Dirty Tricks การใช้ข่าวปลอมโจมตีคู่แข่งทางการเมือง ตอน 1 ทำลายภาพลักษณ์คู่แข่ง

08 พฤษภาคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


Dirty Tricks คือกลยุทธ์การสร้าวข่าวปลอมเพื่อโจมตีนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม

แม้ Dirty Tricks จะมีความคล้ายกับ Negative Campaigning แต่ขณะที่ Negative Campaigning คือการโจมตีขั้วตรงข้ามทางการเมืองด้วยข้อเท็จจริง แต่ Dirty Tricks คือการโจมตีฝ่ายตรงข้ามด้วยข้อมูลเท็จ ที่สร้างขึ้นให้ผู้คนหลงเชื่อโดยเฉพาะ


Brookings Institution องค์กรวิจัยของสหรัฐ ได้แบ่ง Dirty Tricks ออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่

1.ทำลายภาพลักษณ์คู่แข่งทางการเมือง
2.ล้วงความลับพรรคฝ่ายตรงข้าม
3.สร้างความสับสนให้กับผู้ลงคะแนน
4.แทรกแซงกระบวนการนับคะแนน

เอ็ดมูนด์ มัสกี ออกแถลงการณ์
หน้าสำนักพิมพ์ Manchester Union Leader

1.ทำลายภาพลักษณ์คู่แข่งทางการเมือง

“Canuck Letter”


ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 1972 ริชาร์ด นิกสัน ประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน ผู้คาดหวังการคว้าชัยหนที่ 2 มองว่าคู่แข่งคนสำคัญของเขาก็คือ เอ็ดมูนด์ มัสกี วุฒิสมาชิกรัฐเมน ตัวเต็งผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต

นำไปสู่แผนการทำลายคะแนนนิยม เอ็ดมูนด์ มัสกี ที่รู้จักในชื่อว่า “จดหมายคานัก”

คานัก คือคำสแลงที่ชาวอเมริกันใช้เรียกชาวแคนาดา

จดหมายคานัก คือจดหมายปลอม ๆ ที่ร่างโดยทีมงานของ ริชาร์ด นิกสัน เนื้อหาในจดหมายโจมตี เอ็ดมูนด์ มัสกี ว่าเคยแสดงการดูหมิ่นชาวคานักหรือชาวอเมริกันที่มีบรรพบุรุษเป็นชาวแคนาดา และได้รับการตีพิมพ์โดย Manchester Union Leader หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของเมืองแมนเชสเตอร์ รัฐนิวแฮมป์เชียร์

แผนการดังกล่าวส่งผลเสียต่อ เอ็ดมูนด์ มัสกี อย่างรุนแรง เพราะรัฐนิวแฮมป์เชียร์มีประชากรจำนวนไม่น้อยที่มีบรรพบุรุษเป็นชาวแคนาดาเชื้อสายฝรั่งเศส

นอกจากนี้ รัฐนิวแฮมป์เชียร์ยังเป็นรัฐแห่งแรกที่เปิดให้มีการเลือกตั้งขั้นต้น (Primary Election) เพื่อหาตัวแทนชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของแต่ละพรรคอีกด้วย เป็นเวทีเลือกตั้งที่บ่งชี้แนวโน้มความนิยมในอนาคตซึ่งสื่อมวลชนให้การจับตาอย่างสูง

เพื่อต่อสู้กับข่าวปลอม เอ็ดมูนด์ มัสกี จัดการแถลงข่าวที่หน้าสำนักพิมพ์ Manchester Union Leader เพื่อประณามการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ แต่การแสดงความโกรธและความเสียใจระหว่างการแถลงข่าวของเขา กลับส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์อย่างมาก เมื่อสาธารณชนมองว่าเมื่อต้องเผชิญกับปัญหา เขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ให้สมกับการเป็นผู้นำ

เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้สถานะตัวเต็งพรรคเดโมแครตของ เอ็ดมูนด์ มัสกี เริ่มสั่นคลอน เค้าชนะการเลือกตั้งขั้นต้นที่รัฐนิวแฮมป์เชียร์ด้วยคะแนนที่น้อยกว่าที่คาด และสุดท้ายก็ต้องพลาดการเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตให้กับ จอร์จ แม็คโกเวิร์น วุฒิสมาชิกรัฐเซาท์ดาโคตาไปในที่สุด

การเปลี่ยนตัวผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของเดโมแครต เป็นไปตามแผนการกำจัดคู่แข่งที่แข็งแกร่งของทีมงาน ริชาร์ด นิกสัน ส่งผลให้ ริชาร์ด นิกสัน คว้าชัยการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างถล่มทลาย ด้วยคะแนน Electoral vote ถึง 520 ต่อ 17 คะแนน

จอห์น แม็คเคน และ บริดเจ็ต
บุตรบุญธรรมจากบังกลาเทศ

“Push Poll”

ริชาร์ด นิกสัน ยังเป็นผู้ริเริ่มการใช้เทคนิค Push Poll หรือวิธีการโทรศัพท์ไปหยั่งคะแนนนิยมตามบ้าน ด้วยข้อความที่แฝงความเห็นเพื่อชักจูงทางการเมือง

ชัยชนะการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐครั้งแรกเมื่อปี 1946 ของ ริชาร์ด นิกสัน ก็เป็นผลจากการใช้เทคนิค Push Poll เมื่อเขาว่าจ้างหญิงสาวเป็นเงิน 9 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน เพื่อให้เธอโทรศัพท์ไปตามบ้านผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง แล้วตั้งคำถามผู้รับสายว่า “รู้หรือไม่ว่า เจอร์รี วอริส ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตเป็นคอมมิวนิสต์?” ทั้ง ๆ ที่ เจอร์รี วอริส ไม่ใช่ผู้ฝักใฝ่ลัทธิคอมมิวนิสต์เลยแม้แต่น้อย

เทคนิค Push Poll ยังถูกนำมาใช้โดย จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส ระหว่างการชิงตำแหน่งตัวแทนพรรครีพับลิกันลงเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2000 โดยมีคู่แข่งคือ จอห์น แม็คเคน วุฒิสมาชิกรัฐแอริโซนา

ผลการเลือกตั้งขั้นต้น (Primary Election) ในช่วงแรก ปรากฏว่า จอร์จ ดับเบิลยู. บุช และ จอห์น แม็คเคน มีคะแนนนิยมที่ไล่เลี่ยกันอย่างมาก ดูไม่ออกว่าใครจะเป็นผู้ชนะ

จนกระทั่งการเลือกตั้งขั้นต้นเดินทางมาถึงรัฐเซาท์แคโรไลนา พบรายงานว่ามีผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงหลายรายได้รับข้อความทางโทรศัพท์ที่ตั้งคำถามว่า “คุณอยากจะโหวตให้กับจอห์น แม็คเคนมากขึ้นหรือน้อยลง หากรู้ว่าเค้ารับเลี้ยงเด็กผิวดำอย่างผิดกฎหมาย?”

ในช่วงเวลาดังกล่าว จอห์น แม็คเคน ออกเดินทางหาเสียงพร้อมกับสมาชิกในครอบครัว รวมถึง บริดเจ็ต เด็กหญิงชาวบังกลาเทศที่แม็คเคนรับเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรมอย่างถูกกฎหมายมาตั้งแต่ปี 1991

การถูกใส่ร้ายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อคะแนนนิยมในตัว จอห์น แม็คเคน อย่างมาก

ท้ายที่สุด ตำแหน่งตัวแทนพรรครีพับลิกันก็ตกเป็นของ จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ผู้ใช้โอกาสดังกล่าวกรุยทางก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 43 ในปีเดียวกันนั้น จากชัยชนะอย่างฉิวเฉียดต่อ อัล กอร์ ตัวแทนพรรคเดโมแครต ด้วยคะแนน Electoral vote ที่ 271 ต่อ 266 คะแนนเท่านั้น

หนังสือโจมตี จอห์น เคอร์รี

“Swift Boat Veterans for Truth”

4 ปีต่อมา จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ต้องเผชิญกับคู่แข่งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่น่าหวั่นเกรงอย่าง จอห์น เคอร์รี วุฒิสมาชิกรัฐแมสซาชูเซตส์ จากพรรคเดโมแครต ผู้ได้รับเหรียญกล้าหาญจากวีรกรรมในสงครามเวียดนามมาแล้วมากมาย ต่างจากบุชผู้ลูกที่ไม่เคยออกรบเพื่อชาติ และยังได้รับเลือกเป็นกำลังพลในกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิทางอากาศสหรัฐเพราะเส้นสายทางการเมืองอีกด้วย

แต่ในช่วงเดือนสิงหาคมปี 2004 ที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีใกล้เข้ามาทุกที เกิดการรวมตัวของกลุ่มทหารผ่านศึกที่เรียกตนเองว่า Swift Boat Veterans for Truth เพื่อตั้งคำถามถึงความเหมาะสมในการมอบเหรียญกล้าหาญให้กับ จอห์น เคอร์รี โดยกลุ่มทหารที่อ้างว่าเคยร่วมรบกับ จอห์น เคอร์รี ได้จัดการแถลงข่าว, ออกหนังสือ และผลิตโฆษณาทางโทรทัศน์เพื่อโจมตี จอห์น เคอร์รี อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี ทีมงานหาเสียงของ จอห์น เคอร์รี กลับมองว่า การตอบโต้ข้อกล่าวหาอย่างไม่เหมาะสม อาจสร้างภาพลักษณ์แง่ลบแก่ จอห์น เคอร์รี ส่งผลให้การรับมือต่อข่าวปลอมเป็นไปอย่างล่าช้าและไร้ประสิทธิภาพ

แม้ในเดือนถัดมา กองทัพเรือสหรัฐจะทำการตรวจสอบประวัติการรับใช้กองทัพ พร้อมยืนยันว่าการมอบเหรียญกล้าหาญให้กับ จอห์น เคอร์รี เป็นไปอย่างชอบธรรม แต่ความเคลือบแคลงที่อยู่ในใจสาธารณชน ส่งผลอย่างมากในการเลือกตั้งที่ความนิยมของผู้สมัครเป็นไปอย่างสูสี จนสุดท้ายชัยชนะการเลือกตั้งครั้งที่ 2 ก็ตกเป็นของ จอร์จ ดับเบิลยู. บุช อย่างฉิวเฉียดอีกครั้ง ด้วยคะแนน Electoral vote ถึง 286 ต่อ 251 คะแนน

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.brookings.edu/blog/fixgov/2019/07/11/a-short-history-of-campaign-dirty-tricks-before-twitter-and-facebook/
https://politicaldictionary.com/words/dirty-tricks/
https://en.wikipedia.org/wiki/Canuck_letter
https://en.wikipedia.org/wiki/Push_poll
https://en.wikipedia.org/wiki/Swift_Vets_and_POWs_for_Truth

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เปิดข้อเสนอสุดท้าย ทีมไทยแลนด์ ต่อรอง “ทรัมป์”

1 ส.ค. – เปิด 10 ข้อเสนอของทีมไทยแลนด์ ที่นำไปต่อรองกับสหรัฐ จนนำไปสู่การปิดดีลภาษีนำเข้าในอัตรา 19% จากที่ก่อนหน้านี้ถูกขู่ว่าจะเก็บสูงถึง 36% นอกจากตัวเลขภาษีนำเข้า สิ่งหนึ่งที่เชื่อว่าหลายคนต้องการรู้ นั่นก็คือข้อเสนอของทีมไทยแลนด์ ที่นำไปต่อรองกับสหรัฐ จนนำไปสู่การปิดดีลที่ 19% โดยสิ่งที่ไทยยอมแลก 10 ข้อหลักมีดังนี้ เรียกว่า ไทยยอมแลกหลายมิติ ทั้งเปิดตลาดให้สหรัฐ มากขึ้น ยกเว้นภาษีเกือบหมด, เพิ่มการนำเข้า, และร่วมมือด้านความมั่นคง แลกกับการที่ “ภาษีตอบแทน” ที่สหรัฐจะเก็บจากไทย ลดลงจาก 36% เหลือ 19%.-สำนักข่าวไทย

เคลียร์ BM21 หมู่บ้านกระสุนตก 5 ลูก อ.น้ำยืน อุบลฯ

อุบลราชานี 1 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ทำลายหัวกระสุน BM21 ที่ทหารกัมพูชายิงเข้ามาตกในหมู่บ้านชายแดน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ทั้งหมด 5 ลูก มีทั้งที่ยังไม่ระเบิด และทำงานไม่สมบูรณ์ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิดทำลายหัวกระสุน BM21 ที่ทหารกัมพูชายิงเข้ามาตกในหมู่บ้านชายแดน ในอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ซึ่งจากการสำรวจพื้นที่ ตลอด 2 วันที่ผ่านมา ใน 8 หมู่บ้าน 24 จุด พบกระสุน BM21 ทั้งหมด 5 ลูก มีทั้งที่ยังไม่ระเบิด และพร้อมทำงาน โดยในช่วงเช้าทำลาย 3 จุด จุดแรกอยู่บริเวณริมถนนสายน้ำยืน นาจะหลวย เจ้าหน้าที่ต้องปิดถนนทั้ง 2 ฝั่ง ก่อนขุดดินด้านบนแล้วหย่อนระเบิด C4 ลงไปในหลุมที่หัวกระสุน BM21 ตกแต่ไม่ระเบิด จากนั้นจึงจุดชนวนทำลายระเบิด ใช้เวลาเพียง 20 นาที หัวกระสุนถูกทำลายโดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ จุดที่ […]

ทูตทหาร 23 ประเทศ ลงพื้นที่จุดกัมพูชายิงถล่ม

ศรีสะเกษ 1 ส.ค. – วันนี้คณะทูตานุทูตและทูตทหาร รวม 23 ประเทศ ลงพื้นที่สังเกตการณ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ในพื้นที่ถูกกัมพูชาโจมตี และศูนย์พักพิง การลงพื้นที่ในวันนี้ทางประเทศไทยต้องการให้คณะทูตทั้ง 23 ประเทศได้เห็นข้อเท็จจริงและนำไปเผยแพร่ให้ประชาคมโลกได้รับรู้ จุดแรกคือปั๊ม ปตท.บ้านผือ ที่ถูกกัมพูชายิงจรวด BM21 โดยนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ บรรยายสรุปให้คณะได้รับฟังถึงเหตุการณ์วันแรกที่เกิดขึ้นและเหตุการณ์ต่อเนื่องที่เกิดขึ้นในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีญาติผู้สูญเสียนำรูปผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว บอกเล่าเหตุการณ์ความสูญเสียจากที่เกิดขึ้นต่อคณะทูตานุทูตผ่านล่าม พร้อมเรียกร้องความยุติธรรมให้กับผู้เสียชีวิตที่ผู้บริสุทธิ์ ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย จากนั้นคณะทูตทหาร เดินทางลงพื้นที่ ต่อไปยังจุดกระสุนตกใส่พลเรือน ที่อาคารโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลชำเม็ง อ.กันทรลักษ์ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ส่งผลทำให้อาคาร รพ.สต. เสียหาย ที่นี่ ยังมีศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก มีเด็กเล็กอยู่ประจำกว่า 30 คน แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เนื่องจากทางจังหวัดได้ประกาศให้ชาวบ้านอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยหรือศูนย์พักพิงชั่วคราว ตั้งแต่ 24 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันแรกที่ทางทหารกัมพูชาเปิดฉากยิง โดยนางเข็มจิรา จันทร์ทอง ผอ.รพ.สต.บ้านชำเม็ง บอกว่าถ้าวันนั้น หากยังไม่มีการอพยพ […]

ชาวบ้านผวาโดรนปริศนา บินว่อนพื้นที่บุรีรัมย์

บุรีรัมย์ 1 ส.ค. – ชาวบ้านหลายอำเภอในจังหวัดบุรีรัมย์ ผวาพบโดรนปริศนาบินว่อนหลายพื้นที่ เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบ หวั่นเป็นของฝ่ายกัมพูชาเข้ามาบินสอดแนม ชาวบ้านหลายพื้นที่ของจังหวัดบุรีรัมย์ต่างหวาดผวา หลังยังพบโดรนปริศนาจำนวนหลายลำบินว่อนในหลายอำเภอ เช่น อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.ละหานทราย อ.ประโคนชัย และ อ.บ้านกรวด แต่ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ถึงที่มาที่ไปของโดรนว่ามาจากไหน เพื่อจะได้ดำเนินการตามขั้นตอน หากเป็นของคนไทยก็จะนำตัวมาสอบถาม จุดประสงค์ในการบิน และอาจถูกดำเนินคดี เนื่องจาก ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ ได้ออกประกาศห้ามอากาศไร้คนขับหรือโดรนบิน ในช่วงนี้เด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะมีโทษตามกฎหมาย แต่หากเป็นโดรนฝ่ายกัมพูชาที่ลักลอบบินเข้ามาสอดแนมหรือจับพิกัดเป้าหมายสำคัญในไทย เจ้าหน้าที่จะเร่งหามาตรการป้องกันสกัดกั้น เพื่อความปลอดภัยและความมั่นคงของชาติ สำหรับภาพรวมสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย หลังเจรจาหยุดยิง ขณะนี้ยังไม่พบการปะทะกันขึ้น แต่โรงเรียนในพื้นที่แนวชายแดนทั้ง อ.บ้านกรวด และ อ.ละหานทราย รวม 85 แห่ง ยังคงปิดทำการเรียนการสอนอย่างไม่มีกำหนด ขณะที่จังหวัดยังไม่มีประกาศให้ชาวบ้านกลับเข้าบ้านพักได้ เพราะสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ ประกอบกับต้องเคลียร์พื้นที่ก่อนเพราะมีกระสุนปืนใหญ่ตกในพื้นที่มากกว่า 240 ลูก.-สำนักข่าวไทย