fbpx

กรมอนามัย แนะตลาดการ์ดอย่าตก จับจ่ายช่วงปีใหม่

กทม. 1 ม.ค.-​กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะผู้ประกอบการตลาดการ์ดไม่ตก คุมเข้ม COVID Free Setting เตรียมพร้อมรับผู้บริโภค จับจ่ายสินค้าในช่วงเทศกาลปีใหม่

​นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตลาดซึ่งเป็นแหล่งจับจ่ายสินค้าของประชาชนยังคงเป็นสถานที่ที่ยังคงต้องเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เนื่องจากเป็นสถานที่รวมกลุ่มทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย ผู้ขนส่งสินค้า และแรงงานต่างด้าว ต้องป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล หรือ UP (Universal Prevention) ขั้นสูงสุด ซึ่งผลการสำรวจอนามัยโพล ระหว่างวันที่ 1-29 ธันวาคม 2564 พบว่า มาตรการตลาดปฏิบัติได้มากที่สุด คือ กำหนดจุดเข้า-ออกชัดเจน และวัดอุณหภูมิก่อนเข้า ร้อยละ 83.1 รองลงมาคือ มีจุดล้างมือด้วยสบู่และน้ำหรือแอลกอฮอล์อย่างเพียงพอ ร้อยละ 56.4 มีการประชาสัมพันธ์ให้สวมหน้ากากตลอดเวลาอย่างถูกต้อง ร้อยละ 52.9 ตามลำดับ ส่วนมาตรการที่พบเห็นว่าปฏิบัติได้น้อยที่สุด คือ เห็นภาชนะรองรับขยะมีฝาปิดมิดชิด ร้อยละ 21.3 รองลงมาคือ มีการควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการไม่ให้แออัด และเว้นระยะห่าง ร้อยละ 23.1 ห้องสุขาสะอาด แห้ง ไม่มีกลิ่น ไม่มีน้ำขัง ร้อยละ 24.6 และยังพบเห็นผู้อื่นสวมหน้ากากไม่ถูกต้องหรือไม่สวม ร้อยละ 17


นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า กรมอนามัยขอความร่วมมือสถานประกอบการตลาดทั่วประเทศ ต้องคุมเข้มและปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting ทั้ง 3 ด้าน ดังนี้ 1) มาตรการด้านสิ่งแวดล้อม ให้ตลาดประเมินตนเองตามมาตรการ COVID Free Setting ผ่านช่องทางเว็บไซต์ stopcovid.anamai.moph.go.th จัดให้มีจุดเข้า ออกเหมาะสมกับขนาดพื้นที่จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะช่วงหนาแน่น เช่น ช่วงเช้า และช่วงเย็น จัดให้มีการเว้นระยะห่าง อย่างน้อย 1-2 เมตร เพื่อลดความแออัด จัดระบบการสุขาภิบาลและอนามัยสิ่งแวดล้อม ทำความสะอาดทำลายเชื้อทุกวัน โดยเฉพาะบริเวณพื้นผิวสัมผัสร่วมให้ทำความสะอาดทุกชั่วโมง จัดให้มีภาชนะรองรับขยะแบบมีฝาปิดมิดชิด และต้องล้างตลาดตามหลักสุขาภิบาลอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง รวมทั้งปรับสภาพแวดล้อมให้มีการระบายอากาศที่ดี นอกจากนี้ ควรจัดบริเวณรับประทานอาหารไว้ โดยเฉพาะงดการจับกลุ่มพูดคุย

​“ถัดมาคือ 2) มาตรการด้านผู้ให้บริการ พ่อค้า แม่ค้า แรงงานต่างด้าว ให้ได้รับการฉีดวัคซีน ตามเกณฑ์ที่กำหนด หรือมีประวัติการติดเชื้อมาก่อนในช่วง 1-3 เดือน หรือมีการสุ่มตรวจ ATK เป็นระยะ คัดกรองความเสี่ยงก่อนเข้าตลาดด้วยการประเมินผ่าน “ไทยเซฟไทย” หากพบเสี่ยงปานกลางหรือเสี่ยงสูง งดให้บริการ รวมถึงจัดคนควบคุมกำกับพนักงานและผู้รับบริการให้ปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting โดยเคร่งครัด และ 3) มาตรการด้านผู้รับบริการ ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล หรือ UP (Universal Prevention) อย่างเคร่งครัด เช่น การสวมหน้ากากอนามัยให้ถูกต้องตลอดเวลา การเว้นระยะห่าง 1 -2 เมตร การล้างมือบ่อยๆด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ และคัดกรอง ความเสี่ยงก่อนเข้าตลาดด้วยการประเมินผ่าน “ไทยเซฟไทย” หากพบเสี่ยงปานกลางหรือเสี่ยงสูง งดเข้าใช้บริการ และเลือกใช้วิธีจ่ายเงินแบบ e-Payment เพื่อลดการสัมผัส” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME