เลย 3 ส.ค. – ปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่ป่าบนภูเขาสูงถูกบุกรุกแผ้วถางทำไร่ในพื้นที่อำเภอเมืองเลย เป็นปัจจัยเร่งให้เกิดอุทกภัยรุนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่ารัฐบาลมีนโยบายทวงคืนผืนป่าดูแลอยู่แล้ว แต่มีข้อจำกัด เพราะชาวบ้านจะได้รับผลกระทบด้วย
คลิปไลฟ์เมื่อเช้าวานนี้แสดงให้เห็นถึงกระแสน้ำไหลเชี่ยวทะลักเข้าท่วมบ้านสูบ หมู่ 1 และบ้านนาสำราญ หมู่ 9 ตำบลน้ำสวย อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย เกือบ 400 หลังคาเรือน หลังฝนตกหนักข้ามวันข้ามคืน จากอิทธิพลพายุดีเปรสชันซินลากู ปริมาณฝนสะสม 12 ชั่วโมง 97 มิลลิเมตร ซัดฝายดินกั้นน้ำจนขาดกว่า 30 เมตร เป็นสาเหตุให้มวลน้ำไหลบ่าอย่างแรงและเพิ่มระดับอย่างรวดเร็ว
แม้ฝนจะตกหนัก แต่ยังน้อยกว่าปี 54 ซึ่งครั้งนั้นชาวบ้านได้รับผลกระทบน้อย คนในพื้นที่จึงตั้งข้อสังเกตว่า 2-3 ปีมานี้ มีการบุกรุกแผ้วถางป่าเพื่อทำการเกษตรบนพื้นที่สูงจำนวนมาก จนกลายสภาพเป็นภูเขาหัวโล้น ภูเขาต้นน้ำลำห้วยซำไฮถูกบุกรุกแผ้วถางป่าทำไร่ข้าวโพด เมื่อฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลากลงมาอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ซัดฝายดินกั้นอ่างเก็บน้ำวังปลาจนขาด เช่นเดียวกับเขาหัวโล้นภูเผ่า ต้นลำน้ำลาย ทำให้มวลน้ำเชี่ยว 2 สาย มารวมกัน สร้างความเสียหายให้ชาวตำบลน้ำสวย 12 หมู่บ้าน แต่หนักสุด 2 หมู่บ้าน ที่ตั้งอยู่ติดลำน้ำลาย
ผู้ใหญ่บ้านบ้านสูบ หมู่ 1 เป็นหนึ่งในผู้ที่ประสบภัยอย่างหนัก กำแพงบ้านพังถล่ม ห้องน้ำพัง บานประตูเปื่อยยุ่ย เงินประปาหมู่บ้านกว่า 100,000 บาท ที่เก็บไว้ในตู้เหล็กเก็บเอกสาร ถูกกระแสน้ำพัดลอยสูญหาย ยอมรับว่าการทำไร่เลื่อนลอยของชาวบ้านมีส่วนทำให้เกิดอุทกภัยรุนแรงขึ้น แต่เป็นวิถีชาวบ้านที่ภาครัฐต้องเข้ามาจัดสมดุล
ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเดินทางมาเยี่ยมกำลังพลที่ตั้งครัวพระราชทาน และให้กำลังใจผู้ประสบภัย ระบุว่ามีนโยบายทวงคืนผืนป่าเป็นเครื่องมือจัดการอยู่แล้ว แต่ไม่สามารถดำเนินการได้เต็มที่ เกรงชาวบ้านจะได้รับผลกระทบ เพราะผู้บุกรุกไม่ได้มีแค่นายทุน
2 หมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก บ้านเรือนเสียหายรวมกว่า 100 หลังคาเรือน ตลอดทั้งวัน มีหน่วยงานราชการ และจิตอาสา เข้ามาแจกจ่ายสิ่งของ ช่วยล้างบ้านทำความสะอาด เพื่อให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด.-สำนักข่าวไทย