เขื่อนบางลางมีน้ำมาก เสนอปรับเพิ่มการระบาย

ยะลา 30 พ.ย. – สทนช. เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำเขื่อนบางลาง คาด 7 วันข้างหน้าจะมีปริมาณน้ำไหลเข้า 500 ล้าน ลบ.ม. ส่งผลให้เกือบเต็มความจุเก็บกัก จึงต้องปรับเพิ่มการระบาย ช่วงวันที่ 2-4 ธ.ค. ยังมีฝนตกต่อเนื่อง ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ลงไป โดยเฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากนั้น 4-6 ธ.ค. จะได้รับอิทธิพลจากภาวะน้ำทะเลหนุนสูง


นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์น้ำ โดยระบุว่า ในระยะนี้ความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงแผ่มาทางประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกที่พัดเข้ามาปกคลุมภาคใต้ของประเทศไทย ทำให้ช่วงวันที่ 2-4 ธันวาคม 2567 จะมีปริมาณฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้ ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ลงไป โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะยังคงมีฝนตก จากนั้นในช่วงวันที่ 4-6 ธันวาคม พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะได้รับอิทธิพลจากระดับน้ำทะเลหนุนสูง ส่งผลต่อการระบายน้ำออกสู่ทะเล

ปัจจุบันมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 7 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สตูล พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส โดยแม่น้ำหลายสายล้นตลิ่ง ได้แก่ แม่น้ำปัตตานี แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำโก-ลก และคลองอู่ตะเภา


จากการคาดการณ์ฝนพบว่า มีบางพื้นที่จะมีฝนตกหนักเกินกว่า 200 มิลลิเมตร ใน 24 ชั่วโมง ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังดินโคลนถล่มเพิ่มขึ้น ได้แก่ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง และพัทลุง จึงได้ประกาศแจ้งเตือนเฝ้าระวังภัยแผ่นดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก จนถึงวันที่ 4 ธันวาคม

นอกจากนี้ ยังติดตามสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำบางลาง จ.ยะลา อย่างใกล้ชิด ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน ได้งดการระบายน้ำ เพื่อลดผลกระทบต่ออุทกภัย ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 919 ล้าน ลบ.ม. (63%) แต่จากการคาดการณ์ 7 วันข้างหน้า จะมีปริมาณน้ำไหลเข้ามาในเขื่อนบางลาง 500 ล้าน ลบ.ม. ส่งผลให้มีน้ำเพิ่มสูงขึ้นเกือบเต็มของความจุเก็บกัก ซึ่งจะส่งผลต่อความมั่นคงและความปลอดภัยของเขื่อน จึงจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำในอัตราการระบายน้ำไม่เกิน 16 ล้าน ลบ.ม./วัน หรือ 185 ลบ.ม./วินาที เพื่อควบคุมปริมาณน้ำที่สถานี X40A ที่กำลังลดลง ไม่ให้เกินระดับสูงสุดเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ที่อัตรา 1,517 ลบ.ม./วินาที หรือ +18.97 ม.รทก. โดยให้คำนึงถึงฝนที่ตกลงมาด้านท้ายเขื่อนด้วย ทั้งนี้ จะนำผลการคาดการณ์ดังกล่าวเสนอต่อคณะกรรมการลุ่มน้ำต่อไป

คณะอนุกรรมการอำนวยการด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ จะติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ เพื่อเสนอแนะและให้ความเห็นต่อคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เพื่อให้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบระบบการป้องกัน การแจ้งเตือนภัย และการเผชิญเหตุ เพื่อรองรับสถานการณ์ ซึ่งจะเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากอุทกภัยที่เกิดขึ้น.-512-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]