10 ธันวาคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล
ข้อมูลที่ถูกแชร์ :
หนึ่งในข้อมูลที่มักสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าแบบใช้แบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle : BEV) คือการอ้างว่าราคาการเป็นเจ้าของรถยนต์ EV ซึ่งรวมถึงราคารถยนต์ ค่าเชื้อเพลิง และค่าบำรุงรักษา เมื่อคำนวณแล้วกลับมีราคาที่สูงกว่าการเป็นเจ้าของรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์สันดาปภายใน (Internal Combustion Engine : ICE) โดยเฉพาะค่าการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงที่อาจจะถูกกว่าค่าไฟที่ใช้ชาร์จรถยนต์ BEV
บทสรุป :
- การทดสอบที่พบว่ารถ EV สิ้นเปลืองกว่ารถน้ำมัน เป็นการทดสอบในสหรัฐฯ ช่วงที่น้ำมันราคาถูกและไฟฟ้าราคาแพง
- ผลการเปรียบเทียบในหลายประเทศ พบว่าการใช้รถ EV ประหยัดค่าพลังงานมากกว่ารถน้ำมัน
- แม้ราคาการเริ่มเป็นเจ้าของรถ EV จะยังแพงกว่ารถน้ำมัน แต่ความต่างของราคาจะค่อย ๆ ลดลงในอนาคต
- ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่าเมื่อคำนวณแล้ว ราคาสุทธิการเป็นเจ้าของรถยนต์ EV จะถูกกว่าการเป็นเจ้าของรถน้ำมันในอนาคต
FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :
เปรียบเทียบค่าการใช้พลังงานรถยนต์ BEV และรถยนต์น้ำมัน
ข้อความแรกนำมาจากคลิปวิดีโอที่แชร์ทาง Facebook ในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2023 เมื่อ อีริก อีริกสัน นักจัดรายการวิทยุชาวอเมริกันผู้มีแนวคิดอนุรักษ์นิยม อ้างว่า การขับรถยนต์ไฟฟ้าในระยะทาง 100 ไมล์ (160 กิโลเมตร) มีค่าชาร์จไฟสูงกว่าการเติมน้ำมันรถยนต์สันดาปภายในหรือ ICE พร้อมกล่าวหารัฐบาลสหรัฐอเมริกาว่า จงใจปั่นราคาพลังงานเชื้อเพลิง เพื่อให้คนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งการพึ่งพาพลังงานหมุนเวียนสุดท้ายแล้วจะก่อให้เกิดวิกฤตพลังงานในที่สุด
ข้ออ้างของ อีริก อีริกสัน นำมาจากรายงานของ Jalopnik เว็บไซต์ยานยนต์ชื่อดัง ซึ่งอ้างอิงผลสำรวจโดย Anderson Economic Group ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยเศรษฐกิจและการตลาด ที่เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายจากการใช้พลังงานระหว่างค่าเชื้อเพลิงของรถยนต์ ICE และค่าชาร์จไฟของรถยนต์ BEV ในสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2022 ถึง 31 ธันวาคม 2022
ข้อมูลพบว่า ในกลุ่มรถยนต์ราคาปานกลาง รถยนต์ BEV ต้องเสียค่าชาร์จไฟที่บ้าน 11.60 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา (404 บาท) สำหรับการเดินทาง 100 ไมล์หรือ 160 กิโลเมตร
รถยนต์ BEV ที่ชาร์จในสถานีชาร์จไฟฟ้าสาธารณะที่มีราคาค่าไฟต่อหน่วยแพงกว่า จะมีค่าชาร์จไฟที่ 14.49 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา (505 บาท) ในระยะทาง 100 ไมล์หรือ 160 กิโลเมตรเท่ากัน
ในส่วนของ รถยนต์ ICE ที่มีขนาดเท่ากัน พบว่าค่าเชื้อเพลิงที่ใช้ในระยะทาง 100 ไมล์หรือ 160 กิโลเมตร มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 11.29 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา หรือ 393 บาท เท่านั้น
การทดสอบในช่วงน้ำมันถูก-ค่าไฟแพง
อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบโดย Politifact พบว่า ข้อความที่แชร์ทาง Facebook มีการนำเสนอข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนและง่ายต่อการสร้างความเข้าใจผิด
ในการเปรียบเทียบดังกล่าว Anderson Economic Group ยังทำการเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายการใช้พลังงานในกลุ่มรถหรูหรือ Luxury Cars ซึ่งปรากฏว่ามีค่าเชื้อเพลิงที่สูงกว่าการชาร์จไฟอย่างชัดเจน
โดยพบว่าในระยะทาง 100 ไมล์ (160 กิโลเมตร) ค่าเชื้อเพลิงของรถหรูอยู่ที่ 19.96 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา หรือ 696 บาท ส่วนค่าชาร์จไฟจากสถานีชาร์จไฟฟ้าสาธารณะอยู่ที่ 15.95 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา หรือ 543 บาท ส่วนค่าชาร์จไฟที่บ้านจะอยู่ที่ 12.40 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา หรือ 432 บาท เท่านั้น
นอกจากนี้ ในช่วงเวลาที่มีการเปรียบเทียบ ยังเป็นช่วงที่ราคาค่าไฟในสหรัฐอเมริกาเพิ่มสูงขึ้นในรอบ 18 เดือน จึงทำให้ราคาจากการชาร์จไฟสูงกว่าปกติ นอกจากนี้ ราคาค่าเชื้อเพลิงและค่าไฟในแต่ละรัฐยังมีความแตกต่างกันอีกด้วย
เปรียบเทียบค่า TCO หรือราคาสุทธิการเป็นเจ้าของรถยนต์ EV และรถยนต์น้ำมัน
ในส่วนของประเทศอังกฤษ หนังสือพิมพ์ Daily Telegraph รายงานเมื่อเดือนสิงหาคม 2022 ว่า “ในอนาคต การขับรถยนต์ไฟฟ้าอาจสิ้นเปลืองมากกว่ารถยนต์สันดาปภายใน เนื่องจากมูลค่าพลังงานเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น”
จากการตรวจสอบโดย Carbon Brief เว็บไซต์หน่วยงานของสหราชอาณาจักร ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และนโยบายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พบว่ารายงานดังกล่าวขัดแย้งกับหลักฐานที่สำรวจโดยคณะกรรมการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหราชอาณาจักร (Climate Change Committee หรือ CCC) เมื่อรายงานเดือนตุลามคม 2023 CCC ระบุว่า “ในท้ายที่สุด ราคาการเป็นเจ้าของและการใช้งานรถยนต์ EV จะถูกกว่าราคาการเป็นเจ้าของและใช้งานรถยนต์เบนซินและดีเซล”
Carbon Brief ได้จัดทำกราฟเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายการใช้พลังงานต่อปี ของการใช้รถยนต์ EV และรถยนต์น้ำมันเบนซินในแต่ละประเทศ โดยใช้ราคาค่าไฟของปี 2023 และราคาน้ำมันเบนซินของปี 2023 ในการเปรียบเทียบ โดยค่าไฟจากการชาร์จรถยนต์ EV คิดจากค่าชาร์จไฟจากเครื่องวอลล์ชาร์จภายในบ้านเท่านั้น
ข้อมูลพบว่า ในสาธารณรัฐประชาชนจีน ผู้นำด้านการผลิตและส่งออกรถยนต์ EV มีสัดส่วนราคาการชาร์จไฟและค่าน้ำมันแตกต่างกันอย่างมาก ขณะที่ค่าน้ำมันเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 30,604 บาท ค่าชาร์จไฟจากวอลล์ชาร์จภายในบ้านเฉลี่ย 4,820 บาทต่อปีเท่านั้น
สหรัฐอเมริกาซึ่งมีค่าน้ำมันถูกกว่าหลายประเทศ มีค่าชาร์จไฟจากวอลล์ชาร์จภายในบ้านเฉลี่ย 11,100 บาทต่อปี และมีค่าเติมน้ำมันเฉลี่ย 20,653 บาทต่อปี
ส่วนประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีค่าไฟแพงกว่าหลายชาติในเอเชีย มีค่าชาร์จไฟจากวอลล์ชาร์จภายในบ้านเฉลี่ย 16,098 บาทต่อปี และมีค่าน้ำมันเฉลี่ย 22,467 บาทต่อปี
นอร์เวย์ซึ่งเป็นชาติที่มีสัดส่วนการใช้รถยนต์ EV ต่อประชากรสูงที่สุดในโลกหรือประมาณ 22% พบว่า มีค่าน้ำมันต่อปีสูงถึง 62,801 บาท แต่มีค่าชาร์จไฟจากวอลล์ชาร์จภายในบ้านเพียง 5,395 เท่านั้น
นอกจากค่าใช้จ่ายด้านราคาพลังงานแล้ว การใช้งานรถยนต์ EV ยังมีค่าบำรุงรักษารถยนต์ที่ถูกกว่ารถยนต์น้ำมัน
Consumer Reports องค์กรผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาได้เผยแพร่ข้อมูลเมื่อปี 2020 ว่า การใช้งานรถยนต์ EV มีค่าบำรุงรักษาน้อยกว่ารถยนต์ ICE ถึงครึ่งหนึ่ง เนื่องจากมีชิ้นส่วนที่เกี่ยวกับการขับเคลื่อนของตัวรถยนต์ที่น้อยกว่า และมีการเปลี่ยนถ่ายของเหลวในตัวรถยนต์ที่น้อยกว่า
ราคาเริ่มเป็นเจ้าของรถยนต์ EV เริ่มใกล้เคียงกับรถยนต์น้ำมัน
ในปัจจุบัน ยังปฏิเสธไม่ได้ว่า เมื่อเปรียบเทียบในขนาดและรุ่นที่ใกล้เคียงกันแล้ว ราคาในการเริ่มเป็นเจ้าของ (Up-Front Price) ของรถยนต์ EV ยังคงสูงกว่ารถยนต์ ICE ในหลายประเทศแล้ว
คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ IPCC คาดว่าในอนาคต ราคาการเป็นเจ้าของรถยนต์ EV จะลงมาใกล้เคียงกับรถยนต์ ICE
รายงานปี 2023 ของ BloombergNEF หน่วยงานวิจัยด้านพลังงานประเมินว่า ปัจจัยด้านราคาของรถยนต์ EV อยู่ที่ราคาของแบตเตอรี่ Lithium-Ion ที่เริ่มคงตัวในปี 2023
แม้การเปลี่ยนแปลงราคารถยนต์ EV จะแตกต่างกันในแต่ละประเทศและประเภทของรถยนต์ แต่เชื่อว่าราคาการเป็นเจ้าของรถยนต์ EV จะลงมาเท่ากับรถยนต์ ICE ในอนาคต โดยคาดว่าในยุโรป รถยนต์ EV ประเภท SUV และรถยนต์ขนาดใหญ่จะมีราคาเท่ารถยนต์ ICE ในปี 2025 ส่วนรถยนต์ขนาดกลางและขนาดเล็กจะมีราคาเท่ากันในปี 2028
รายงานเดือนตุลาคม จากสำนักข่าว Bloomberg พบว่า ปัจจุบันราคาของรถยนต์ Tesla รุ่น Model 3 และ Model Y ที่เคยสูงกว่าค่าเฉลี่ยรถใหม่ที่ขายในสหรัฐอเมริกา กลับลดราคาลงมาต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในปี 2023 ทั้งสองรุ่น
ด้าน Rocky Mountain Institute สถาบันวิจัยเพื่อการใช้พลังงานและทรัพยากรที่ยั่งยืน ประเมินว่าค่า TCO (Total Cost of Ownership) หรือราคาสุทธิการเป็นเจ้าของรถยนต์ EV ในตลาดนอกสหรัฐอเมริกาจะเท่ากับการเป็นเจ้าของรถยนต์ ICE ภายในต้นทศวรรษที่ 2020’s
ข้อมูลอ้างอิง :
https://www.politifact.com/factchecks/2023/feb/14/erick-erickson/for-certain-car-models-its-more-expensive-to-drive/
https://www.carbonbrief.org/factcheck-21-misleading-myths-about-electric-vehicles/
หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare
สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter