นายจ้างทุบตีลูกจ้าง เข้าข่ายบังคับใช้แรงงาน โทษหนักจำคุกตลอดชีวิต

กทม. 10 ธ.ค.-อธิบดี กสร. เผยผลสอบข้อเท็จจริงคณะทำงานสหวิชาชีพ กรณีนายจ้างทำร้ายร่างกายทุบตีกระทำทารุณกรรมต่อลูกจ้างที่จังหวัดสิงห์บุรี เข้าข่ายบังคับใช้แรงงานหรือบริการ มีโทษจําคุก ตั้งแต่ 8 – 20 ปี และปรับตั้งแต่ 800,000 – 2,000,000 บาท หรือจําคุกตลอดชีวิต


นายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีที่นายจีรวัฒน์ เล้าสุวรรณ หรือ ฟ้า อายุ 29 ปี ทำงานที่ร้านไทยถาวรการเกษตร อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี จำหน่ายวัสดุการเกษตร และเพาะพันธุ์สุนัขจำหน่าย ถูกนางนัยน์ปพร เนตรบุตร เจ้าของกิจการ ลงโทษทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุเนื่องจากนายจีรวัฒน์ฯ ทำสิ่งของเสียหายและพูดโกหก ซึ่งนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานส่งพนักงานตรวจแรงงานเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยประสานคณะทำงานสหวิชาชีพ ประกอบด้วย อัยการจังหวัด พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด แรงงานจังหวัด สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด และตำรวจ สภ.อินทร์บุรี ดำเนินการพิจารณาคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์และผู้เสียหายจากการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2564 ซึ่งที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาแล้วเห็นว่าเข้าข่ายเป็นผู้เสียหายจากการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 มาตรา 6/1 ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้ทำงานหรือบริการโดยวิธีการใช้กำลังประทุษร้ายทำให้ผู้นั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานบังคับใช้แรงงานโดยมีโทษตามมาตรา 52/1 วรรคหนึ่งจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึง สี่ปีปรับตั้งแต่ ห้าหมื่นบาท ถึง สี่แสนบาท และวรรคสอง ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำได้รับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่แปดปีถึงยี่สิบปีและปรับตั้งแต่แปดแสนบาทถึงสองล้านบาทหรือจำคุกตลอดชีวิต ในขั้นตอนต่อไปจะส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการ

อธิบดี กสร. กล่าวเพิ่มเติมว่า นายฐปนวัชร เล้าสุวรรณ พี่ชายนายจีรวัฒน์ เล้าสุวรรณ ได้พาน้องชายมาอยู่กับนางนัยน์ปพร เพื่ออุปการะเลี้ยงดู ตั้งแต่อายุ 15 ปี เนื่องจากมารดาเสียชีวิต โดยส่งเข้าเรียนหนังสือในระดับชั้น ปวช. ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษา แต่เรียนไม่จบ นางนัยน์ปพร มอบหมายให้นายจีรวัฒน์ฯ ทำหน้าที่ดูแลสุนัข ไม่มีการจ่ายค่าจ้าง แต่เป็นผู้ดูแลค่าใช้จ่ายในการอุปโภค บริโภค ดังนั้นจึงไม่มีนิติสัมพันธ์เป็นนายจ้าง ลูกจ้างต่อกัน ทั้งนี้ นายฐปนวัชร และนายจีรวัฒน์ ได้เข้าแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรอินทร์บุรี ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อออกหมายจับนางนัยน์ปพรฯ และนายศรายุทธ บุญคร ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัสโดยวิธีการทรมาน และได้จับกุมตัวมาสอบสวน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

ผู้เสียหาย 70 ราย ร้องสภาทนายฯ ถูกหอพักโหดเอาเปรียบ

ผู้เสียหาย 70 คน เข้าร้องสภาทนายความช่วยเหลือ หลังถูกเจ้าของหอพัก ย่านรังสิต เอาเปรียบ ข่มขู่กักขัง-ยึดทรัพย์ ด้านนายกสภาทนายความ ตั้งคณะทำงานช่วยเหลือทางคดี ทั้งแพ่ง-อาญา เชื่อมีผู้เสียหายเพิ่มอีก

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

นายกฯ มาเลเซีย ต่อสายคุย “แพทองธาร” ติดตามสถานการณ์ใต้

นายกฯ มาเลเซีย ต่อสายคุย “แพทองธาร” ติดตามสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนใต้ แสดงความพร้อมร่วมมือกับไทยเพื่อยุติความรุนแรง พร้อมใช้เวทีอาเซียนสนับสนุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสมาชิกมากขึ้น