กรุงเทพฯ 12 พ.ย. – “โก้ ธีรศักดิ์” พาลูกจ้างพบตำรวจ สน.วังทองหลาง เร่งรัดแก้ไขปัญหาคนป่วยจิตเวช ทำร้ายร่างกายคนในหมู่บ้าน
โก้ ธีรศักดิ์ พันธุจริยา นักร้อง-พิธีกร พร้อมพี่สาว พาพนักงานในบริษัทที่ถูกเพื่อนบ้านสาดน้ำผสมสารเคมีใส่ จนได้รับบาดเจ็บเป็นแผลไหม้ที่แขน เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม หลังเข้าแจ้งความไปก่อนหน้านี้ แต่ไม่มีความคืบหน้า
นางสาวประภัสสร พี่สาวของโก้ ซึ่งเป็นหัวหน้างาน และพักอาศัยอยู่ในบ้านที่เกิดเหตุ ในซอยรามคำแหง 21 ถนนประดิษฐ์มนูธรรม เขตวังทองหลาง บอกว่า สถานที่ดังกล่าวมีลักษณะเป็นทาวน์โฮม ห้องติดกัน และเปิดสำนักงาน ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีปัญหากับเพื่อนบ้านรายนี้ จนกระทั่งประมาณ 5 ปีก่อน เพื่อนบ้านเริ่มมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายอย่าง เช่น ตะโกนด่าด้วยถ้วยคำหยาบคาย ถ่มน้ำลายใส่ ขว้างปาหิน-ของมีคมใส่ หรือทุ่มกระถางต้นไม้ใส่ ขณะเดินออกจากบ้าน ทั้งที่ไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน เคยแจ้งตำรวจ 191 และตำรวจท้องที่ไปแล้วหลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะคู่กรณีก่อเหตุจากในบ้าน เมื่อไปพูดคุยกับแม่ของเพื่อน เพื่อขอให้ตักเตือนหรือพาลูกไปรักษา ก็ได้รับการปฏิเสธ พร้อมบอกว่าลูกชายปกติ แต่ถูกกลั่นแกล้ง ถูกทำของใส่ จนกระทั่งล่าสุดสาดน้ำผสมสารเคมีใส่พนักงานจนได้รับบาดเจ็บ ต้องพักรักษาตัวนานกว่า 2 สัปดาห์ ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องอันตรายอย่างมากกับคนที่พักอาศัยใกล้เคียง หากโดนดวงตาหรือใบหน้าเกิดอันตรายสาหัส ซึ่งปัจจุบันเวลาตนเองจะเข้าบ้านก็กลัวถูกสาดน้ำสารเคมีใส่ จึงต้องกางร่มและใส่เสื้อแขนยาวตลอด
ด้านโก้ ธีรศักดิ์ บอกว่า ไม่เพียงแต่บ้านของตนเองเท่านั้น แต่ยังมีเพื่อนบ้านอีกหลายรายที่ถูกกระทำลักษณะเดียวกัน ลูกค้าร้านทำผมก็ถูกปาหินใส่ จนลูกค้ามาใช้บริการลดน้อยลง แต่ที่ผ่านมาเพื่อนบ้านทุกคนอดทนมาโดยตลอด แต่บ้านผู้ก่อเหตุกลับไม่แก้ไขปัญหา มีแต่จะรุนแรงมากขึ้น จึงอยากให้คดีนี้เป็นคดีตัวอย่าง เรื่องการพักอาศัยร่วมกับเพื่อนบ้าน หากมีผู้ป่วยที่มีอาการทางจิต ก็ควรรับการรักษาที่ถูกต้อง เพราะไม่รู้ว่าในอนาคตจะเกิดเหตุร้ายแรงมากกว่านี้หรือไม่
ขณะที่นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด บอกว่า ได้ประสานตำรวจให้เร่งรัดดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุทุกข้อกล่าวหา ทั้งเรื่องทำร้ายร่างกาย ทำให้เสียทรัพย์ สร้างความเดือดร้อนรำคาญ และอยากให้ตำรวจไปคุมตัวผู้ก่อเหตุนำส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจใฟ้แน่ชัดว่ามีอาการผิดปกติทางจิตประสาทหรือไม่ หากพบก็จะได้ขอให้ตำรวจส่งไปรักษา เพื่อป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในภายหลัง .-สำนักข่าวไทย