ปธ.วิปรัฐบาล แจงโหวตคว่ำญัตติประชามติแก้ รธน.พรรคก้าวไกล

รัฐสภา 25 ต.ค.-ปธ.วิปรัฐบาล และพรรคร่วม แจงโหวตคว่ำญัตติประชามติแก้ รธน.พรรคก้าวไกล ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงปล่อยให้รัฐบาลเป็นผู้จัดทำประชามติ

นายอดิศร เพียงเกษ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล พร้อมด้วยนายชูศักดิ์ ศิรินิล รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล แถลงการณ์ชี้แจงกรณีสภาผู้แทนฯ มีญัตติด่วน ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเห็นชอบ เพื่อแจ้งให้ ครม.ดำเนินการออกเสียงประชามติเพื่อสอบถามความเห็นของประชาชนต่อการจัดทำรัฐธรรนูญฉบับใหม่ ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรมีมติ 261 ต่อ 162 ไม่เห็นชอบที่จะส่งญัตติดังกล่าวไปยัง ครม. เพื่อทำความเข้าใจถึงผลการลงมติดังกล่าว


นายอดิศร กล่าวว่า ประเด็นญัตติการทำประชามติฯ วิปรัฐบาลได้ประชุม 2 ครั้ง โดยประชุมครั้งแรก น่าจะเอาญัตติอื่นขึ้นพิจารณาโดยไม่เปิดให้ฝ่ายค้านมีโอกาสพูดในสภาฯ แต่การประชุมเมื่อเช้าของวิปรัฐบาล มองเรื่องจัดทำประชามติเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าวิปรัฐบาลหรือพรรคร่วมรัฐบาลมีความเห็นไปในทิศทางใด ทิศทางหนึ่งอาจจะสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยงกับการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ อาจจะมองได้ว่าพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลไม่ใส่ใจในการจัดทำประชามติ และไม่ใส่ใจที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงมีมติให้ญัตติดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณา โดยประชุม 4 ชั่วโมง ผลมติก็ออกมาไม่เห็นชอบที่จะส่งญัตติดังกล่าวไปยังครม. อย่างไรก็ตามญัตติที่ถูกเสนอวันนี้ รัฐบาลรับรู้รับทราบแน่นอน

นายชูศักดิ์ กล่าวว่า สรุปได้ 2 ประการ โดยประการแรก การทำประชามติ และรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว รัฐบาลได้มีการตั้งอนุกรรมาธิการ 2 ชุด ได้แก่ ชุดแรกให้ศึกษาการจัดทำประชามติต้องมีการทำกี่ครั้ง และชุดที่สอง หลังจากทำประชามติจะดำเนินการต่อไปอย่างไร เพื่อนำไปสู่จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งมีหลักประกัน คือ รัฐบาลได้แถลงนโยบายให้จะมีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยการประชุมครม.นัดแรก ได้มีการออกมติครม. ให้มีการจัดทำประชามติ โดยมีการตั้งอนุกมธ.ศึกษาจัดทำประชามติ แต่ญัตติที่ฝ่ายค้านเสนอก็ไม่ถือว่าสิ้นสุดการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ฝ่ายค้านไปอ้างกฎหมายประชามติอ้างมาตร 9(4) ว่า รัฐสภามีมติเห็นชอบเสนอให้รัฐบาล เพื่อไปทำประชามติ ทั้งนี้ รัฐสภาต้องประกอบไปด้วยสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภา เพราะฉะนั้น แม้เรามีมติก็ต้องนำไปส่งวุฒิสภา หากวุฒิสภาไม่เห็นชอบ ท้ายที่สุดก็ส่งเรื่องไปยังรัฐบาลไม่ได้ อย่างไรก็ตาม คำแถลงของรัฐบาลก็ยินดีรับฟังความเห็นจากภาคส่วนต่างๆ รัฐบาลเปิดกว้างก็สามารถส่งความเห็นไปยังรัฐบาลได้ ไม่จำเป็นต้องผ่านพ.ร.บ.ประชามติ


พรรคร่วมรัฐบาลยืนยันเห็นด้วยต้องทำประชามติ และต้องทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้เป็นประชาธิปไตย เพียงแต่วิธีการจัดทำปล่อยให้รัฐบาลเป็นผู้จัดทำดีแล้ว เนื่องประสบการณ์ในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หากรัฐบาลและวุฒิสภาไม่เห็นด้วยก็ไม่ได้ ทำไมญัตติวันนี้มีมติไม่ส่ง เนื่องจากหลายเรื่องในญัตติยังมีความขัดแย้งกับความเห็นของรัฐบาล ปัญหาหลัก คือ การจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับหมายความอย่างไร ผู้เสนอญัตติต้องแก้ทั้งฉบับ แต่พรรคร่วมรัฐบาลจะแก้ไขทั้งฉบับ ไม่รวมหมวด 1 และ หมวด 2 รวมถึงรัฐบาลที่ประกาศจุดยืน ซึ่งหากส่งญัตติไปยังรัฐบาลก็คงปฏิเสธขอเสนอของสภาผู้แทนฯ ซึ่งมีความเห็นไม่ตรงกัน จึงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยมากกว่าเดิม นายชูศักดิ์ กล่าว

นายภราดร ปริศนานันทกุล กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงมติในนี้ คะแนนเสียง 261 ต่อ 162 ไม่ได้หมายความว่า พรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วยกับการจัดทำประชามติในการสอบถามพี่น้องประชาชนที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ และไม่ใช่พวกเรากอดรัดรัฐธรรมนูญฉบับเดิม แต่พวกเรายืนยันต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย ภายใต้สสร. โดยสิ่งที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วยกับการเสนอญัตติมี 3 ประเด็น ได้แก่ 1.รัฐบาลมีคณะกรรมการมาพิจารณาเรื่องนี้อย่างละเอียดรอบคอบแล้ว ซึ่งมาจากทุกพรรคการเมืองและนักวิชาการ จึงทำให้คณะกรรมการมีความน่าเชื่อถือ 2.การเสนอญัตติให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ซึ่งขัดเจตนารมณ์ของพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ในการไม่ให้แก้ไขหมวด 1-2 ดังนั้นพรรคร่วมรัฐบาลจึงไม่เห็นด้วยกับญัตตินี้ 3.พรรคร่วมไม่เห็นด้วยให้มีการเลือกตั้งสสร. 100% เราต้องการให้มีความหลากหลายทุกสาขาอาชีพ อาทิ กลุ่ม LGBTQ กลุ่มชาติพันธุ์ และกลุ่มสาขาอาชีพต่างๆ ครบถ้วน ทั้งนี้ ใช่ว่าพรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วยกับการจัดทำประชามติเพื่อสอบถามความเห็น และการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”

วางระเบิด 4 ลูก เกาะกลางถนนหน้าโรงเรียน จ.นราธิวาส

เช้ามืดวันนี้ (21 พ.ย.) เกิดระเบิดขึ้นอีก 4 ลูก บริเวณเกาะกลางถนนหน้าโรงเรียนบ้านฮูแตทูวอ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน