลายโปรตีนที่อยู่ในปากและกระเพาะ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงไม่สามารถให้วัคซีนแก่คนไข้ผ่านทานปากได้

นอกจากวัคซีนโควิด 19 จะไม่ส่งผลเสียต่อแม่และเด็กแล้ว หน่วยงานป้องกันโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) ยังแนะนำว่า หญิงให้นมลูกที่ฉีดวัคซีนโควิด 19 ชนิด mRNA จะมีสารภูมิต้านทานโควิด 19 ในน้ำนม ซึ่งสามารถส่งผ่านไปยังทารกได้อีกด้วย

สมาคมส่งเสริมวิทยาการด้านการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ (ABM) เปิดเผยข้อมูลเมื่อเดือนธันวาคม 2020 ว่า มีโอกาสน้อยมากที่วัคซีน mRNA จะเข้าสู่กระแสเลือด, เนื้อเยื้อบริเวณเต้านม หรือส่งผลเสียต่อทารก แต่มีความเป็นไปได้ที่แอนติบอดี้และเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดเซลล์ทีของแม่ที่ได้รับวัคซีนจะส่งผ่านไปยังน้ำนมแม่ได้

สมาคมสูตินรีแพทย์อเมริกา (ACOG) แนะนำให้หญิงให้นมลูกเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด 19 เช่นกัน

ข้อมูลอ้างอิง:

https://www.politifact.com/factchecks/2021/sep/30/instagram-posts/no-evidence-infant-died-due-breast-milk-vaccinated/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]