ปารีส 25 มิ.ย.- นายกฯ พบบริษัทชั้นนำของฝรั่งเศสในอุตสากรรมโครงสร้างพื้นฐาน หวังให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงท่าอากาศยาน 3 แห่ง
มนชนก พัฒนพงศ์ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ที่ติดตามภารกิจการเดินทางเยือนสาธารณรัฐฝรั่งเศส ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 23 – 25 มิถุนายน รายงานว่า ช่วงเช้าวันนี้ (25 มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเดินทางเยือนฝรั่งเศส นายกรัฐมนตรีได้พบปะหารือกับผู้บริหารระดับสูงบริษัท Transdev และ SNCF และบริษัท VINCI Concession ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของฝรั่งเศสในอุตสากรรมโครงสร้างพื้นฐาน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ชื่นชมความสำเร็จของทั้ง 2 บริษัท ในการพัฒนาระบบเชื่อมโยงเครือข่ายคมนาคมในฝรั่งเศสและยุโรป ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการเชื่อมโยงภายในและระหว่างประเทศของไทย เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันในภูมิภาค ซึ่งที่ตั้งของไทยมีความเหมาะสมในการเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงในอนุภูมิภาค และภูมิภาคอาเซียน และยินดีที่ทราบว่า เอกชนฝรั่งเศสหลายราย แสดงความสนใจเป็นหุ้นส่วนในการพัฒนาประเทศไทย ตามยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 รวมถึง การพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC โดยเฉพาะรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงท่าอากาศยาน 3 แห่ง
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังหวังว่า บริษัททั้ง 2 จะสนใจใน ACMECS MASTER PLAN ที่ที่ประชุม ACMECS SUMMIT ครั้งที่ 8 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบตามข้อเสนอของไทย และจะเข้ามามีส่วนในการพัฒนาความเชื่อมโยงในภูมิภาคนี้ โดยบริษัทฝรั่งเศส ที่ต้องการเข้ามาลงทุนในไทย สามารถหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยได้ ทั้ง BOI สำนักงาน EEC รวมถึง องค์กรภาคเอกชนต่าง ๆ ได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการส่งเสริมบรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการค้าและการลงทุน และเปิดโอกาสให้เอกชนทุกบริษัทจากทุกประเทศ เข้ามาลงทุนได้อย่างเท่าเทียมกัน เชื่อว่า โครงการต่าง ๆ ที่เอกชนฝรั่งเศสจะไปลงทุน จะมีความยั่งยืน เพื่อประโยชน์ของทุกฝ่าย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้พบปะผู้บริหารระดับสูงของบริษัท มิชลิน ซึ่งมีโรงงานผลิตยางที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียอยู่ที่เมืองไทย และยังใช้น้ำยางพาราของไทยมาเป็นวัตถุดิบในการผลิต ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้แสดงความชื่นชมที่มีส่วนช่วยเหลือเกษรตรกรไทยมาอย่างยาวนาน และถือเป็นการลงทุนที่ยั่งยืน พร้อมกับ ขอบคุณที่บริษัทแสดงความสนใจที่จะมาลงทุนในโครงการเมืองยางพารา (Rubber City) ของไทย ซึ่งขณะนี้มีจีน และมาเลเซียแสดงความสนใจเช่นเดียวกัน
และบริษัทสุดท้ายที่เข้าพบนายกรัฐมนตรี วันนี้ คือ บริษัท SUEZ ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านบริการจัดการน้ำ และการบำบัดน้ำเสีย รวมถึง ให้คำปรึกษาการวางแผนเมือง.- สำนักข่าวไทย