รัฐสภา 25 ก.ย.-กมธ.นิรโทษกรรม ประชุมนัดสุดท้าย สรุปภาพรวม ไม่นิรโทษ “ทำให้มีผู้เสียชีวิต-ทุจริต-ม.112” และให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาพฤติการณ์กลับตัวกลับใจ “นิกร” เผยเตรียมเสนอเข้าที่ประชุมให้ทันสมัยนี้
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสร้างเสริมสังคมสันติสุข พร้อมด้วย นายวีรภัทร ปริยวงศ์, นายเอกชัย ไชยนุวัฒน์ โฆษกคณะกรรมาธิการ และนายนิกร จำนง กรรมาธิการ แถลงสรุป ข้อมูลการศึกษาของคณะกรรมาธิการ ซึ่งในวันนี้ถือว่าเป็นนัดสุดท้ายของการประชุม
โดยนายวีรภัทร กล่าวว่า ร่างพระราชบัญญัติสร้างเสริมสังคมสันติสุข ได้แบ่งกรอบกฎหมายไว้ชัดเจน คือ 1.
ระยะเวลาที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นช่วงไหน โดยจะเริ่มนับตั้งแต่ก่อนการทำรัฐประหารปี 49 จนถึงสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ก็จะไม่เลยวันที่มีการรับหลักการกฎหมายในสภาฯ 2. ต้องดูมูลเหตุจูงใจทำการเมือง การกระทำที่กระทำไปโดยพยายามที่แสดงออกในการชุมนุม เป็นเรื่องส่วนตัวหรือความผิดบางลักษณะ ตามที่สภาได้รับหลักการไว้ คือ ไม่นิรโทษกรรมความผิดที่เกี่ยวกับเรื่องที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึงแก่ความตาย เกี่ยวกับการทุจริต รวมถึงคดีกฎหมายอาญามาตรา 112
ทั้งนี้ ความผิดที่ได้จะได้รับการนิรโทษกรรมจะต้อง อยู่ในบัญชีท้ายพระราชบัญญัติ ซึ่งเราพยายามอย่างยิ่งเพื่อให้ผู้ที่ได้ รับผลกระทบ จากความขัดแย้งทางการเมืองได้รับความช่วยเหลือมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสาขาอาชีพใดๆฉะนั้นบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัติจะระบุฐานความผิดเยอะมากขึ้นกว่าที่มีการรับหลักการ ในวาระแรกเพื่อช่วยทุกคนที่ตกเป็นเหยื่อ หรือผู้ที่ถูกดึงเข้าไปในความขัดแย้งได้รับการช่วยเหลือ
นอกจากนี้มีร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ มีการพูดถึงความรับผิดทางแพ่งด้วย ไม่ได้ไปนิรโทษกรรมทางแพ่ง แต่จะใช้วิธีกรณีที่ผู้เสียหายเป็นรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ ก็จะไม่ฟ้องร้องบังคับคดีต่อ แต่ถ้าคดีใดฟ้องร้องบังคับคดีไปแล้วได้รับการชดใช้เยียวยาไปแล้วก็ไม่มีการส่งคืนนี่คือการพยายามสร้างความสมดุล ในเชิงความเป็นธรรมและเราก็เห็นใจ สำหรับบางคนที่ถูกบังคับคดีไปจนถึงขั้นล้มละลายไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ ดังนั้นจึงบอกว่าหนี้ทางแพ่งไม่ได้หายไปแต่ภาครัฐ ก็จะร่วมกระบวนการในการสร้างสังคมสันติสุขโดยการไม่ต้องไปบังคับคดีฟ้องร้องเพิ่มเติม
ทั้งนี้ พระราชบัญญัติฉบับนี้ได้ให้มีการ ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณา ไม่ได้มีแค่เพื่อรับเรื่องว่าคนนี้จะต้องได้รับการช่วยเหลือนิรโทษกรรมเท่านั้นแต่มีอำนาจอื่นในการที่จะดูพฤติกรรมการกลับตัวกลับใจ ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้อยากให้มีบทบาทในการจรรโลงทำให้บรรยากาศกลับเข้าสู่สภาวะสังคมที่สันติสุขเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริงไม่ใช่เขียนกฎหมายไปแล้วแล้วมาทะเลาะมาเถียงกันอีก
นายเอกชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ได้เพิ่มมาตรา9/1 ถ้าเป็นผู้กระทำความผิดมีอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ให้คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมามีอำนาจในการจัดทำแผนแก้ไขบำบัดฟื้นฟูผู้กระทำความผิด
ขณะที่นายนิกร กล่าวว่า กรรมาธิการมีความประสงค์ที่จะเสนอกฎหมายให้ทันการประชุมสภาสมัยนี้ให้ได้ ซึ่งสัปดาห์หน้าจะยื่นต่อประธานสภา เพื่อจะเข้าสู่ที่ประชุมเข้าวาระ 2 และ 3 ต่อไป คาดว่าจะให้เร็วที่สุด.-312.-สำนักข่าวไทย