เขื่อนป่าสัก น้ำยังเกินความจุอ่าง 104% ระบายต่อเนื่องเตรียมรับฝนสัปดาห์หน้า

3 ต.ค. – สถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยาวันนี้ (3 ต.ค.) ที่สถานี C2 ค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ จุดที่อยู่เหนือเขื่อนเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,631 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลดลงจากเมื่อวานเล็กน้อย ที่มีน้ำไหลผ่าน 2,657 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที


ส่วนที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีการไหลของน้ำเพิ่มจากเมื่อวาน 2,766 เป็น 2,784 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ส่วนสถานีบางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา วันนี้มีน้ำไหลผ่าน 3,052 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขยับขึ้นจากเมื่อวานที่อยู่ที่ 3,010 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที


ทุกสถานีขณะนี้ระดับน้ำล้วนต่ำกว่าตลิ่งทั้งสิ้น ยกเว้นที่ สถานี C.35 อ.พระนครศรีอยุธยา ณ เวลา 16.00 น. มีระดับน้ำอยู่ที่ 5.47 เมตร ซึ่งระดับตลิ่งจะอยู่ที่ 4.58 ม. ตรงจุดนี้ระดับน้ำสูงกว่าระดับตลิ่งอยู่ 1.11 เมตร

ส่วนที่ลุ่มน้ำป่าสัก สถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักวันนี้ มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 1,003 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 104% ของความจุเขื่อน มีน้ำเข้าอ่าง 82.93 ล้าน ลูกบาศก์เมตร ระบายน้ำวันละ 98.81 ล้าน ลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้เขื่อนป่าสักยังคงระบายน้ำเพื่อพร่องน้ำไว้เตรียมรับกับสถานการณ์ฝนที่อาจจะตกเพิ่มในสัปดาห์หน้า

แต่เมื่อเทียบกับเมื่อวาน จะเห็นได้ว่าน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนป่าสักลดลงเล็กน้อย จากที่เมื่อวานมีน้ำไหลผ่าน 1,151 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาที แต่วันนี้มีน้ำไหลผ่าน 1,143 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ถือว่าลดลงเล็กน้อยเพื่อบรรเทาสถานการณ์น้ำท้ายเขื่อน


ส่วนน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนพระรามหก ตัวเลขเท่ากับเมื่อวานนี้ที่ 762 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

เทียบให้เห็นภาพกับสถานการณ์น้ำที่ลุ่มน้ำป่าสัก เมื่อเวลา 16.00 น. พบว่ามีน้ำที่สูงกว่าระดับตลิ่งอยู่ 2 สถานี โดยสถานีแรก S.32 อ.เมืองสระบุรี ระดับตลิ่ง 12.80 เมตร แต่มีระดับสูงถึง 14.58 เมตร หมายความว่ามีน้ำสูงกว่าระดับตลิ่งถึง 1.78 เมตร

อีกจุดที่สถานการณ์น่าเป็นห่วงคือ บริเวณสถานี s26 อ.ท่าเรือ พระนครศรีอยุธยา ระดับตลิ่งอยู่ที่ 8 เมตร แต่ระดับน้ำ ณ เวลา 16.00 น. อยู่ที่ 9.18 ม. สูงกว่าระดับตลิ่งอยู่ 1.18 เมตร

ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ในวันที่ 5 ตุลาคมนี้ จะมีความชัดเจนเรื่องหย่อมความกดอากาศในทะเลแปซิฟิก จะชี้ชัดได้ว่าแนวโน้มสภาพอากาศจะมีพายุเข้าสู่ประเทศไทยอีกหรือไม่อย่างไร

ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานจากอิทธิพลพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 31 จังหวัด ประชาชนได้รับผลกระทบ 264,210 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 8 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 14 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 17 จังหวัด รวม 81 อำเภอ โดยพื้นที่ที่แนวโน้มน้ำลดระดับ ลงแล้วได้แก่ สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร ชัยภูมิ นครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ