จ่อหมายจับ “บังหนี” หนึ่งในทีมสังหาร “เสี่ยสุชาติ”

กระบี่ 16 พ.ค. – ตำรวจเตรียมขอออกหมายจับ “บังหนี” หนึ่งในทีมฆาตกรรมอำพราง “เสี่ยสุชาติ” เจ้าของร้านอาหารและฟิชชิ่งใน อ.ทับ จ.กระบี่ และเร่งล่า 2 พี่น้องผู้ต้องหาคนสำคัญ ขณะที่ผู้ต้องหาที่เข้ามอบตัวไปก่อนหน้านี้ ยอมรับร่วมพาผู้ตายไปในสวนปาล์ม ดูการเผารถเก๋งผู้ตายด้วย


คดีสังหารโหดนายสุชาติ ขาวล้วนอายุ 54 ปี เจ้าของร้านอาหารและฟิชชิ่ง ใน อ.ทับ จ.กระบี่ พนักงานสอบสวน สภ.ลำทับ สภ.อ่าวนาง และ สภ.กระบี่ เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเตรียมออกหมายจับผู้ต้องหาเกี่ยวกับคดีอีก 1 คน คือ นายบังหนี (ไม่ทราบสกุล) หลังเมื่อ 14 พฤษภาคม นายสุวิทย์ หรือบังเลาะ เริงสมุทร อายุ 26 ปี 1 ใน 3 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับได้เข้ามอบตัว

สอบสวนนายสุวิทย์ ให้การว่า ร่วมกับนายสุริยา หรือ บังฟิต เริงสมุทร นายสุรชัย เริงสมุทร หรือ กิบหลี พี่ชาย และนายบังหนี พาตัวนายสุชาติ นั่งรถกระบะอีซูซุเปิดแคปสีขาว ทะเบียน บพ 8680 กระบี่ ของบังฟิต ไปที่สวนยางใกล้จุดฝังศพในพื้นที่ ม.1 บ้านหนอง ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ เมื่อ 6 โมงเย็น โดยบังฟิตเป็นคนขับ ตนนั่งข้างผู้ตายนั่งอยู่เบาะหลัง มีนายกิบหลีและนายบังหนีนั่งขนาบข้าง เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ นายกิบหลีและนายบังหนี ให้นายสุชาติ ผู้ตาย ลงจากรถไปนั่งที่จุดเกิดเหตุจากนั้นบังฟิตได้ใช้ปืนจ่อยิงนายสุชาติ 3 นัด จนเสียชีวิต ก่อนช่วยกันนำศพไปฝัง โดยขณะที่ผู้ตายถูกยิง ตนอยู่ข้างรถกระบะอีกฝั่ง ไม่เห็นเหตุกาณ์ เมื่อกลับมาที่บ้านบังฟิตนำรถเก๋งผู้ตายไปเผาโดยจ้างรถแบ็กโฮที่กำลังปรับพื้นที่สวนยางใกล้ๆ จุดเกิดเหตุทำการขุดเปิดปากหลุมใช้รถแบ็กโอดันรถเก่งผู้ตายลงไปในหลุม แล้วจุดไฟเผาก่อนฝังกลบ โดยเอาทางปาล์มปิดทับด้านบน ส่วนสาเหตุที่ต้องร่วมก่อเหตุ เพราะบังฟิตชวนไปและกลัวบังฟิตจนไม่กล้าปฏิเสธ หลังทราบว่าถูกออกหมายจึงมามอบตัว และเจ้าหน้าที่นำชี้จุดเกิดเหตุเมื่อวานนี้ (15 พ.ค.)


ขณะที่การติดตามตัวนายสุริยา หรือ “บังฟิต” และนายสุรชัย หรือ “บังกิบหลี” เริงสมุทร พี่ชาย ที่ยังหลบหนี มีกำลังกองปราบ พร้อมชุดสืบฯ ภาค 8, สืบฯ ภูธรกระบี่, ตำรวจ สภ.อ่าวนาง และหน่วยปฏิบัติการพิเศษเกือบ 100 นาย พร้อมอาวุธครบมือ ปฏิบัติการปิดล้อมเขาลูกไฟ พื้นที่รอยต่อหมู่ 4 และ หมู่ 1 ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ หลังพบเบาะแสว่านายสุริยา หรือ “บังฟิต” และนายสุรชัย หรือ “บังกิบหลี” เริงสมุทร พี่ชาย หนีไปอยู่ในถ้ำบนเขา เจ้าหน้าที่แบ่งกำลังเป็น 3 ชุด เข้าปิดล้อมเพื่อหาเส้นทางขึ้นเนินเขา หลังมีพยานบอกว่าจุดดังกล่าวเป็นถ้ำขนาดใหญ่ และมีคนขี่มอเตอร์ไซค์นำสิ่งของขึ้นไปบนเขาในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ต้องสวมเสื้อเกราะเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากทราบว่าผู้ต้องหามีปืน และก่อนถึงภูเขาพบบ้านหลังหนึ่งปลูกในสวนยาง จึงตรวจค้นแต่ไม่มีคนอยู่ จากนั้นได้กระจายกำลังปิดล้อมภูเขา ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง แต่ไม่พบตัว

ญาติ “เสี่ยสุชาติ” ยังไม่เผาศพ รอผลนิติวิทยาศาสตร์
ฝั่งนายสุชาติ ผู้ตาย ที่บริเวณร้านอาหารขาวล้วนโภชนา ม.5 ต.ลำทับ อ.ลำทับ ญาตินายสุชาติ ผู้ตายได้ จัดเตรียมสถานที่ตั้งศพบำเพ็ญกุศล หลังนำศพกลับจากสถาบันนิติเวช รพ.สุราษฎร์ธานี และจะตั้งบำเพ็ญกุศล ตั้งแต่วันที่ 16-17 พ.ค. ส่วนพิธีฌาปนกิจยังไม่กำหนด โดยญาติระบุว่ายังไม่มีการเผาเพราะจะต้องรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์ก่อน

มีรายงานว่า ผลชันสูตรศพนายสุชาติอย่างไม่เป็นทางการ มีรอยกระสุน ทั้งหมด 3 รู แต่ไม่พบหัวกระสุนในตัว ซึ่งก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบปลอกกระสุน 2 ปลอกเท่านั้น จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ อีกครั้งพบปลอกระสุนขนาด 9 มม.เพิ่มอีก 1 ปลอก อยู่ใต้ดินในจุดเกิดเหตุ คาดว่ากระสุนทั้ง 3 นัด ยิงทะลุร่างผู้ตาย


ด้าน พ.ต.อ.พิษณุ อัชนะพรกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ เชื่อว่าผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้มีมากกว่า 5 คน มีการวางแผนมาอย่างดี ซึ่งก่อนหน้านี้ศาลออกหมายจับแล้ว 3 คน คือ นายสุริยา หรือบังฟิต เริงสมุทร อายุ 32 ปี (หลบหนี) นายสุรชัย เริงสมุทร อายุ 38 ปี พี่ชาย (หลบหนี) และนายสุวิทย์ เริงสมุทร (มอบตัว) เมื่อที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างการติดตามตัวผู้ต้องหาบังฟิต และนายกิบหลี คาดว่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้

สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นจากลูกสาวของนายสุชาติ ขาวล้วน อายุ 54 ปี ร้องเรียนว่าพ่อหายตัวไป พร้อมรถเก๋งโตโยต้า โคโรนา สีขาว ทะเบียน กน 6552 กระบี่ ขณะไปติดตามทวงหนี้กลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 3 คน จำนวนเงิน 300,000 บาท จึงมีการสืบสวนสอบสวน ต่อมาพบรถเก๋งคันดังกล่าวถูกเผาฝังดินในสวนปาล์ม บ้านหนองแบก หมู่ 1 ต.หนองทะเล ห่างไปราว 700 เมตร พบศพนายสุชาติ ถูกราดด้วยน้ำกรด ฝังในหลุมลึก 1 เมตร ในสภาพศพถูกยิงที่ศีรษะและราวนมซ้ายรวม 2 นัด จากนั้นตำรวจจึงขอศาลอนุมัติหมายจับ 3 ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นเครือญาติกัน ประกอบด้วยนายสุริยา เริงสมุทร หรือ “บังฟิต”, นายสุรชัย เริงสมุทร หรือ “บังกิบหลี” และนายสุวิทย์ เริงสมุทร ก่อนที่นายสุวิทย์จะชิงเข้ามอบตัวเมื่อคืนวันที่ 14 พฤษภาคม พร้อมให้การว่า “บังฟิต” เป็นคนจ่อยิงนายสุชาติ ส่วนตนเองช่วยนำศพไปฝัง . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

ศาลให้ประกัน “เอกราช ช่างเหลา” คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย ฐานยักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น กว่า 1,200 ล้านบาท ก่อนได้รับการประกันตัวเพื่อสู้คดีต่อในชั้นศาลอุทธรณ์

สอบปากคำแล้ว 117 ปาก เร่งสางคดีตึก สตง.ถล่ม

รองผบช.น. เผย สอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง คดีอาคาร สตง.ถล่มแล้ว 117 ปาก ยังรอสอบบริษัทควบคุมงาน-ออกแบบก่อสร้าง พร้อมนัดสอบ ‘ปฏิวัติ’ CEO กิจการร่วมค้า PKW 21 เม.ย. เร่งรวบรวมหลักฐานเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง

ผบ.ตร.สั่งดำเนินคดีทุกข้อหาชายซิ่งเก๋งชนกระบะ ระบุน่ารังเกียจ-ไร้วุฒิภาวะ

ผบ.ตร.จวกพฤติกรรมชายซิ่ง BMW ชนกระบะ “น่ารังเกียจ-ไร้วุฒิภาวะ” สั่งดำเนินคดีทุกข้อหา แม้เป็นลูกหลานนักการเมืองดังไม่มีละเว้น

ค้านนำเข้าเนื้อวัวสหรัฐ

“สมาคมโคเนื้อ” นำมวลชนคัดค้าน “วัวอเมริกา”

สมาคมโคเนื้อแห่งประเทศไทย นำเกษตรกรผู้เลี้ยงโคจาก 60 กลุ่มทั่วประเทศ กว่า 100 คน ชุมนุมหน้ากระทรวงเกษตรฯ​ เพื่อยื่นหนังสือถึง​นายกฯ และ​รัฐมนตรี​ 3 กระทรวง​ คัดค้านนโยบายการเปิดนำเข้าเนื้อโคและเครื่องในโคจากสหรัฐ​ หวั่นราคาตกต่ำซ้ำรอย​และ​กระทบ​สุขภาพประชาชน