ทำเนียบ 11 เม.ย.- “นายกฯ แพทองธาร” ระดมทีมท่องเที่ยว ทำความเข้าใจ สร้างภาพลักษณ์ไทยไม่อันตราย หลังแผ่นดินไหว ตั้งเป้าเพิ่มนักท่องเที่ยวแทนยอดที่หาย ดึงชาติอื่นแทนจีน
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์การท่องเที่ยวไทย โดยมีนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ช่วงหนึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปีนี้ที่เราประกาศไปว่าไทยจะเป็น Amazing Thailand Grand Tourism and Sport Year เราจึงพยายามยกระดับการท่องเที่ยวให้ทั่วโลกยอมรับมากขึ้น ให้เห็นเราในมิติใหม่ ๆ มากขึ้น มากกว่าแค่ประเทศไทยมีวัดสวย อะไรสวย พยายามเปลี่ยนมิติใหม่ ๆ ให้การท่องเที่ยวเรามีตัวเลือกมากขึ้น ที่สำคัญ คือ โปรโมทประเทศไทยเราเที่ยวได้ทุกเดือน จริง ๆ แล้วตามฤดูต่าง ๆ ก็มีประเทศต่าง ๆ ที่ชอบแตกต่างกัน เช่นฤดูฝน ประเทศที่ไม่ค่อยมีฝนก็ชอบ ก็อยากมาท่องเที่ยว เราก็พยายามจะทำให้การท่องเที่ยวเราน่าสนใจมากขึ้น


ซึ่งหลังการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ยอดการท่องเที่ยวตกลง เราพยายามจะกระตุ้น แต่โชคร้าย เกิดเหตุแผ่นดินไหวขึ้น จึงพยายามให้ทุกฝ่ายช่วยกันโพรโมทว่า ไม่ได้มีส่วนเสียหายในจุดอื่น ๆ นอกจากภาพรวมใหญ่ที่ตึก สตง.ถล่มเท่านั้น ส่วนพื้นที่กรุงเทพฯ ก็ปลอดภัย ซึ่งไซด์งานที่จุดตึกถล่มก็เริ่มเคลียร์เรียบร้อยหมดแล้ว ไม่มีอะไรน่าห่วง จึงอยากให้ตัวเลขกลับมาในเรื่องของนักท่องเที่ยว แต่เมื่อดูในรายละเอียด จำนวนนักท่องเที่ยวก็เรื่องหนึ่ง แต่ว่าเงินเข้าประเทศมากกว่า ทำให้ตัวเลขมันสำคัญ มากกว่านั้น การที่เราเอา Traffic เข้ามาได้ดี แต่สุดท้ายแล้ว Traffic ก็ไม่สำคัญเท่าค่าใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยว เมื่อมี Traffic แล้ว ก็จะต่อยอดการขายได้ ที่สำคัญต้องให้นักท่องเที่ยวมีจุดมุ่งหมายของการท่องเที่ยว คาดว่าเข้ามา 2-3 วันแล้วไปได้หรือไม่ และทำให้เกิดการอยู่แบบระยะยาวมากขึ้น มารักษาตัวหรือไม่ มาฮีลลิ่ง หรืออื่น ๆ หรือไม่ เราต้องหาวัตถุประสงค์ในหารท่องเที่ยวให้ชัดเจนแล้ว การทึ่จะโปรโมทนักท่องเที่ยวสัญชาติต่าง ๆ ไม่เหมือนกัน ความชอบไม่เหมือนกัน และที่สำคัญคือการหา Luxury Secment มากขึ้นว่าจะมีการใช้จ่ายเพิ่มอย่างไรบ้าง ที่สำคัญไม่ใช่ว่าเรานั่งแล้วตั้งว่าอยากได้คนมาใช้จ่ายเยอะ ๆ แต่สิ่งอำนวยความสะดวก บริการ และสินค้าไม่ตอบโจทย์ ก็จะไม่เป็นผล อยากให้ทำแบบครบวงจร
นายกรัฐมนตรี ระบุอีกว่า ในวันนี้ที่มาประชุมกัน เพื่อให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาช่วยรายงานตัวเลขของนักท่องเที่ยวที่ตกไป เช่น นักท่องเที่ยวจีน เรามีแผนอย่างไรบ้างที่จะหานักท่องเที่ยวมาเติม จะดึงนักท่องเที่ยวชาติใดมาเติม ปีนี้และปีหน้า หรือจะดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มเดิมกลับมาได้หรือไม่ กลับมาได้อย่างไร ขอความเห็นด้วยว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง
นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการเดินทาง การตรวจคนเข้าเมือง ที่ต้องใช้ความร่วมมือกันถึงไหนแล้วขอให้อัปเดต และต้องการให้ตัวเลข รายได้ จากการท่องเที่ยวที่เคยได้ อยากให้ตั้งเป็นเป้าหมาย 1.6 ล้านล้านของปี 67 จากนักท่องเที่ยวจำนวน 35 ล้านคน ซึ่งตัวเลขปี 62 ที่ได้ข้อมูลมา 2.2 ล้านล้านบาท ทำอย่างไรให้ตั้งเป้าหมายเท่าเดิมก่อน มีอะไรบ้างที่สามารถเติมได้ .314.-สำนักข่าวไทย