‘จับโกงงบโควิด 4 แสนล้าน ด้วย ACT Ai’

15 ก.ย.-องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ผุด “ACT Ai” เครื่องมือสุดล้ำนำร่อง จับทุจริตงบฟื้นฟูโควิด 4 แสนล้าน ชวนประชาชนร่วมตรวจสอบ

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ จัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชันฯ พร้อมเปิดตัวเครื่องมือใหม่ ‘จับโกงงบโควิด 4 แสนล้าน ด้วย ACT Ai’ ปลุกคนไทยทุกภาคส่วนร่วมตรวจสอบ ที่ปรึกษาสภาพัฒน์เผย ในอนาคต ทุกโครงการ ทุกนโยบายรัฐจะถูกเปิดเผยและติดตามผลด้วยข้อมูล


เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2563 ที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค สุขุมวิท องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT จัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชัน 2563 ภายใต้แนวคิด “จับโกงโคตรง่ายแค่ปลายนิ้ว – Power of Data” โดยจัดงานในรูปแบบออนไลน์ อีเวนท์ จำกัดผู้เข้าร่วมงาน ให้หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสังคมร่วมรับชมการถ่ายทอดสดตลอดงานและแสดงพลังสู้โกงผ่านทางเฟซบุ๊กองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน

นายวิเชียร พงศธร ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า การจัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชันในครั้งนี้ หวังว่าจะช่วยให้ทุกคนตระหนักถึงพลังของข้อมูลว่ามีความสาคัญต่อการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน อย่างยิ่ง ทั้งการสืบค้น การจัดระเบียบ การเชื่อมโยง และการประมวลผลฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ก้าวต่อไปขององค์กรฯนับจากนี้ ยิ่งต้องการพลังจากประชาชนอีกหลายเท่า มาใช้ข้อมูลเหล่านี้เป็นเครื่องมือในการติดตาม ตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการทุจริตคอร์รัปชัน นับเป็นอีกก้าวสำคัญ ในการสร้างระบบเฝ้าระวัง และร่วมกันเปิดโปงการกระทำผิด จัดการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันอย่างเป็นระบบ


ทั้งนี้ ภายในงานได้มีการเปิดตัวเครื่องมือ ‘จับโกงงบ COVID ด้วย ACT Ai’ โดย ผศ.ดร.ต่อภัสสร์ ยมนาค ผู้ดูแลโปรเจ็กต์ ACT Ai ซึ่งเป็นเครื่องมือใหม่ล่าสุด ที่ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายในการพัฒนาส่วนขยายของ “ACT Ai เครื่องมือสู้โกง” แพลตฟอร์มที่รวบรวมข้อมูลโครงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐเอาไว้ เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมเข้าไปติดตามตรวจสอบ ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว
โดยประกอบด้วย 4 ฟังก์ชันสำคัญที่จะช่วยให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมต่อต้านคอร์รัปชันง่ายขึ้น คือ การทำแผนที่แสดงรายละเอียดโครงการ ระบบติดตามสถานะโครงการ ปุ่มแสดงความคิดเห็น และเชื่อมโยงหน่วยงานรับร้องเรียนหรือแจ้งเบาะแส และระบบช่วยคัดกรองโครงการที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้ ซึ่งจะเปิดให้ใช้งานภายในสิ้นปี 2563 นี้ทาง covid19.actai.co

ผศ.ดร. ต่อภัสสร์ กล่าวด้วยว่า สองปัจจัยสำคัญที่จะมาช่วยต่อสู้กับคอร์รัปชัน หนึ่ง คือ การร่วมมือจากคนจำนวนมาก ที่เข้ามาช่วยให้ข้อมูล ช่วยตรวจสอบ ช่วยเป็นหูเป็นตา และสอง คือ ข้อมูลที่เข้าถึงได้ โปร่งใสเพื่อที่จะใช้เป็นหลักฐานในการต่อสู้กับคอร์รัปชัน หรือแม้กระทั่งใช้ป้องกันตัวเองจากการถูกกล่าวหาก็ตาม ซึ่งประเทศไทยตอนนี้เรามีกำลังคนที่พร้อมช่วย พร้อมตรวจสอบแล้ว ทั้งในโลกออนไลน์หรือออฟไลน์ที่หันมาจับตาดูการทุจริตคอร์รัปชันมากขึ้น หรือภาครัฐเองที่เริ่มขยับตัวเองมาใช้ระบบดิจิทัล

“ACT Ai จะเข้ามาเป็นหนึ่งในอาวุธด้วยเทคโนโลยีข้อมูล วันนี้ด้วยพลังของข้อมูล การจับโกงจะง่ายแค่ปลายนิ้ว หัวใจสำคัญของเครื่องมือ ‘จับโกงงบ COVID ด้วย ACT Ai’ คือ การที่ทุกคน ทุกอาชีพ ทุกพื้นที่สามารถใช้สิ่งที่ตัวเองสนใจ อยู่ใกล้ มีความรู้มาร่วมจับตา เปิดโปงการทุจริตได้เลย” ผศ.ดร. ต่อภัสสร์ กล่าวย้ำ


ดร.วันฉัตร สุวรรณกิตติ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ทอล์กหัวข้อ ‘Big Data as a Solution’ กล่าวว่างบฟื้นฟูโควิด 4 แสนล้าน เป็นงบประมาณที่มีประโยชน์ จะช่วยบรรเทาให้ผ่านวิกฤตไปได้บ้างหรืออย่างน้อยไม่เลวร้ายไปกว่าเดิมและยังเป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้คนได้มีงาน มีอาชีพ ปรับตัวในภาวะวิกฤตแบบนี้ ถ้าทำสิ่งเหล่านี้ได้ถือว่าคุ้มมาก แต่สิ่งที่สำคัญคือผลลัพธ์ของโครงการต้องตอบโจทย์ที่พูดไปได้จริง ไม่ใช่การนำไปสู่การทุจริตคอร์รัปชัน เราจึงริเริ่มแนวคิดที่จะนำข้อมูลของงบฟื้นฟู 4 แสนล้านนี้เข้าระบบ Open Data เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบเพื่อให้งบสี่แสนล้านเกิดประโยชน์สูงสุด

“พลังของข้อมูล ไม่ใช่เพียงการเก็บข้อมูลเอาไว้ การทำ Big Data จะไม่มีค่าเลย ถ้าข้อมูลไม่ถูกนำมาใช้ หัวใจสำคัญ คือ เกาให้ถูกที่คัน แต่ถ้าเราไม่มีข้อมูล จะไม่รู้เลยว่าต้องเกาตรงไหน แก้ปัญหาให้ถูกจุดได้ยังไงในอนาคตทุกโครงการ ทุกนโยบายของรัฐ จะถูกเปิดเผยและติดตามผลด้วยข้อมูล เพื่อให้ตอบโจทย์ เกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง” ดร.วันฉัตร กล่าว
ในการแถลงข่าวเปิดตัว เครื่องมือจับโกง ACT Ai องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากภาคประชาสังคมที่ผลงานติดตามตรวจสอบข้อมูลทุจริตคอร์รัปชั่นจากภายในและต่างประเทศมาร่วมแลกเปลี่ยนวิธีคิดและการทำงานครั้งนี้

นาย “เดวิด” เจ้าของเพจ CSI LA เปิดเผยผ่านไลฟ์สด หัวข้อ ‘สืบ-จาก-ข้อมูล’ ว่า สร้างเพจขึ้นเพื่อให้คนหลากหลายได้มาแลกเปลี่ยนความเห็นและค้นหาความจริงกัน ในฐานะที่เป็น Data Scientist (ผู้นำข้อมูลไปวิเคราะห์) จึงเชื่อในข้อมูล และไม่ได้ทำตัวเป็นผู้รู้ แต่เป็นผู้ที่จุดประเด็นตั้งคำถาม ดังนั้นเห็นด้วยที่รัฐต้องเปิดข้อมูลงบฟื้นฟู โควิด 4 แสนล้านกับสาธารณะ ให้ประชาชนเข้าถึงสามารถตรวจสอบได้

“Data without an action is useless ตอนนี้แค่มีสมาร์ทโฟนก็เป็นอาวุธที่ดีที่สุดในการช่วยจับโกงได้แล้ว เราต้องคิดว่าเราเป็นเจ้าของประเทศ ถ้าเราเห็นสิ่งสกปรก เราก็ต้องออกมาเก็บกวาดบ้านเมืองของเรา” เจ้าของเพจ CSI LA กล่าว

ขณะที่ ตัวแทนเพจปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน กล่าวว่า การทำงานของหมาเฝ้าบ้านเราจะร่วมมือกันเป็นกลุ่ม ตามความสามารถความถนัดแตกต่างกันไป เริ่มจากพยายามเสาะหาสิ่งที่ต้องสงสัยว่าทุจริต ส่งต่อให้ทีมค้นหาและตรวจสอบข้อมูล สุดท้ายก็เผยแพร่ข้อมูลเหล่านี้ ให้กระแสสังคมช่วยเป็นพลังหนึ่งในการเปิดโปง ยกตัวอย่างกรณีทุจริตอาหารกลางวันนักเรียน มีผู้ปกครองและสื่อช่วยตรวจสอบ ทำให้ภาครัฐสั่งตรวจสอบทั่วประเทศ

“เราไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งหรือมีอำนาจในการที่จะมาช่วยแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ทุกคนมีสื่อ คือ โทรศัพท์ อยู่ในมือแล้ว ใช้มันให้เป็นประโยชน์ เพื่อปกป้องบ้านเมืองให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น” ตัวแทนเพจปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน ยืนยัน ออเดรย์ ถัง รัฐมนตรีดิจิทัลของไต้หวัน ผู้ผลักดันการใช้ข้อมูลเพื่อสร้างสังคมการเมือง การใช้งบประมาณที่โปร่งใสและตรวจสอบ ให้สัมภาษณ์พิเศษผ่านวิดีโอ หัวข้อ ‘Disrupting Corruption’ ว่า เมื่อปี 2017 กระทรวงยุติธรรมของประเทศไต้หวันได้จัดโครงการให้ประชาชนเข้ามาเป็นอาสาสมัครทำงานในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน จนพัฒนาเป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน และภาคเอกชน ให้ได้เข้ามาตรวจสอบโครงการต่างๆ ที่เกิดจากรัฐ เป็นการทำงานร่วมกัน และการสร้างความร่วมมือกันหลายภาคส่วน

นอกจากนี้รัฐบาลไต้หวันยังพยายามผลักดันแนวคิด e-Government ด้วยการสนับสนุนให้เกิดการใช้บริการทางราชการผ่านรูปแบบออนไลน์ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการบริหารราชการ ส่งเสริมให้ประชาชนแบ่งปันข้อมูลผ่านแพลตฟอร์ม gov.tw เพื่อให้เกิดการนำข้อมูลไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อไป และในปี 2011 มีการจัดตั้งกระทรวงยุติธรรมต่อต้านการทุจริต ซึ่งเป็นองค์กรพิเศษขึ้น เพื่อทำหน้าที่ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ได้นำแนวคิดในการสร้างโครงการอาสาสมัครมาปฏิบัติ โดยให้ประชาชนมาสมัครเป็นอาสาสมัครต่อต้านคอร์รัปชัน และให้อาสาสมัครเหล่านี้เข้าไปช่วยงานในองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันต่างๆ เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

แอร์อินเดียบินกลับเดลีแล้ว หลังตรวจไม่เจอระเบิด

ภูเก็ต 13 มิ.ย. – เครื่องบินแอร์อินเดีย พร้อมผู้โดยสาร 155 คน ออกจากสนามบินภูเก็ต กลับเมืองเดลีแล้ว หลังตรวจละเอียดยิบ ไม่พบระเบิดตามจดหมายขู่ สอบเครียด 3 ผู้ต้องสงสัยชาวอินเดีย แต่ต้องปล่อยไป เพราะไร้หลักฐานมัด ยันไม่กระทบการให้บริการท่าอากาศยานฯ เมื่อเวลา 09.30 น. หอบังคับการบินสนามบินภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์ควบคุมการบิน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ว่าลูกเรือสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI 379 เส้นทางบิน HKT-ภูเก็ต-DEL (เดลี) ผู้โดยสารจำนวน 156 คน พบข้อความขู่วางระเบิดในแผ่นกระดาษระบุว่า ‘F… you all bomb’ วางไว้ในห้องน้ำ จากนั้นสายการบินได้ประกาศเข้าสู่แผนฉุกเฉิน ให้นักบินนำเครื่องบินมาลงที่สนามบินภูเก็ต โดยทางสนามบินภูเก็ต ได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน Airport Contingency Plan และดำเนินการตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ EOC เพื่อควบคุมและบริหารจัดการสถานการณ์ตามแผนฯ […]

คดี “ทักษิณ” ชั้น 14 ศาลเรียกพยาน 20 ปาก-นัดไต่สวนอีก 6 นัด ก.ค.นี้

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย. – คดี “ทักษิณ” วันนี้ ศาลเตรียมเรียกพยาน 20 ปาก พร้อมนัดไต่สวนอีก 6 นัด ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ถือเป็นการเริ่มกระบวนการไต่สวนเรื่องการบังคับคดีของอดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ยืนยันไม่มีการปิดด่านบ้านคลองลึก

สระแก้ว 13 มิ.ย. – ผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่สยบข่าวลือปิดด่านคลองลึก หลังชาวไทย-กัมพูชา ตื่นตระหนกแห่ข้ามฝั่ง จนเกิดความวุ่นวายหน้าด่าน ขณะฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เกิดความวุ่นวายขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. หลังจากมีกระแสข่าวลือในกลุ่มผู้ค้าชาวกัมพูชาและชาวไทย ว่าทางการจะมีคำสั่งปิดด่านชั่วคราวในช่วงบ่าย ระหว่างเวลา 13.00-14.00 น. ทำให้ประชาชนทั้ง 2 ฝั่งเร่งรีบข้ามแดนและสอบถามข้อมูลกันอย่างจ้าละหวั่น โดยข่าวลือดังกล่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว พ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากเดินทางข้ามแดนก่อนถึงช่วงเวลาที่เข้าใจกันว่าจะปิดด่าน ทำให้บรรยากาศหน้าด่านเต็มไปด้วยความตึงเครียดและสับสน ด้านผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่ชี้แจงเรื่องดังกล่าว ยืนยันไม่มีคำสั่งปิดด่าน พร้อมขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และย้ำชัดว่าเวลาการเปิด-ปิดด่านยังคงเป็นไปตามประกาศเดิมของกองกำลังบูรพา คือเปิด 08.00-16.00 น. ทุกวัน โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือคำสั่งใหม่ ฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทยแหล่งข่าวด้านความมั่นคงกัมพูชา เปิดเผยว่า ฝ่ายปกครองในฝั่งปอยเปตได้ดำเนินการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่เชื่อมโยงกับฝั่งไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมข้อมูลและสื่อสารในพื้นที่ชายแดน ฝั่งกัมพูชาปิดด่านบ้านแหลมไม่แจ้งล่วงหน้าส่วนบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เมื่อเวลา 10.45 น. เกิดความวุ่นวาย หลังฝั่งกัมพูชา มีการปิดประตูด่านฝั่ง ต.บึงรัง […]

ผู้รอดชีวิตจากแอร์อินเดียเผยหนีออกทางประตูฉุกเฉินที่เสียหาย

นิวเดลี 13 มิ.ย. – ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากเหตุเครื่องบินแอร์อินเดียตก ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 240 คน กล่าวว่า เขาเดินออกมาจากประตูฉุกเฉินที่พังเสียหาย หลังจากเครื่องบินชนเข้ากับหอพักวิทยาลัยแพทย์ในเมืองอาห์เมดาบัด นายราเมศ วิศวาศกุมาร ซึ่งตำรวจระบุว่า เขานั่งอยู่ที่นั่ง 11เอ (11A) ใกล้ประตูฉุกเฉิน และสามารถหนีรอดมาได้ทางช่องทางประตูฉุกเฉินที่ชำรุดเสียหาย เขาถูกบันทึกภาพไว้หลังเหตุเครื่องบินตกเมื่อวันพฤหัสบดี ขณะกำลังเดินกะเผลกๆ อยู่บนถนนในสภาพเสื้อยืดเปื้อนเลือดและมีรอยฟกช้ำบนใบหน้า คลิปภาพชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดียผู้นี้ที่เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ ถูกนำไปออกอากาศในสถานีข่าวเกือบทั้งหมดของอินเดีย หลังจากเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ลำดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุตกหลังออกเดินทางจากสนามบินได้ไม่นาน นายวิศวาศกุมาร ให้สัมภาษณ์ขณะนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลว่า เขาไม่อยากจะเชื่อว่ารอดชีวิตมาได้อย่างไร และคิดว่าต้องตายแน่ ๆ แต่พอเขาลืมตา เขาก็รู้สึกตัวว่ายังไม่ตาย และพยายามปลดเข็มขัดนิรภัย เพื่อออกจากที่นั่ง และพยายามหนีออกมาจากตัวเครื่องบิน นายวิศวาศกุมาร เล่าว่า เครื่องบินดูเหมือนจะหยุดนิ่งกลางอากาศเป็นเวลา 2-3 วินาที หลังจากที่ขึ้นบินไปในอากาศ และไฟในห้องโดยสารที่เป็นสีเขียวและสีขาวก็สว่างขึ้น เขารู้สึกได้ว่าแรงขับเคลื่อนของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น แต่แล้วเครื่องบินก็ชนเข้ากับหอพักด้วยความเร็ว แพทย์ระบุว่า นายวิศวาศกุมารไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงใด ๆ ในขณะที่เขากล่าวว่า เขาเดินออกจากจุดเครื่องบินตก โดยบาดเจ็บจากบาดแผลไฟไหม้ที่แขนซ้ายเท่านั้น นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี […]