ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สกลนคร 10 มี.ค. – สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน


จากกรณีนายวิเชียร หนุ่มสกลนคร วัย 32 ปี เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ตกจากกระบะ แล้วถูกรถยนต์อีก 2 คัน ที่ขับตามหลังชนจนเสียชีวิตคาที่ บริเวณบ้านนาบัว-เจริญศิลป์ ต.ธาตุ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร เมื่อช่วงค่ำวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยมีบาดแผลแค่ที่คิ้วและหน้าแข้ง หลังเกิดเหตุ นายสมศักดิ์ อายุ 56 ปี นายพรชนก อายุ 41 ปี และนายพีรพัฒน์ อายุ 30 ปี ได้เข้ามอบตัว และถูกดำเนินคดีข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงความตาย

แต่ปรากฏว่าสุดท้ายเรื่องนี้กลับตาลปัตร กลายเป็นเหตุฆาตกรรมอำพราง จัดฉากฆ่า เมื่อนายสกล อายุ 38 ปี นำหนังสือมอบอำนาจจากมารดาผู้ตาย ไปขอยื่นรับเงินประกัน พ.ร.บ.ประกันภัยรถยนต์ จากบริษัทประกันรถเอกชนหลายแห่ง และบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พบพิรุธหลายอย่าง ทั้งผลชันสูตรศพ ใบมรณะบัตร ซึ่งไม่สอดคล้องกันกับความเป็นจริง เพราะปกติศพที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ต้องมีรอยถลอกหรือรอยชน แต่ผลชันสูตรกลับมีเพียงบาดแผลสองแห่งเท่านั้น ที่สำคัญ คือมีการทำประกันภัยรถทั้ง 3 คัน รวมทั้งหมดถึง 28 กรมธรรม์ เป็นเงินสูงถึง 14 ล้านบาท โดยรถของนายวิเชียร ผู้ตายคันเดียว ทำพ.ร.บ.กรมธรรม์ประกันภัยภาคบังคับ มากถึง 12 กรมธรรม์ รถของคู่กรณี 2 คัน มีกรมธรรม์คันละ 5 กรมธรรม์ รวมเป็น 22 กรมธรรม์ ยังไม่รวมที่ทำ พ.ร.บ.รถยนต์ภาคสมัครใจ เพิ่มเติมอีก 6 กรมธรรม์ บริษัทประกันภัยที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จึงรวมตัวไปร้องตำรวจภูธรสกลนคร เพราะเชื่อว่านายวิเชียร น่าจะถูกฆาตกรรมแล้วจัดฉากว่าเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต เพื่อหวังเงินประกัน โดยคาดว่ามีกลุ่มคนไม่ต่ำกว่า 5 คน ร่วมในขบวนการ


ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนขอศาลจังหวัดสว่างแดนดิน ออกหมายจับผู้ต้องหาเบื้องต้น 4 คน คือ 1.นายสมศักดิ์ อายุ 56 ปี 2. นายพรชนก อายุ 41 ปี 3. นายพีรพัฒน์ อายุ 30 ปี และ 4.นายสกล อายุ 38 ปี ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนโดยสามารถติดตามจับกุมตัวมาได้ก่อน 3 คน ส่วน 1 คน คือนายพรชนก ถูกจับกุมได้ได้เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา และคาดว่าจะมีออกหมายจับเพิ่มเติมอีก ซึ่งมีตำรวจร่วมอยู่ในขบวนการครั้งนี้ด้วย จากการสอบสวนผู้ต้องหา 3 คน ที่จับได้ในลอตแรก มีนายพีรพัฒน์คนเดียวที่ให้การรับสารภาพ ว่าก่อเหตุจริง มีการวางแผนทำร้ายร่างกายตรงจุดเกิดเหตุ แล้วทำทีให้รถยนต์มาชน เพื่อตบตาอำพรางว่าเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ ส่วนอีก 2 คนยังให้การปฏิเสธ

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจจึงควบคุมตัวนายพีรพัฒน์ออกจากห้องขัง สภ.วานรนิวาส เพื่อไปชี้จุดเกิดเหตุประกอบสำนวนคดี ระหว่างเดินไปขึ้นรถ นายพีรพัฒน์ยอมรับว่าเป็นคนทำจริง มีการวางแผนมาล่วงหน้าหนึ่งเดือนก่อนเกิดเหตุ แต่เมื่อถามถึงผู้บงการ กลับปิดปากเงียบ โดยจุดแรก อยู่ลานโล่งริมถนน ที่นัดรวมตัวก่อนก่อเหตุ จากนั้นนายสมศักดิ์และนายพรชนก ขับรถกระบะไปพร้อมกับนายวิเชียร ส่วนนายพีรพัฒน์

ตามมาหลังจากนั้นอีก 10 นาที เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ บริเวณบ้านนาบัว-เจริญศิลป์ ห่างจากจุดรวมพลประมาณ 500 เมตร เห็นนายวิเชียรนอนคว่ำหน้าอยู่กลางถนน ไม่รู้ว่ามีชีวิตหรือไม่ จึงหลับตากลั้นใจขับรถผ่านร่างนายวิเชียร แต่ไม่รู้ว่าขับรถเหยียบโดนหรือไม่ ซึ่งรถกระบะที่ใช้ก่อเหตุทั้ง 3 คันถูกอายัดไว้เป็นของกลาง อยู่ที่ สภ.วานรนิวาสแล้ว ประกอบด้วยกระบะ อีซูซุ สี่ประตู สีขาว ทะเบียนสกลนคร กันชนหน้าด้านซ้ายมีร่องรอยการถูกชนกระบะ อีซูซุ แคปสีขาว ด้านหน้าไม่มีกันชน ยางรั่ว และกระบะ อีซูซุ สีขาว ทะเบียนกาฬสินธุ์


และเมื่อเวลา 15.00 น. ที่ผ่านมา ตำรวจนำตัวนายสกล นายพีรพัฒน และนายสมศักดิ์ ที่ถูกจับได้ลอตแรก ไปขออำนาจศาลฝากขังเรือนจำสว่างแดนดินก่อนครบกำหนดควบคุม 48 ชั่วโมง ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งทั้ง 3 คนไม่ตอบคำถามสื่อแต่อย่างใด หลังจากนั้น ตร.กองกำกับการสืบสวน.ภ.จว.สกลนครได้ควบคุมตัว นายพรชนก ผู้ต้องหาที่ถูกจับได้คนสุดท้าย ขณะหลบหนีไปกบดาลใน อ.สว่างแดนดิน มาส่งที่ สภ.วานรนิวาส ซึ่งก็ไม่ยอมตอบคำถามใดๆ กับสื่อมวลชน แต่ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีนำตัวคุมขังรอการสอบสวน

ทั้งนี้เรื่องราวดังกล่าวการให้การของนายพีรพัฒน์ ได้ให้การเป็นประโยชน์ คาดว่าจะมีคนมีสีเกี่ยวข้องในเรื่อง จนเป็นเรื่องราวของเหตุการณ์ฆาตกรรมอำพรางดังกล่าว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจขอรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่นหนาและเพื่อประโยชน์ต่อรูปคดีจึงเปิดเผยเชิงลึกไม่ได้ในขณะนี้

สำหรับนายสกล หนึ่งในผู้ต้องหา เคยเป็นอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน และเคยมาให้คำแนะนำเรื่องเกี่ยวกับ พ.ร.บ. ประกันภัยรถยนต์กับครอบครัว เมื่อครั้งที่บิดาของผู้ตายเคยเกิดอุบัติเหตุจนนอนติดเตียง จึงทำให้มีความสนิทสนมกับคนในครอบครัวของนายวิเชียรถึงขั้นเล่าความเป็นไปของคนในครอบครัว ซึ่งพี่สาวผู้ตายเคยมาบ่นให้นายสกลฟังว่า อยากให้เอาน้องชายไปสั่งสอน เพราะทนพฤติกรรมที่ชอบทำร้ายพ่อแม่เป็นประจำไม่ไหว ซึ่งอาจเป็นช่องทางให้นายสกลที่มีความรู้ในเรื่องนี้วางแผนก่อเหตุ โดยร่วมมือกับผู้ต้องหาในขบวนการ ซึ่งล้วนเป็นญาติพี่น้องกับผู้ตายก่อเหตุ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]

“มาริษ” จ่อบินเจนีวา แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี

สวีเดน 24 ส.ค.-“มาริษ” เตรียมบินเจนีวาต่อ แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี-องค์การสิทธิมนุษยชน-กาชาด ย้ำไทยรักสันติ ทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ ฟ้องเขมรใช้ทุ่นระเบิด-โจมตีพลเรือนไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าหลังการเยือนสวีเดนอย่างเป็นทางการแล้วจะเดินทางไปเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการคือ ไปชี้แจงให้กับประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคีให้เข้าใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งกัมพูชาใช้ยุทธศาสตรฺของการใช้ วัตถุระเบิดสังหารบุคคน ที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และอนุสัญญาออตตาวาและในโอกาสนี้จะพบกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่สืทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหาร การละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ของกัมพูชา รวมทั้งการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (icrc )ก็ได้ออกมาพูดชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยอย่างมาก และไม่สนับสนุนให้มีการใช้สงครามข่าวสารในการต่อสู้ โดยใช้พลเรือนเป็นตัวกระทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน ซึ่งในโอกาสนี้ตนจะได้พบปะกับประธาน crc พอดี ซึ่งเคยพบกันที่กรุงเทพมหานครแล้ว และทางประธานทราบว่าตนจะมาเจนีวาก็สามารถมาพูดคุยกันต่อได้ ซึ่งจะได้อธิบายทั้ง 2 ประการเหล่านี้เพราะ icrc เป็นองค์กรหลักที่ดูกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งสามองค์กรที่เราวางกลยุทธ์ จะเข้ามาพูดคุย ชี้แจงก็เพื่อยืนยัน ใน ท่าทีบทบาท ของประเทศไทยที่ชัดเจนว่าเราเป็นประเทศ ที่รักสันติ เราต้องการ แก้ไขปัญหาระหว่างกันอย่างสันติวิธี แต่ต้องมีความจริงใจ […]