พรรคเพื่อไทย 19 มิ.ย.-“นพดล” ชี้ “ฮุน เซน” ปล่อยคลิปเสียงคุยนายกฯ ผิดมารยาททางการทูต ป้องนายกฯ ขอเวลาให้พิสูจน์ และต้องให้เครดิตไม่นำผลประโยชน์ของตระกูลมาเหนือกว่าผลประโยชน์ของประเทศ เชื่อไม่มีเจตนาพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2
นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึง กรณีคลิปการสนทนาของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จ ฮุนเซน ว่า การนำคลิปที่เป็นการสนทนาส่วนตัวมาเผยแพร่ฝ่ายเดียว โดยที่อีกฝ่ายหนึ่งไม่ทราบ ถือว่าเป็นการผิดมารยาทและแนวปฏิบัติพื้นฐานทางการทูต เป็นการกระทำเพื่อวาระทางการเมืองในประเทศของตน โดยไม่คำนึงถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ เป็นการกระทำที่ละเมิดความสุจริตใจและไว้วางใจระหว่างกัน เวลานี้คนไทยไม่ควรแตกแยกกัน เพราะการแตกความสามัคคี จะทำให้กัมพูชาสำเร็จตามเป้าประสงค์ที่วางไว้
นายนพดล กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรี ปกป้องประโยชน์ชาติ หากพิจารณาเนื้อหาสาระของคลิป จะเห็นว่าสมเด็จฮุน เซน และฝ่ายกัมพูชาต้องการให้ไทยเปิดด่านก่อน ฝ่ายกัมพูชาจึงจะเปิดด่านตามในภายหลัง ซึ่งนายกฯ ไม่ได้ทำตามข้อเสนอและความประสงค์ของกัมพูชา จึงเห็นได้อย่างชัดเจนว่านายกฯ ได้ปกป้องผลประโยชน์ของชาติอย่างเต็มที่ ไม่ได้เอาประโยชน์ของชาติไปยกให้กัมพูชาตามที่ถูกกล่าวหา เพราะไม่เช่นนั้น คงทำตามความต้องการของฝ่ายกัมพูชาไปแล้ว และจนถึงวันนี้ไทยก็ยังไม่ได้เปิดด่านตามคำขอของฝ่ายกัมพูชา
อีกทั้ง นายกฯ ต้องการสันติภาพ ไม่ต้องการสงคราม ในคลิปนายกฯ ได้พยายามอย่างเต็มที่ที่จะป้องกัน ไม่ให้มีการยกระดับความขัดแย้งไปสู่การปะทะด้วยอาวุธ และสงครามระหว่าง 2 ชาติ และพยายามหาทางแก้ปัญหาที่ยอมรับได้ทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อให้ความสัมพันธ์กลับไปสู่สถานะดีเช่นเดิมก่อนที่เกิดข้อพิพาท เพื่อประโยชน์ของประชาชนของทั้งสองประเทศ
“ในคลิปอาจจะมีคำกล่าวบางคำที่พาดพิงถึงท่านแม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งผมเชื่อว่านายกฯ ไม่ได้มีเจตนา และท่านได้ขออภัยที่ใช้ถ้อยคำที่ถูกตีความไปในลักษณะที่ไม่ตรงกับเจตนาของท่าน ซึ่งนายกฯ ได้พูดคุยทำความเข้าใจและขออภัยคนไทยและท่านแม่ทัพภาคที่ 2 แล้ว และยืนยันว่ารัฐบาลและกองทัพยังคงทำงานร่วมกันเพื่อปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ของประเทศต่อไป” นายนพดล กล่าว
นายนพดล กล่าวว่า ในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย ขอให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนว่า เราจะปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศไทย และจะทำงานร่วมกับกองทัพอย่างมีเอกภาพเพื่อปกป้องดินแดนและผลประโยชน์ของชาติจนสุดความสามารถต่อไป
เมื่อถามว่า มีข้อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี รับผิดชอบด้วยการยุบสภาหรือการลาออก มีการพิจารณาในแนวทางที่ชัดเจนหรือไม่ นายนพดลกล่าวว่า ในฐานะที่นายกฯ มาจากการเลือกตั้งและเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานในระบอบประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ คิดว่าในฐานะนักการเมืองจะต้องรับฟังความเห็นของประชาชน และน้อมรับไปปรับปรุงแก้ไข
“แต่สิ่งหนึ่งที่คิดว่าอยากให้ความมั่นใจกับประชาชน คือไม่มีตอนใดที่นายกฯ ไปสมรู้กับกัมพูชา หรือไปยกประโยชน์ของไทยให้กับกัมพูชานี่คือจุดสำคัญ และการที่ไม่ทำตามที่กัมพูชาเรียกร้อง เท่ากับการไม่ยกประโยชน์ ไม่ได้เอาประโยชน์ของตระกูลชินกับตระกูลฮุนมาเหนือกว่าประโยชน์ของไทยและกัมพูชา ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมและต้องให้เครดิตนายกฯ” นายนพดล กล่าว
นายนพดล ยังเห็นว่านายกรัฐมนตรีได้แสดงความรับผิดชอบในการกล่าวขออภัย ต่อแม่ทัพภาคที่2 และขออภัยต่อคนไทย และยังให้คำมั่นว่าจะระมัดระวังไม่พูดสนทนาทางโทรศัพท์อีกแล้ว คิดว่าต้องให้โอกาสนายกรัฐมนตรีพิสูจน์ตัวเอง และเรื่องนี้ หากนายกรัฐมนตรีไม่รักษาผลประโยชน์ของชาติ ในประเด็นนั้นถึงจะควรต้องพิจารณา แต่เมื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นคลิปที่นายกรัฐมนตรีไม่ทราบว่ามีการอัดไว้และมีการปกป้องผลประโยชน์ของชาติอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้เกิดสงคราม คิดว่าควรให้เครดิตกับนายกรัฐมนตรีในส่วนนี้
เมื่อถามว่าจะคลิปที่เกิดขึ้นทำให้มีประชาชนมองว่าไม่สามารถไว้ใจนายกรัฐมนตรีได้ ต่อไปจะมีแนวทางไหนที่เรียกความเชื่อมั่น นายนพดล กล่าวว่า การเรียกความเชื่อมั่นต้องเรียกจากการกระทำและความมุ่งมั่น ไม่ใช่เรียกจากถ้อยคำหรือ แถลงการณ์ โดยมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยยังคงสนับสนุนให้นายกรัฐมนตรีทำงาน เพื่อเรียกความเชื่อมั่นแก้ไขปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ขอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ หากในอนาคตมีเหตุการณ์ที่ประชาชนไม่ไว้วางใจ ทางกลไกของรัฐสภามีการอภิปรายอยู่แล้ว
“แต่ในระหว่างนี้ต้องให้เวลาและโอกาสแก่นายกรัฐมนตรี พร้อมกับระบุว่า จะต้องดูภาพรวมของคลิป ไม่ใช่โดยเฉพาะบางถ้อยคำ ด้วยนายกรัฐมนตรีมีความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาไม่ให้เกิดสงครามและไม่ให้ทำตามคำขอของทางกัมพูชาก็ยังอยู่ในคลิปโดยสมบูรณ์ แต่อาจมีบางถ้อยคำที่ทำให้คนไทยเกิดความไม่สบายใจซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวขอโทษไปแล้ว” นายนพดล กล่าว
เมื่อถามต่อว่า กรณีถ้อยคำที่พูดว่าฝ่ายตรงข้าม จะทำให้คนนอกมองว่าภายในประเทศไทยเกิดความขัดแย้งหรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า ถ้อยคำอาจจะดูเหมือนขัดแย้งแต่เมื่อเช้ามีภาพชัดเจนว่ารัฐบาลและกองทัพมีความเอกภาพหลังจากประชุมร่วมกัน ทั้งกองทัพ กระทรวงกลาโหม นายกรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพก็มาร่วมประชุมและมีการแถลงข่าว เชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไร โดยมั่นใจว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้มีเจตนาที่จะไปลบหลู่แม่ทัพภาคที่2
หรือเห็นว่ากองทัพเป็นฝ่ายตรงข้าม
ส่วนที่มีข้อเรียกร้อง หากไม่มีความรับผิดชอบด้วยการลาออกหรือยุบสภา จะทำให้เป็นการเรียกให้เกิดเหตุการณ์รัฐประหาร นายนพดล กล่าวว่า คนที่เรียกร้องในสังคมไทยมีตั้ง 65 ล้านคน อาจมีเสียงส่วนน้อยหรือคนไม่กี่คนเรียกร้องเช่นนั้น แต่เชื่อมั่นว่าคนไทยส่วนใหญ่เป็นคนที่รักประชาธิปไตย ประเด็นเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการทำรัฐประหาร ซึ่งการเปลี่ยนรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญสามารถทำได้หลายแบบ เชื่อว่าไม่น่ามีประเด็นอะไร นำสู่เหตุการณ์ดังกล่าว โดยพรรคเพื่อไทยรับฟังและขอให้ทุกอย่างเดินไปตามครรลองระบอบประชาธิปไตย และรัฐบาลก็ต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยการทำงานหนักมากขึ้น ทั้งปัญหาการเศรษฐกิจและการเจรจาหลังจากนี้
ส่วนความสัมพันธ์ส่วนตัว ระหว่างนายกรัฐมนตรีและฝั่งผู้นำกัมพูชา นายนพดล เชื่อว่านายกรัฐมนตรีมีวุฒิภาวะ ขอไม่ก้าวล่วงในการให้ความเห็น และปฏิเสธแสดงความเห็นกรณีคลิปเสียงของฝั่งกัมพูชาว่าจะมีอีกหรือไม่ และเปิดเผยว่ากรณีปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา นายกรัฐมนตรีได้ปรึกษาพูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนปัจจุบัน สมช. รองนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่ากังวลใจหรือไม่ หากเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย นายนพดล กล่าวว่า ให้ไปถามนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่จะต้องทำงานร่วมกันต่อไปตามครรลองประชาธิปไตย หวังว่าประชาชนจะเข้าใจ โดยเฉพาะปัญหาไทยกัมพูชา การกระตุ้นเศรษฐกิจ การแก้ไขปัญหายาเสพติดที่รัฐบาลจะต้องแก้ไขปัญหา แต่หวังว่าสถานการณ์ชายแดนจะคลี่คลายโดยเร็ว เพราะจะเกิดประโยชน์กับประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งหากไม่มีสงครามในภูมิภาคก็จะเป็นประโยชน์ต่ออาเซียน ซึ่งประเทศมหาอำนาจก็ไม่ต้องการให้ประเทศในอาเซียนเกิดความขัดแย้งนำไปสู่สงคราม ก่อนจะทิ้งท้ายว่าขณะนี้เป็นเวลาที่จะต้องสร้างความเข้าใจและเป็นกำลังร่วมกันในการแก้ไขปัญหา.-315.-สำนักข่าวไทย