ACT จี้นายกฯ เร่งลงโทษคนผิดคดีบอส

กทม. 7 ก.ย.- องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ออกจดหมายเปิดผนึกจี้นายกฯ เปิดเผยรายงานการสอบสวนฯ – เร่งลงโทษคนผิดคดี บอส อยู่วิทยา


องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ออกจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ ขอให้เปิดเผยรายงานผลการสอบสวนคดีบอส อยู่วิทยา ชุดนายวิชา มหาคุณ เป็นประธาน ให้ประชาขนได้รับทราบอย่างโปร่งใส และเร่งเอาตัวคนผิดมาลงโทษ กู้วิกฤติศรัทธาทุกฝ่ายกลับมา

เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2563 องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT ได้ออกจดหมายเปิดผนึกถึง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงนามโดย นายวิเชียร พงศธรประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เรื่อง ขอให้เปิดเผยรายงานผลการสอบสวนคดีบอส อยู่วิทยา และเร่งเอาตัวคนผิดมาลงโทษ โดย เนื้อหาในจดหมายเปิดผนึก ระบุ ดังนี้


ตามที่ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีคำสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา ที่มีนายวิชา มหาคุณ เป็นประธาน ได้ส่งมอบรายงานผลการตรวจสอบฉบับสมบูรณ์ตามที่ได้รับมอบหมายให้แก่ ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กรณีนี้ประชาชนให้ความสนใจติดตามเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีเหตุสื่อแสดงถึงการทุจริตคดโกงในหลายขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในระบบยุติธรรม จนสร้างความเสียหายให้กับประเทศอย่างร้ายแรง

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ เห็นว่า หากประวิงเวลาจะยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของระบบยุติธรรมและของรัฐบาล ยิ่งเสื่อมถอยไปอีก ดังนั้นรัฐบาลควรเปิดเผยรายงานดังกล่าวให้ประชาชนได้รับทราบอย่างโปร่งใส ไม่ตัดทอน ไม่ปิดบังข้อมูลใดๆ และเร่งเอาคนผิดมาลงโทษโดยเร็ว เพื่อเรียกความมั่นใจของทุกฝ่ายให้กลับคืนมา

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ในฐานะตัวแทนของสังคมไทย และเป็นหนึ่งในการทวงถามความยุติธรรมของกรณีนี้มาตั้งแต่ต้น จะตามติดในความคืบหน้าของคดีนี้อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อให้มีการตัดสินความอย่างเป็นธรรม มีการนำคนผิดในทุกขั้นตอนมาลงโทษตามกฎหมายอย่างรวดเร็วและเป็นเยี่ยงอย่าง เพื่อธำรงไว้ซึ่งเกียรติภูมิและความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการยุติธรรมของประเทศและความเชื่อมั่นศรัทธาของรัฐบาล.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย