ทำเนียบรัฐบาล 26 ธ.ค.-“อนุทิน” ชี้ ส.ส.พปชร.จัดงานเลี้ยง ถ้าเป็นคนรู้จัก ยึดมาตรการสธ. ฉีดวัคซีน ตรวจ ATK ได้ เป็นเรื่องส่วนตัว ต้องรับผิดชอบตัวเอง ขออย่าจับผิดเรื่องเล็กน้อย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีนางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.เขตวัฒนา คลองเตย พรรคพลังประชารัฐจัดงานเลี้ยงวันเกิด โดยที่ผู้ร่วมงานไม่สวมหน้ากากอนามัย จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ ว่า เรื่องนี้ต้องดูรายละเอียดก่อนว่าก่อนเข้าร่วมงานได้ตรวจ ATK และ ทุกคนฉีดวัคซีนครบแล้วหรือไม่ ซึ่งถ้าเป็นการปฎิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข และเป็นบุคคลใกล้ชิด การมารวมกลุ่มกันไม่น่าจะมีปัญหา แต่หากมีผู้ ไม่ฉีดวัคซีนหรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก้วเดียวกัน ถือว่าไม่ถูกต้องและทำไม่ได้ ขณะนี้กำลังค่อย ๆ ผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ เพราะสถานการร์ค่อย ๆ ดีขึ้น ประชาชนฉีดวัคซีนมากขึ้น
“ถ้าอยู่ในพื้นที่ปิด ถ้าไม่ได้เป็นการขายบัตรขายตั๋วหรือสาธารณะ ต้องถือเป็นเรื่องส่วนตัว ต้องรับผิดชอบตัวเองกัน ต้องอยู่กันด้วยความเข้าใจด้วย แต่ถ้าคนไม่ฉีดวัคซีนเข้าไปและไปกินเหล้า เตกีล่า ตบใส่มือกัน บีบมะนาวใส่กัน ป้อนกัน ใช้แก้วเดียวกันอย่างนี้ทำไม่ได้ อย่างนี้ผิด” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว
ส่วนจะถือว่าเป็นการย่อหย่อนต่อมาตรการหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าหากด้วยข้อมูลเพียงเท่านี้ที่ออกมา ไม่ได้ถือเป็นการย่อหย่อน ขณะเดียวกันแต่ละคนจะต้องระมัดระวังตนเองและไม่รวมกลุ่มกัน หากไม่ใช่บุคคลใกล้ชิดหรือผู้ร่วมงานที่รู้จัก อย่างตน ถ้าไม่ใช่คนรู้จักกัน จะไม่ร่วมรับประทานอาหารด้วย ดังนั้น ขออย่าไปจับผิดเรื่องเล็ก ๆน้อย ๆ
เมื่อถามว่างานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลวันที่ 3 ธ.ค.จะถอดหน้ากากอนามัยได้หรือไม่ เพราะเป็นคนที่รู้จักกัน รัฐใมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ถอดได้ในขณะรับประทานอาหาร แต่ทุกคนต้องผ่านการตรวจ ATK ก่อน และผู้ที่ไปร่วมต้องแสดงผลการฉีดวัคซีนครบโดส ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่สามแล้ว ทั้งนี้ มองว่าเมื่อรับวัคซีนแล้ว ถ้าไม่เดินไปข้างหน้าจะเสียโอกาสต่าง ๆ
ส่วนข้อห่วงใยว่าจะเหมือนที่ยุโรปแม้ทุกคนจะฉีดวัคซีนแล้วก็ยังเกิดคลัสเตอร์ได้ นายอนุทิน กล่าวว่า ที่ยุโรปฉีดวัคซีนน้อยกว่าไทย และส่วนใหญ่ผู้ที่ติดเชื้อเป็นผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน
นายอนุทิน กล่าวถึงการผ่อนคลายเปิดผับบาร์และสถานบันเทิง ว่า เรื่องนี้ต้องหารือในที่ประชุมศบค. เพราะต้องฟังจากหลายฝ่าย ปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณาคือความเสี่ยงและการประเมินความปลอดภัย ต้องดูว่าโควิดติดจากตรงไหน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขไม่ได้มีปัญหา อยากให้ทุกอย่างผ่อนคลายมากที่สุด
“แต่ขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกับมาตรการที่สาธารณสุขกำหนด ซึ่งหากทุกฝ่ายปฎิบัติได้อย่างดี เชื่อว่าศบค.ไม่มีปัญหาที่จะอนุญาตให้เปิดได้ สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ให้เข้ามารับวัคซีนได้ทันที ยืนยันว่าวัคซีนไม่ได้ขาดแคลน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงส่าธารณสุข กล่าว.-สำนักข่าวไทย