อุตรดิตถ์ 1 มี.ค.- กินหนูไหมคะ หนูมันนะคะ จากหนุ่มที่เคยคิดฆ่าตัวตาย ฮึดสู้อีกครั้งจับหนูนาเลี้ยงในโอ่งมังกร ขยายพันธุ์ขาย สู่เมนูเด็ดหนูหนังกรอบหมักน้ำปลาอบโอ่งสมุนไพรขายดี มีเงินเลี้ยงครอบครัว
นายเอกชัย คุมทัศ อายุ 43 ปี เล่าว่าเดิมทำงานกรุงเทพฯ มีเงินเดือนประจำ ต้องออกจากงานเมื่อพบว่าเส้นเลือดแดงตีบเลี้ยงตาดำไม่ทัน ระยะแรกคือทุกอย่างมืดมองไม่เห็น รักษาจนเริ่มมองเห็นแต่ก็ไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ คิดท้อจะฆ่าตัวตาย 2 ครั้ง ด้วยกำลังใจจากครอบครัว จึงตั้งสติและหาอะไรทำ จึงกลับมารื้อเล้าไก่บริเวณหลังบ้านที่หมู่ 3 ตำบลบ้านหม้อ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ จับหนูนามาเริ่มเพาะในโอ่งมังกรเก่าไม่ได้ใช้งาน 7 ใบ เลี้ยงแบบอินทรีย์คือให้อาหารเน้นผัก ผลไม้ ข้าวเปลือกใช้น้ำหมักชีวภาพผสมน้ำให้หนูกิน อาบ และล้างฟาร์มหนู เพื่อดับกลิ่น จนปัจจุบันขยายพันธุ์ปรับเลี้ยงในวงท่อซีเมนต์ ขนาด 40 เซนติเมตร 2 ท่อเทินกัน ปิดผ้าโดยมีช่องระบายอากาศด้านบนจำนวน 160 บ่อ เน้นเลี้ยงหนูขุน เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์สมบูรณ์ส่งขายคู่ละ 800 บาท
นอกจากนี้หนูขุนที่ตกเกรด จะปรับเป็นหนูเนื้อ ขายตัวเป็นๆ กิโลกรัมละ 200 บาท หรือชำแหละขายสดกิโลกรัมละ 300 บาท และที่นิยมกลายเป็นเมนูเด็ด ยอดสั่งซื้อทุกวันคือ “หนูหนังกรอบหมักน้ำปลาอบโอ่งด้วยสมุนไพร” ที่อบในโอ่งมังกรที่มีทั้งใบเตย ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดสดๆ กิโลกรัมละ 400 บาท ด้วยความหอมของสมุนไพรและหนูที่เลี้ยงแบบอินทรีย์ไม่มีกลิ่น ยิ่งกินยิ่งอร่อย หยุดไม่ได้กินกับข้าวเหนียวร้อนๆ ลงตัวที่สุด ทั้งนี้การเลี้ยงหนูขุน ต้นทุนต่ำ อาหารมีในท้องถิ่น เลี้ยง 2 เดือน ก็จับขายได้ เน้นความสะอาด ซึ่งฟาร์มของตัวเองท้าให้พิสูจน์คือ ไม่มีกลิ่นแน่นอน ทุกวันจากการขายหนูขุนไม่ต่ำกว่าวันละ 1,000 บาท มีรายได้รักษาดวงตาและเลี้ยงครอบครัว และพร้อมให้คำแนะนำโดยเฉพาะผู้พิการที่พอจะช่วยเหลือตัวเองได้.-สำนักข่าวไทย