กรุงเทพฯ 30 ก.ค.- แพ็กเกจ “กำลังใจ” ขยายเวลาผู้ประกอบการถึง 5 สิงหาคม “พิพัฒน์” รมว.ท่องเที่ยวฯ ย้ำใช้งบเงินแผ่นดินให้คุ้มค่าที่สุด
การประชุมและแถลงความคืบหน้าโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ภาคการท่องเที่ยว แพ็กเกจ “กำลังใจ” โดยรัฐบาลสนับสนุนค่าเดินทางของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) รวม 1.2 ล้านคน คิดเป็นวงเงิน 2,400 ล้านบาท
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า รัฐบาลต้องการตอบแทนและให้กำลังใจบุคคลากรที่ทำงานกันอย่างหนักในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมทั้งให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ประสบภาวะหยุดชะงักในช่วงที่ผ่านมากลับมามีรายได้อีกครั้ง ในส่วนของพี่น้อง อสม. ลงทะเบียนและดูรายละเอียดเส้นทางท่องเที่ยวในเว็บไซต์ “www.เที่ยวปันสุข.ไทย” โดยจะเริ่มต้นเดินทางตั้งแต่ 31 ก.ค.นี้
ส่วนประเด็นที่บริษัทนำเที่ยว ที่เข้าร่วมโครงการ มีผู้ประกอบการที่ลงทะเบียนเพียง 986 รายจากทั้งหมดกว่า 10,000 รายนั้น เนื่องจากบริษัทที่จะเข้าร่วมโครงการจะต้องผ่านการตรวจสอบเอกสารหลักฐานยืนยันต่างๆ ให้ครบถ้วน จากทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ว่าเป็นบริษัทที่มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง ส่วนที่มีการตรวจเข้ม เนื่องจากเงินจำนวนนี้ที่นำมาใช้ในโครงการ เป็นส่วนหนึ่งจากงบประมาณแผ่นดิน พ.ร.ก.เงินกู้ จึงต้องมีการใช้อย่างระมัดระวัง และจากการประชุมหารือร่วมกันได้ข้อสรุปเบื้องต้นจะขยายเวลาถึง 5 ส.ค.นี้
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สำหรับผู้ประกอบการที่จะเข้าร่วมในโครงการแพ็กเกจกำลังใจจะมีขั้นตอนต่างๆ ในการลงทะเบียนผ่านระบบที่กระทรวงการคลังออกแบบ อาทิ ถุงเงินของธนาคารกรุงไทย ซึ่งจะต้องทำควบคู่ไปกับการกรอกรายละเอียดเส้นทางการท่องเที่ยว โดย 1 บริษัทสามารถนำเสนอเส้นทางการท่องเที่ยวได้ 15 เส้นทาง ย้ำว่าโครงการนี้ดำเนินไปด้วยความโปร่งใส โดยบริษัทท่องเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการ จะได้รับเงินภายใน 7 วัน หลังตรวจสอบหลักฐานครบถ้วน
นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากนี้ทางสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ ทั้งในส่วนกลางและทั่วประเทศ ก็จะเร่งดำเนินการตรวจสอบหลักฐานและบริษัทที่ได้เข้าร่วมโครงการต้องดำเนินกิจการนำเที่ยวในแบบคุณภาพ ซึ่งหากไม่ดำเนินไปตามโปรแกรมการท่องเที่ยว และมีการร้องเรียนในภายหลัง ก็อาจจะมีการพิจารณาเพิกถอนชื่อการเข้าร่วมโครงการเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย