ปทุมธานี 20 เม.ย. – “นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม
ความเคลื่อนไหวคดี นายพีช ซิ่งรถหรูชนกระบะบนทางด่วนมอเตอร์เวย์ หลังจากเมื่อวาน (20 เม.ย.) มีการขอขมา ลูกสาวผู้เสียหาย ที่ สภ.ลำลูกกา แต่ดูเหมือนจะไม่สำเร็จวันนี้เจ้าตัวก็ไปเยี่ยมที่ รพ. พร้อมฝากเงินค่ารักษา 2 แสนบาท
เมื่อช่วงบ่ายโมงวันนี้ นายกฤษฎา หรือ นายกเบี้ยว พานายสมิทธิพัฒน์ หรือ พีช มาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เพื่อติดต่อขอเข้าเยี่ยมคุณลุงคุณป้า ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถกระบะสีดำ โดยวันนี้ทั้งสองคน ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชน จากนั้นทั้งคู่ได้สอบถามค่ารักษาพยาบาล ตั้งแต่เข้ามารับการรักษาตัวตั้งแต่วันแรก โดยมีความประสงค์ชำระค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นให้กับโรงพยาบาล
อย่างไรก็ตามทางโรงพยาบาลได้ติดต่อญาติคุณลุงคุณป้าแล้วแจ้งว่า ยังไม่อนุญาตให้เยี่ยม เจ้าหน้าที่แจ้งให้ทราบค่ารักษาพยาพยาบาล ตั้งแต่เข้ารักษาพยาบาล จนถึงวันนี้ ของคุณลุงกว่า 80,000 บาท และคุณป้ากว่า 40,000 บาท และทางญาติได้ชำระแล้วในช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตามนายสมิทธิพัฒน์ หรือพีช ได้นำเงินสด 200,000 บาท ออกมาเพื่อขอฝากเป็นค่ารักษาพยาบาล แต่ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าไม่สามารถรับฝากได้ แต่ถ้าอยากจะเขียนจดหมายฝากถึงคุณลุงคุณป้า ก็สามารถเขียนฝากไว้แล้วทางโรงพยาบาลจะนำไปให้คุณลุงคุณป้า
นายสมิทธิพัฒน์ หรือพีช ได้เขียนจดหมายว่า “ผมนายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ ได้เดินทางมาเยี่ยมที่โรงพยาบาลกับทางคุณพ่อ ขอให้คุณลุงคุณป้าหายไว ๆ ครับ ผมขอโทษกับเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วยครับ วันนี้ผมได้เดินทางมาเยี่ยมคุณลุงคุณป้า แต่คุณลุงคุณป้ายังไม่อนุญาตให้เยี่ยม และผมได้นำเงินมาเพื่อจะจ่ายค่ารักษา แต่ได้มีทางญาติคุณป้าและคุณลุงชำระค่ารักษาพยาบาลแล้วครับ ผมยินดีที่จะจ่ายค่ารักษาพยาบาล คุณลุงคุณป้าจนหายเป็นปกติครับ”
ด้านกัน จอมพลัง วันนี้ช่วงบ่ายได้ไปเยี่ยมลุงและป้า พร้อมเปิดเผยว่าตนมาเยี่ยมคุณลุง คุณป้า ทุกวันอยู่แล้ว เพราะทั้งสองคนยังเจ็บอยู่ ส่วนคุณลุงก็ยังอยู่ในห้องไอซียู และเมื่อคืนนี้มีโอกาสคุยกับครอบครัวคุณลุง คุณป้า เรื่องค่ารักษาพยาบาล ซึ่งตนรู้สึกสงสารเพราะตอนนี้ค่ารักษาพุ่งไปกว่า 130,000 บาท แล้ว ซึ่งฝั่งคู่กรณียังไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้อย่างชัดเจนว่าจะจ่ายส่วนไหนยังไงบ้าง จนญาติบอกว่าจะไปกู้เงินมาจ่าย ตนจึงใช้เงินส่วนตัวและเงินจากมูลนิธิ กัน จอมพลัง ช่วยสู้ จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ลุงกับป้าไปก่อน และวันนี้ทราบมาว่านายพีชนำเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ลุงกับป้า ตนจึงฝากถึงคู่กรณีว่าเงินส่วนนี้ถ้าอยากจะคืนให้ ตนก็ยินดี และอยากให้แสดงถึงความรับผิดชอบว่าจะรับผิดชอบส่วนไหน ยังไงบ้าง ซึ่งเมื่อวานนี้เฮียเบี้ยวและนายพีชยังพูดไม่ตรงกัน อยากให้ไปคุยกันก่อนเพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันเพื่อแสดงความจริงใจ และหากมีการพูดคุยกันกับครอบครัวลุงกับป้าก็น่าจะดีขึ้น ส่วนเรื่องรถ ลุงกับป้าบอกว่าควรรีบเข้ามาดำเนินการ เพราะตอนนี้บริษัทประกันยังไม่ติดต่อเข้ามา แต่ถ้าเป็นตน ตนจะซื้อรถใหม่ให้ลุงกับป้า

ส่วนประเด็นที่ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือเต้ อดีตหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ โพสต์เฟซบุ๊กให้ กัน จอมพลัง ถอยจากเรื่องนี้ เพราะพี่ชายสั่ง กัน จอมพลัง บอกว่าตนคุยกับพี่ชายทุกวัน เชื่อว่าพี่ชายรู้จักนิสัยตนเองดีและรู้ว่าตนเป็นคนยังไง ตนเป็นคนที่มาเพื่อเคสจริงๆ ซึ่งพี่ชายบอกว่าให้หาทางออกร่วมกัน ตนก็พยายามถอยออกมาคนละก้าวแล้วเพื่อเปิดช่องให้คู่กรณีได้แสดงความรับผิดชอบอย่างจริงใจและเป็นรูปธรรม อยากบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง ให้นายมงคลกิตติ์ดูแลโซนพระราม 7 ได้เลย ทางนี้ต้นจัดการเอง
ส่วนกรณี “สป.สายไหม” โพสต์เฟซบุ๊กพาดพิงถึงตน มองว่าเป็นแค่เด็กน้อย คนละเบอร์กัน ตนไม่ได้สนใจ เพราะทำในสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งตอนนี้สังคมได้เข้าไปตอบคอมเม้นต์แทนหมดแล้ว และวันนี้ก็อยากโฟกัสที่เคสและฝั่งคู่กรณีว่าจะมาเยียวยาหรือไม่ ซึ่งเมื่อวานตนก็เจอกับเฮียเบี้ยว ก็ถือว่าผู้ใหญ่คุยกัน ส่วนเด็กน้อย ไม่ใช่เวทีของเขา
ด้านนางยุพเยาว์ แม่ของพีช ได้ออกมาเคลื่อนไหวครั้งแรกโดยในโพสต์ข้อความ ระบุว่า เข้าใจค่ะการที่เป็นบุคคลสาธารณะ ต้องยอมรับการโดนตำหนิ การมีคำด่าที่รุนแรง สนุกปาก สนุกมือ สะใจ ทุกช่องทาง ทุกคอมเมนต์จนล้ำเส้น คนที่ไม่เกี่ยวข้อง ลูกทำตัวไม่ดี คนที่ต้องรับว่า อบรมสั่งสอนไม่ดี คือคนเป็นพ่อเป็นแม่ค่ะ เราทั้งคู่ยอมรับค่ะ เรื่องของขบวนการทางกฎหมายที่น้องพีชจะต้องได้รับ ทางเราไม่ได้ปฏิเสธสิ่งเหล่านี้เลยค่ะ ทุกอย่างต้องมีการดำเนินการ
ช่วงท้ายข้อความ นางยุพเยาว์ ระบุว่า ดิฉันในฐานะ “แม่” ไม่ได้เห็นแก่ตัวเข้าข้างมองว่าลูกตัวเองทำถูก ไม่ใช่ว่าจะไม่มีความห่วงใยครอบครัวจิตใจคุณลุงคุณป้า แต่คนในโลกโซเซียลคนในสังคมที่มีคำพูดอันเลวร้ายเกินกว่าจะรับได้ ทางเราไม่ใช่จะไม่รับผิดชอบ เราทุกคนร้อนใจเสียใจค่ะ พีช ก็คือเด็กคนนึงที่ทำผิด อารมณ์วู่วาม ดิฉันเป็นแม่ ยอมรับในการขาดการอบรมสั่งสอนลูกค่ะ กราบขอโทษสังคม กราบขอโทษครอบครัวคุณลุงคุณป้า กราบขอโทษผู้ใหญ่ที่โดนดึงลงมาเกี่ยวข้อง ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ครอบครัวดิฉันเป็นทุกข์ เป็นวิบากกรรมที่มีความทุกข์ที่สุดในชีวิตค่ะ ขอโอกาสสังคม ทุกอย่างไปตามขบวนการตามกฎหมาย ขอให้มีพื้นที่ในสังคมให้กับครอบครัวเราบ้างนะคะ โปรดเห็นใจคนเป็นแม่คนนี้ด้วยนะคะ.-สำนักข่าวไทย