นายกฯ ช่วยผู้ประสบภัยชัยภูมิ เร่งระบายน้ำ

ชัยภูมิ 29 ก.ย.-นายกฯ ตรวจเยี่ยมและมอบถุงยังชีพผู้ประสบอุทกภัยที่ชัยภูมิ มาด้วยความรัก ความห่วงใย หวังน้ำลดโดยเร็ว เร่งระบายน้ำออกจากเขตเมือง ยืนยันดูแลคนไทยทุกพื้นที่ เร่งสำรวจช่วยเหลือเยียวยา

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศษฐกิจและสังคม และนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์และตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนผู้ประสบอุทกภัย  ที่ตลาดคลองพุดชา  พร้อมรับฟังรายงานสรุปสถานการณ์อุทกภัย จากผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ


นายกรัฐมนตรี กล่าวกับประชาชนว่าวันนี้เดินทางมาด้วยความรักความห่วงใยและมาให้กำลังใจ  ซึ่งไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้   สิ่งสำคัญ คือ การดูแลประชาชนทุกคน  ซึ่งการเยียวยาจะให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดดูแลในเบื้องต้นก่อน จากนั้นรัฐบาลจะเร่งสำรวจความเสียหาย  และเร่งเยียวยาโดยเร็ว   ซึ่งคาดหวังว่าระดับน้ำจะลดลงโดยเร็วและต้องให้น้ำออกจากเขตเมืองให้ได้  จึงขอฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลและให้ทหารช่วยดูแลเรื่องการอพยพประชาชนที่เดือดร้อน   ซึ่งภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในไทย มีทั้งอุทกภัยและภัยแล้ง   แต่เมื่อเทียบกับในหลายประเทศเรายังเจอภัยพิบัติที่น้อยกว่า ดังนั้นจะต้องตั้งหลักให้ดีและรัฐบาลจะดูแลอย่างเต็มที่   ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นแล้ว ต้องสู้กับปัญหาไปพร้อมกัน

นายกรัฐมนตรี  กล่าวว่าทุกคนต้องรัก  ช่วยเหลือกันและมีความสามัคคี การจะเดินไปข้างหน้าได้ต้องมีความรักระหว่างกัน  จะอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งไม่ได้ ดังนั้นขอให้มีความเชื่อมั่น  ซึ่งคนไทยไม่ทิ้งกัน  ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม และขออย่าสร้างความขัดแย้งซึ่งกันและกัน  การจะรักใครชอบใครนั้นตนไม่ว่า แต่อยากให้รักประเทศรักผืนดินของท่าน  เพราะถ้าไม่รักตรงนี้จะเหลือความรักให้ใครได้  จังหวัดชัยภูมินั้นตนทิ้งไม่ได้  เพราะเป็นบ้านเกิดของแม่ตนเอง  ซึ่งตนไปเกิดที่โคราช  แต่ทั้งนี้ก็ต้องรักทุกจังหวัดทั่วประเทศ  เพราะเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและเป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องช่วยกันฟันฝ่าไปให้ได้


นายกรัฐมนตรี  กล่าวว่าต้องดูเรื่องของระดับน้ำในบางพื้นที่ที่ยังท่วมขัง ขณะที่บางพื้นที่ยังสามารถระบายได้  ดังนั้นต้องดูว่าจะจูงน้ำออกไปได้อย่างไร  โดยเฉพาะในเขตเมืองและเขตโรงพยาบาล  และต้องดูพื้นที่รับน้ำที่สามารถกักเก็บน้ำได้และต้องเยียวยาให้กับชาวบ้านในพื้นที่รับน้ำด้วย  ทั้งนี้ขอให้ระลึกเสมอว่า  ไม่ว่าจะน้ำมากหรือน้ำน้อยจนเกินไปก็เป็นทุกข์   ยืนยันรัฐบาลมีความเป็นห่วง และเป็นทุกข์ ไม่ได้อยู่สบาย แม้ไม่ได้ลงพื้นที่ก็มีงานทำทุกวัน  และเมื่อว่างก็จะแบ่งเวลาลงพื้นที่ด้วย  และหากประชาชนต้องการความช่วยเหลือขอให้ติดต่อกับส่วนราชการในพื้นที่  ข้าราชการทุกคนพร้อมให้ความช่วยเหลือ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ทุกคน  ดูแลระมัดระวังเรื่องของโควิด-19 และโรคน้ำกัดเท้า  ขณะนี้โลกกำลังเตือนให้รู้ว่าจะต้องดูแลโลกใบนี้ให้มากขึ้น  ซึ่งรัฐบาลพยายามทำเต็มที่  ขอให้ผู้ว่าราชการทุกจังหวัดนำแผนที่น้ำ ไปสร้างความเข้าใจและการเรียนรู้  ให้ทุกคนได้ทราบว่าแต่ละพื้นที่รับน้ำมาจากไหน   ส่วนเรื่องอื่นรัฐบาลจะดำเนินการเอง  ทั้งนี้ขอให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว  ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทำหน้าที่อย่างเต็มที่

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้มอบถุงยังชีพให้กับประชาชน  ขณะที่ประชาชนที่มาต้อนรับได้ตะโกนให้กำลังใจ   ว่านายกฯ สู้ๆ  และขอถ่ายรูปกับนายกรัฐมนตรีด้วย


หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากตลาดคลองพุดซา ไปยังโรงพยาบาลชัยภูมิ เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรโรงพยาบาลชัยภูมิ  พร้อมมอบสิ่งของจำเป็นแก่โรงพยาบาลชัยภูมิ โดยระหว่างการเดินทางโดยรถมายังโรงพยาบาล ซึ่งเป็นบริเวณน้ำท่วมสูงไม่สามารถเดินทางสัญจรไปมาได้ ต้องใช้รถบรรทุกแบบยกสูงของทหาร และรถ ปภ.จังหวัด

นายกรัฐมนตรี  ได้กล่าวทักทายให้กำลังใจประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมตลอดเส้นทาง  โดยได้ทักทายเป็นภาษาอีสานกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม   นายกรัฐมนตรี ย้ำให้ดูแลสุขภาพตนเอง  ระวังโรคและสัตว์มีพิษที่มากับน้ำ พร้อมฝากให้ประชาชนศึกษาเรียนรู้จากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในการที่ปรับตัวอยู่ร่วมกับธรรมชาติที่มีความเปลี่ยนแปลง  โดยในส่วนของรัฐบาล จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในการดูแลประชาชนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน และขอให้ทุกคนร่วมมือกัน  ทุกอย่างก็จะสำเร็จ  พร้อมย้ำรัฐบาลจำเป็นต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้อง โปร่งใสและเป็นธรรม  สิ่งไหนไม่ควรก็อย่าทำ นายกรัฐมนตรีไม่สามารถทำให้ทุกคนรัก  ได้แต่ขอให้รักประเทศตัวเอง  อย่างสร้างความเดือดร้อน

นายกรัฐมนตรี  ยังได้สั่งการให้กำลังพลของทหารเข้ามาช่วยเหลือดูแลประชาชนร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง  รวมทั้งได้สั่งการเบี่ยงน้ำให้ได้  และให้ทำต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าสถานการณ์โดยรวมน่าจะดีขึ้นโดยลำดับ  และจะพยายามดำเนินการให้โรงพยาบาลกลับมาสู่สภาพปกติ  รองรับการดูแลรักษาประชาชนโดยเร็ว  พร้อมกับให้กำลังใจบุคลากรโรงพยาบาลชัยภูมิ  ให้ทำงานให้สำเร็จ  ขณะที่ประชาชนที่อยู่ในบริเวณโรงพยาบาล ก็ได้ให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีในการบริหารประเทศและดูแลประชาชนเช่นกัน โดยบอกให้นายกฯ สู้ๆ  และขอให้รัฐบาลยังคงดำเนินโครงการคนละครึ่งต่อไปด้วย.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน […]

“ลุงพล” นอนคุกยาว ศาลไม่ให้ประกันตัว เกรงหลบหนี

14 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว “ลุงพล” คดีน้องชมพู่ ชี้เป็นคดีร้ายแรง เกรงจะหลบหนี ส่งผลให้ลุงพลต้องนอนคุกระหว่างฎีกา นายประยุทธ เพชรคุณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงภาค 4 กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ “ลุงพล” ในคดีฆ่าเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ปี รวมเป็น 26 ปี เมื่อวานนี้ ลุงพลยื่นประกันตัวและศาลจังหวัดมุกดาหารส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา เรื่องการปล่อยชั่วคราว โดยวันนี้ศาลฎีกา ได้มีคำสั่งออกมาว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อสังคมเป็นการลงโทษสถานหนัก ทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้จำเลยต้องคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างฎีกา ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) เจ้าหน้าที่จะนำตัวลุงพลไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม เนื่องจากโทษจำคุกสูง.-สำนักข่าวไทย

บุกชิงทอง

ควงปืนชิงทองกลางห้างดังย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท ขี่ จยย.หนี

สมุทรปราการ 14 ส.ค. – คนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนจี้ชิงทอง ร้านทองกลางห้าง ย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนี ตำรวจเร่งล่าตัว เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ เกิดเหตุอุกอาจภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ คนร้ายรูปร่างสูงใหญ่ สวมชุดไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทองพร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวมราว 163 บาท หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เอ็นแม็ก ที่จอดอยู่ด้านหน้า ขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้าง ให้ข้อมูลว่า เห็นคนร้ายเดินเข้ามา จึงบอกให้ถอดหมวกกันน็อก แต่คนร้ายไม่สนใจ ก่อนบุกเข้าไปก่อเหตุในร้านทอง พนักงานชายร้านทอง เล่าว่า ผู้ก่อเหตุปีนเข้ามาแล้วพูดว่า ‘หยิบทองมา’ จึงสั่งให้น้องพนักงานหมอบลงเพื่อความปลอดภัย เพราะเห็นว่าคนร้ายมีอาวุธปืน และไม่เคยเห็นหน้าของคนร้ายมาก่อน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจ สภ.บางบ่อ พร้อมผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ อยู่ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุ เร่งไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป. – […]

เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด

กทม.14 ส.ค.- เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด อ้างอิงเหตุการณ์คลิปเสียง และพฤติการณ์ที่นิ่งเฉย ไม่กำหนดมาตรการหรือความชัดเจนตอบโต้กัมพูชาในช่วงปะทะ ไล่เลียงตั้งแต่กัมพูชารุกล้ำพื้นที่อธิปไตยไทย 200 เมตร จนถึงวันปล่อยคลิปเสียง 18 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคำร้องของ 36 สว. ต่อกรณีคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ที่ศาลนัดวินิจฉัยคำร้องในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ซึ่งในคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบกับมาตรา 160 (4)(5) ในเนื้อหาคำร้องอ้างอิงถึงคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ที่มีการเอ่ยพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 แม้นายกรัฐมนตรีพยายามแถลงข่าวชี้แจงกรณีคลิปเสียง แต่สมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวฟังไม่ขึ้น เพราะเมื่อมีการเผยแพร่คลิปเสียงเช่นนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีย่อมพยายามจะต้องหาข้อแก้ตัวอย่างไรก็ได้ โดยสมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า หากนายกรัฐมนตรีมีเจตนาเจรจาเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งและการสู้รบระหว่างประเทศเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติจริง นายกรัฐมนตรีสามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเจรจาทางการทูตตามหลักและมาตรฐานการดำเนินการที่ถูกต้องอย่างโปร่งใส ตามกระบวนการของกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ประการสำคัญ […]