รมว.ศธ. สั่งเร่งแก้ปัญหาทะเลาะวิวาทที่ต้นตอตรงจุด

กทม. 19 พ.ย.- “ตรีนุช” รมว.ศธ. กำชับ สอศ.เร่งแก้ไขปัญหา “นักเรียน-นักศึกษา” ทะเลาะวิวาทที่ต้นตอตรงจุด


นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวมีนักศึกษาอาชีวศึกษา รวมกลุ่มก่อเหตุความรุนแรงขึ้นภายนอกสถานศึกษา ตามถนนและแหล่งมั่วสุมต่างๆ นั้น จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ผู้ก่อเหตุส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาที่พ้นสภาพนักศึกษาไปแล้ว และ อยู่นอกระบบการศึกษา แต่แอบอ้างว่าเป็นนักศึกษา ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ตนจึงได้มอบหมายให้ว่าที่ ร.ต.ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ดำเนินการแก้ปัญหาเร่งด่วน โดยยึดหลัก 3 ป คือป้องกัน ปลูกฝัง และปราบปราม เพื่อเร่งแก้ไขปัญหานักเรียนนักศึกษาทะเลาะวิวาทที่ต้นตอตรงจุด

รมว.ศธ. กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาทางสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และวิทยาลัยในสังกัด ทุกแห่งได้ดำเนินการป้องกัน และปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ระเบียบ วินัยอย่างเข้มข้น เหตุความรุนแรงจึงไม่เกิดในวิทยาลัย แต่ไปเกิดเหตุระหว่างการเดินทางบนท้องถนน ซึ่งในเรื่องนี้กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) จะเพิ่มมาตรการป้องกันและปรามปราบร่วมกับหน่วยงานอื่น เช่น ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และศาลโดยตนได้สั่งการให้ สอศ.แจ้งให้วิทยาลัยในสังกัดทุกแห่ง สำรวจรายชื่อนักเรียน นักศึกษา ทำบัญชีกลุ่มเสี่ยง ที่เคยก่อเหตุ หรือ มีแนวโน้มที่จะก่อเหตุ หรือ มีพฤติกรรมรุนแรง จากนั้นทุกสถานศึกษาจะส่งรายชื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามพฤติกรรม หากกระทำผิดให้ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายทันที รวมทั้งจะนำมาตรการทางกฎหมายมาบังคับใช้กับผู้ปกครองที่ปล่อยปละละเลยให้เด็กไปก่อเหตุดังกล่าวด้วย โดยจะต้องรับผิดชอบตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 30/2559 เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทะเลาะวิวาทของนักเรียนและนักศึกษาอย่างจริงจัง เพราะที่ผ่านมากลุ่มเหล่านี้กระทำผิดซ้ำบ่อย ทั้งนี้ หากสถานศึกษา พบว่า มีกลุ่มรุ่นพี่ หรือบุคคลภายนอกที่มีอิทธิพลมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมเข้ามาชักจูงพาทำกิจกรรมหรือมีการปลูกฝังความคิดในทางที่ผิด หรือ พยายามเข้ามาก่อกวนชักนำรุ่นน้องไปในทางที่ผิด ให้สถานศึกษาส่งชื่อให้ตำรวจช่วยติดตามปรับทัศนคติ หรือดำเนินตามกฎหมายทันที


นางสาวตรีนุช กล่าวด้วยว่า ตนได้รับรายงานว่า ขณะนี้มีสื่อโซเชียล เช่น เว็บไซต์ เพจ และสื่อต่างๆ ได้ลงภาพ คลิป ข้อความที่เป็นการสื่อไปในทางท้าทาย ยุยง ยั่วยุ ปลุกปั่น ให้ก่อเหตุทะเลาะวิวาท ตามสื่อซึ่งมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก นั้น ทาง ศธ. และ สอศ.จะทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)ขอให้กองบัญชาการ ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) ดำเนินการตรวจสอบปิดเพจ เว็บไซต์ สื่อต่างๆ เหล่านั้น และดำเนินการตามกฎหมายเช่นกัน

“มาตรการเหล่านี้ถือว่าเป็นมาตรการที่จำเป็นต้องใช้เพื่อปกป้องนักเรียนนักศึกษาส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นคนดี มีความมุ่งมั่นตั้งใจ และดิฉันก็ขอขอบคุณผู้ปกครองที่ไว้วางใจส่งบุตร หลานให้มาเรียนสายอาชีพ โดยดิฉันจะช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัยให้ทุกคนได้เรียนอย่างมีคุณภาพ และมีความสุข กระทรวงศึกษาธิการจะใช้มาตรการทุกรูปแบบเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุความรุนแรงอีกต่อไป” นางสาวตรีนุช กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้