ศาลให้ประกัน “ชวนหลิง จาง” กรรมการ บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ

กทม. 21 เม.ย.-ศาลให้ประกัน “ชวนหลิง จาง” กรรมการ บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ กรณีตึก สตง.ถล่ม หลักทรัพย์ 5 เเสนบาท ห้ามออกนอกประเทศ

ภายหลัง “ชวนหลิง จาง” กรรมการ บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ จำเลยยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์จำนวน 5 เเสนบาท ศาลพิเคราะห์จากการไต่สวนเเล้วอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศเว้นได้รับอนุญาตจากศาล เเละให้รายงานตัวตามกำหนดนัด


ทั้งนี้ สำหรับคำร้องระบุว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับกรณีกิจการร่วมค้าเข้าประมูลโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน อาจมีพฤติกรรมเข้าข่ายการเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 และอาจมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างหน่วยงานของรัฐ อันอาจเข้าข่ายเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 เป็นคดีพิเศษที่ 32/2568

สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์การก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ถล่มเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก จากการสอบสวนพบว่า บริษัทที่ทำการก่อสร้างอาคารดังกล่าวคือกิจการร่วมค้าระหว่าง บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ไอทีดี และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ในนาม ITD-CREC โดยบริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2561 ทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท จำนวนหุ้น 1 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 100 บาท มีสัดส่วนการถือครองหุ้นไทยร้อยละ 51 และสัญชาติจีนร้อยละ 49 มีจำนวนผู้ถือหุ้นจำนวน 4 รายได้แก่


1.บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 เอจิเนียริ่ง คัมปะนี สัญชาติจีนจำนวน 490,000 หุ้นคิดเป็นร้อยละ 49 มูลค่า 49 ล้านบาท
2.นายโสภณ สัญชาติไทย จำนวน 407,997 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 40.7997 มูลค่า 40,799,700 บาท และปรากฏว่าถือหุ้นในนิติบุคคลอื่นอีกจำนวน 4 บริษัท
3.นายประจวบ สัญชาติไทยจำนวน 102,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 10.20 มูลค่า 10,200,000 บาท และปรากฏว่าถือหุ้นในนิติบุคคลอื่นอีกจำนวน 7 บริษัท
4.นายมานัส สัญชาติไทย จำนวน 3 หุ้นคิดเป็นร้อยละ 0.003 มูลค่า 300 บาท แล้วปรากฏว่าถือหุ้นในนิติบุคคลอื่นอีกจำนวน 10 บริษัท
บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด มีนายชวนหลิง จาง สัญชาติจีนและนายโสภณ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจทำการแทนนิติบุคคล

เมื่อทำการสืบสวนขยายผลกรรมการที่มีสัญชาติไทยทั้ง 3 คนพบว่านายโสภณ มีชัย อายุ 66 ปี พบประวัติการเคยทำงานที่ บริษัทอุตสาหกรรมทำเครื่องแก้วไทย จำกัดและได้ลาออกเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2557 และไม่ปรากฏประวัติการทำงานที่บริษัทใดอีก ส่วนนายประจวบ ศิริเขตร อายุ 53 ปี และนายมานัส ศรีอนันท์ อายุ 62 ปี มีประวัติการทำงานที่บริษัท สันติภาพ อิมปอร์ต-เอ็กปอร์ต จำกัด โดยนายประจวบได้ลาออกจากบริษัทดังกล่าวเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2553 ส่วนนายมานัสลาออกเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2558

บริษัท สันติภาพ อิมปอร์ต-เอ็กปอร์ต จำกัด ตั้งอยู่ที่เลขที่ 493 ซอยพุทธบูชา 44 แยก 11 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นที่ตั้งเดียวกับบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทอื่นอีก 8 บริษัท โดยทั้ง 8 บริษัท คือ บริษัท ยูไนเต็ด สตร์ กรุ๊ปจำกัด, บริษัท วิล มาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัทสันติภาพ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด, บริษัท เอสทีพี อิมปอร์ต-เอ็กปอร์ต (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัทเอวาน่า อินเตอร์เนชันแนล จำกัด, บริษัทสแตร์ ลาเบล อินเตอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท โมเยนเน่ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท สยามไบโอเมลิคอน ไซเอนซ์ จำกัด มีกรรมการสัญชาติไทยของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด เป็นกรรมการ


จากการสอบสวนพบว่านายโสภณ, นายประจวบ และนายมานัส ทั้ง 3 คนเป็นลูกจ้างของบริษัทที่คนจีนเป็นเจ้าของโดยที่ทั้ง 3 คนเป็นเพียงคนงานยกสินค้าและขับรถไม่เชื่อว่าบุคคลทั้ง 3 เป็นผู้ถือหุ้นในกิจการใด เนื่องจากมีอาชีพรับจ้างและมีรายได้น้อยพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ พยายามติดตามตัวกรรมการสัญชาติไทยทั้ง 3 คน เพื่อทำการสอบสวนในกรณีอาคารตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ที่กำลังก่อสร้างได้ถล่มลงมา โดยศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทำการสืบสวนติดตามตัวกลุ่มผู้ต้องหาหลังเกิดเหตุตึกถล่มเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ตามที่อยู่ในระบบทะเบียนราษฎร์ โดยนายโสภณ, นายประจวบและนายมานัส หลังเกิดเหตุไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์รุ่นนี้บริษัท channelได้

กรณีบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด มีนายชวนหลิง จาง ผู้ต้องหาในคดีนี้ ซึ่งเป็นกรรมการของบริษัททำธุรกิจต้องห้ามบัญชีท้าย พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 บัญชี 3 ข้อ 10 ด้วยเหตุนี้การที่ บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด มี นายโสภณ, นายประจวบและนายมานัส ลูกจ้างชาวไทย 3 คนเข้ามาจดทะเบียนอำพรางเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทในสัดส่วนร้อยละ 51 เพื่อให้บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทสัญชาติไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบอาชีพต้องห้ามตามกฎหมายโดยการเข้าประมูลงานก่อสร้างอาคารตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ด้วยวิธีการประกวดราคา ผ่านวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (E-Bidding) และได้ทำการก่อสร้างอาคารดังกล่าวตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 จนกระทั่งอาคารได้ถล่มลงมาเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568

จากพฤติกรรมข้างต้นการกระทำของนายชวนหลิง จาง ผู้ต้องหาเป็นความผิดฐาน เป็นคนต่างด้าวที่ประกอบธุรกิจซึ่งต้องห้ามมิให้คนต่างด้าวประกอบกิจการหรือต้องได้รับอนุญาตก่อนและเป็นนิติบุคคลซึ่งรู้เห็นเป็นใจกับการกระทำความผิดนั้น ตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 มาตรา 37 และมาตรา 41.-416.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]