กกต. แจงทำประชามติแก้รธน. 60 กำหนดให้ทุกคนมีสิทธิ์

หัวหิน 12 ก.ย.- กกต. แจงทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ 60 กำหนดให้ทุกคนมีสิทธิ์ทั้งใน-นอกประเทศ มองไม่ใช่เรื่องง่ายให้ประชาชนเข้าใจการแก้ รธน.


นายวรพงศ์ อนันต์เจริญกิจ ผอ.สำนักสนับสนุนการเลือกตั้ง สำนักงานกกต. กล่าวในการสัมมนาที่สำนักงาน กกต.จัดขึ้น เพื่อให้ความรู้กับสื่อมวลชนประจำ กกต. ถึงการทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญทั้ง 3 ครั้ง ว่า เป็นจุดหลักที่ทำให้ฝ่ายการเมืองเข้าไปเสนอแก้กฎหมาย คือ พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติในกระบวนการเพิ่มเติม หากวันออกเสียงการเลือกตั้งทั่วไปหรือเลือกตั้งท้องถิ่น สามารถกำหนดเป็นวันเดียวกันได้ พอบอกว่าการทำประชามติทั้ง 3 ครั้งต้องใช้งบประมาณสูง แต่พอกำหนดให้ใช้ร่วมกันงบประมาณก็ต้องเพิ่มขึ้นจากเดิม ซึ่งในกระบวนการออกเสียงประชามติ เป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นกระบวนการที่อยู่ในมาตรา 9 พ.ร.บ.ประชามติ ที่จะเริ่มตั้งแต่ที่สภาให้ความเห็นชอบในการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ และประธานสภาจะส่งเรื่องให้นายกรัฐมนตรีทราบ โดยต้องพิจารณากำหนดให้ออกเสียงประชามติ การกำหนดนั้นตามที่นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. บอกไว้ว่าต้องมี กรอบเวลาจาก คณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งต้องให้เร็วกว่า 90 วัน และไม่ช้ากว่า 120 วัน ในการทำประชามติ แต่หากเป็นการออกเสียงการเลือกตั้งทั่วไปก็จะยืดเวลาอาจจะไม่เร็วกว่า 60 วัน และไม่ช้ากว่า 150 วัน ซึ่งเป็นเฉพาะกรณีที่ทำประชามติพร้อมการเลือกตั้งทั่วไป

ซึ่งกระบวนการออกเสียงประชามติจะเริ่มก่อน โดยแปลว่าหากกำหนดให้มีการเลือกตั้งทั่วไป ก็ต้องมีการเตรียมวันยุบสภาไว้ล่วงหน้า ว่าต้องภายในกี่เดือน เพื่อให้กระบวนการต่อท้ายนั้นชนกันได้ แต่กระบวนการประชามตินั้นถ้าเอากระบวนการเต็ม 120 วันช่วงแรก จะเป็นในเรื่องของการเผยแพร่สาระสำคัญของรัฐธรรมนูญ ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ กกต.ต้องทำและจัดให้มีการออกเสียงประชามติโดยในการแก้ไขเพิ่มเติมก็มีหน้าที่ในการเผยแพร่ทั้งร่างรัฐธรรมนูญและสาระสำคัญ คือต้องประกาศเป็นราชกิจจานุเบกษาภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งจากประธานรัฐสภาและต้องทำเอกสารเผยแพร่ส่งไปยังชาวบ้านก่อนวันออกเสียง อีกเรื่องหนึ่งคือการที่กำหนดให้กกต. มีหน้าที่เผยแพร่ขั้นตอนการออกเสียงประชามติด้วยซึ่งกกต.ต้องทำหน้าที่เผยแพร่ขั้นตอนการออกเสียงทั้งหมดเพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจว่าการออกเสียงประชามติมีขั้นตอนกระบวนการอย่างไร ซึ่งการออกเสียงประชามติตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 แตกต่างจากที่ผ่านมา เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้กำหนดให้การออกเสียงเป็นหน้าที่ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงก็ต้องหน้าที่ไปออกเสียงทุกคน


ส่วนประเด็นต่อมาในการออกเสียงประชามติที่ผ่านมาทั้งสองครั้งจัดภายในประเทศโดยไม่มีการลงคะแนนเสียงนอกราชอาณาจักรแต่ตามพรบ.ฉบับใหม่ที่ระบุว่าเป็นหน้าที่ ซึ่งต้องจัดให้มีการออกเสียงนอกราชอาณาจักรด้วยนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะเกิดขึ้นโดยเป็นเรื่องใหม่ที่เกิดขึ้นและต้องขอให้สื่อมวลชนได้สื่อสารให้ประชาชน ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงได้เข้าใจว่าไม่เหมือนในอดีต

ส่วนอีกเรื่องคือการจัดให้มีแสดงความคิดเห็นที่หากมีฝ่ายที่เห็นชอบและไม่เห็นชอบนั้นเป็นโจทก์ที่เป็นหน้าที่ของกกต. เพื่อรองรับกฎหมายที่มีการแก้ไขใหม่ซึ่งหากดูแล้วก็ไม่ใช่เรื่องง่ายทั้งการจัดเวทีดีเบสและต้องกระจายให้ทั่วพื้นที่และกฎหมายใหม่ที่ระบุเรื่องเกณฑ์ออกเสียงว่าใช้เกณฑ์จังหวัดเป็นเกณฑ์ออกเสียงแต่ในกฎหมายใหม่นั้นให้ใช้เกณฑ์ประเทศเขตจังหวัด เขตอำเภอเป็นเขตออกเสียงได้ หากในอนาคตมีประเด็นที่ต้องทำประชามติในท้องถิ่นในถิ่นหนึ่งก็สามารถดำเนินการได้เช่นเดียวกันโดยอันนี้เป็นเรื่องใหม่ที่เกิดขึ้นตามร่างของฉบับใหม่

เมื่อถามว่าการแก้ไขประชามติเปิดให้ทำประชามติพร้อมกับการเลือกตั้งทั่วไปนั้นอยู่ในมาตราไหน การแก้ไขก็ต้องเข้ากระบวนการตามปกติก่อนใช่หรือไม่ นายวรพงศ์ กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างตามกฏหมายซึ่งผ่านสภาไปแล้วทางฝ่ายการเมืองก็ ให้ข่าวว่าผ่านสภาไปแล้วเราต้องมาคุยกันแต่ทาง กกต. ก็ต้องร่าง Hrabec กันจัดการออกเสียงนั้นปกติจะเป็นอย่างไรจัดพร้อมกับการเลือกตั้งทั่วไปนั้นเป็นอย่างไรซึ่งวิธีการจะแตกต่างกันและยกตัวอย่างว่ากฎหมายกำหนดให้แต่ละเขต แต่ละในกรณีจัดการเลือกตั้งพร้อมกับการเลือกตั้งทั่วไปก็จะพิจารณาในเกณฑ์ส.ส. ว่าเกี่ยวกับเขตหรือไม่เพื่อให้เร็วในการบริหารจัดการและใช้บุคลากรกลุ่มเดียวกันใช้ที่ออกเสียงที่เดียวกันซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องมีการออกแบบกระบวนการอยู่และคาดว่าจะมีความชัดเจนจะได้ทำความเข้าใจและชี้แจงให้สื่อมวลชนได้รับทราบ รวมไปถึงกระบวนการออกเสียงซึ่งอาจจะมีสองประเด็นในบัตรใบเดียวนั้นซึ่งเป็นเรื่องที่มีความซับซ้อนก็เป็นโจทย์ของ กกต. ที่จะต้องวางกระบวนการโดยเฉพาะขั้นตอนลงคะแนนในพื้นที่เลือกตั้งในที่เดียวกันจะทำอย่างไรไม่ให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเกิดความสับสนซึ่งจะเป็นปัญหาเรื่องบัตรเสียหรืออะไรก็ตาม


อีกประเด็นคือเรื่องการออกเสียงนอกเขตในการเลือกตั้งสส. เรากำหนดให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าหนึ่งสัปดาห์เพื่อจัดส่งบัตรไปยังนอกเขตได้แต่ผลการออกเสียงนอกเขตนั้นกำหนดให้ลงคะแนนในวันออกเสียงวันเดียวกันโดยสิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่เป็นโจทย์และเป็นประเด็นในการสื่อสารทำความเข้าใจให้กับประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ถึงแม้ว่าเราจะกำหนดให้ที่ออกเสียงหรือที่เลือกตั้งที่เดียวกันแล้วแต่การเลือกตั้งนอกเขตการเลือกตั้งล่วงหน้าก่อนการออกเสียงนอกเขตต้องมาดำเนินการภายในวันเดียวกับวันออกเสียง อันนี้ก็เป็นอีกโจทย์ที่ต้องหาแนวทางว่าจะสื่อสารอย่างไรตั้งแต่ขั้นตอนการลงทะเบียน ขั้นตอนการลงคะแนนเพื่อให้ประชาชนเข้าใจ

ถามว่ากรณีการจัดทำคำถามพร้อมกันสองคำถามและผูกพันถึงผลของคำถามที่สองและมีการยกร่างแก้ไขทั้งฉบับหรือไม่โดยหากเสียงข้างมากไม่คำถามที่สองก็จะไม่มีความหมายทันที ซึ่งหากลงคะแนนพร้อมกันกกต. จะต้องประกาศผลของการออกเสียงคำถามข้อที่สองหรือไม่ นายวรพงศ์ กล่าวว่าประเด็นนี้เป็นประเด็นใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นซึ่งต้องนำไปศึกษาก่อนว่าจะกำหนดแนวทางเรื่องนี้อย่างไรเพราะในขั้นตอนกระบวนการก็ต้องมีการหารือร่วมกับคณะรัฐมนตรีและทางสภาจะเป็นผู้กำหนดทิศทางก็เป็นข้อสังเกตที่ต้องมาดูกัน

ส่วนจะใช้งบกลางหรืองบอะไรนั้น เนื่องจากการเลือกสส.เป็นเหตุที่ไม่สามารถคำนวณได้ล่วงหน้า เราไม่สามารถตั้งงบประมาณเป็นงบประมาณรายจ่ายประจำปีได้ ซึ่งทุกครั้งจะใช้วิธีการของบกลางไปถึงคณะรัฐมนตรีรวมทั้งการทำประชามติในชั้นนี้ทางกกตอยู่ในระหว่างการของบประมาณซึ่งเรามีกฎหมายและระเบียบกับการออกเสียงประชามติเพิ่มเติมที่จะจัดควบคู่กันว่าจะนำมาประกอบร่างอย่างไรอันไหนที่ใช้งบประมาณร่วมกันได้หรืออันไหนที่ต้องเพิ่ม แต่นอกจากกกต.แล้วก็ยังมีหน่วยงานต่างๆที่จะต้องเข้ามาร่วมในการช่วยทั้งสองภารกิจ คือสำนักการปกครอง ที่ช่วยในเรื่องการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ใช้สิทธิ์ออกเสียงต่างๆมีหน้าที่ที่เกี่ยวกับการประกาศหน่วยการเลือกตั้ง การจัดทำรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งผู้มีสิทธิ์ออกเสียง ซึ่งกกต. ต้องรอความชัดเจนของตัวกฎหมายและรอความเข้าใจ อย่างกระทรวงการต่างประเทศต้องรับผิดชอบเรื่องการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรซึ่งมีข้อปฏิบัติที่แตกต่างกัน การเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรจะมีการส่งกลับนับคะแนนในประเทศ หรือการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่กฎหมายกำหนดให้นับคะแนนที่สถานทูตเลย ต้องมีการซักซ้อมทั้งความเข้าใจและให้กระทรวงการต่างประเทศแจ้งขอความร่วมมือไป รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีการดูแลการเลือกตั้ง หรือไปรษณีย์ไทยที่มีการส่งวัสดุอุปกรณ์การเลือกตั้งบัตรเลือกตั้ง ซึ่งต้องมีการชี้แจงความเข้าใจอย่างเข้าใจในภาพรวมกระบวนการเพื่อสามารถครอบคลุมได้ทุกภารกิจ

ในเรื่องถัดมา คือปัญหาอุปสรรคจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ซึ่งมีเสียงสะท้อนจากผู้ปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ที่ต้องออกเดินทางมาตั้งแต่เช้า หน่วยเลือกตั้งตั้งแต่ตีสี่ตีห้า ดำเนินการนับคะแนนเสร็จจนถึงเวลาส่งที่หน่วยก็ใช้เวลานาน -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

สั่ง 4 ข้อยกระดับมาตรฐานซาฟารีเวิลด์ ห่วงความปลอดภัยและสวัสดิภาพสัตว์

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – อธิบดีกรมอุทยานฯ มีคำสั่งด่วนถึงซาฟารีเวิลด์ ให้ปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยในการจัดแสดงสัตว์ดุร้ายโดยเร็ว พร้อมกำหนด 4 มาตรการเข้มที่ต้องปฏิบัติเพื่อยกระดับความปลอดภัยทั้งต่อนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ ชี้เป็นห่วงสุขภาพและสวัสดิภาพสิงโต เบื้องต้นพบมีภาวะเครียดและมีอาการโรคผิวหนัง ส่วนกรงยังมีไม่เหมาะสมเพียงพอ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึงบริษัท ซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) ให้ดำเนินการปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยในการจัดแสดงสัตว์ดุร้าย หลังเกิดเหตุสิงโตในโซนจัดแสดงแบบเปิดรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่สวนสัตว์จนเสียชีวิต จากการตรวจสอบเบื้องต้นของคณะเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ พบข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยหลายประการเช่น ไม่มีระบบกั้นพื้นที่อย่างปลอดภัย ไม่มีประตูนิรภัยสองชั้น และขาดอุปกรณ์ควบคุมสัตว์ที่เหมาะสม ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้าใกล้สัตว์โดยตรงขณะปฏิบัติงาน กรมฯ จึงกำหนด 4 มาตรการเร่งด่วน ที่บริษัทต้องดำเนินการให้ครบถ้วน ดังนี้ อธิบดีกรมอุทยานฯ ย้ำว่า ได้ให้บริษัทเร่งปรับปรุงให้ได้ตามมาตรฐานเพื่อความปลอดภัยทั้งของนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ ก่อนหน้านี้ กรมอุทยานฯ ได้มีคำสั่งปิดการจัดแสดงสิงโตและสัตว์ดุร้ายในสวนสัตว์เปิดซาฟารีเวิลด์เป็นการชั่วคราวหลังเกิดเหตุ โดยคำสั่งล่าสุดนี้ ถือเป็นการกำหนดรายละเอียดแนวทางแก้ไขเชิงระบบ เพื่อให้เกิดการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม อธิบดีกรมอุทยานฯ ยังแสดงความห่วงใยถึงสุขภาพและสวัสดิภาพของสิงโต 5 ตัวที่รุมทำร้ายเจ้าหน้าที่สวนสัตวว์ เป็นเพศผู้ 3 ตัว เพศเมีย 2 […]

ชาวบ้านเฮ! ปิดรอยขาดพนังกั้นน้ำยังได้สำเร็จ

ร้อยเอ็ด 12 ก.ย. – สามารถปิดรอยขาดพนังกั้นน้ำยัง บริเวณบ้านทรายมูล อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด หลังเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน พร้อมชาวบ้านกว่า 200 คน เร่งช่วยกันซ่อมแซม ปฏิบัติการเร่งซ่อมพนังกั้นลำน้ำยังที่ขาด บริเวณบ้านทรายมูล หมู่ 4 ต.ขวาว อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ทำให้มวลน้ำทะลักเข้าท่วมนาข้าวเสียหายกว่า 5,000 ไร่ ครอบคลุม 3 ตำบล นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นำเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน พร้อมชาวบ้านกว่า 200 คน ใช้ทั้งแรงคนและเครื่องจักรหนัก รถบรรทุกทราย และถุงบิ๊กแบ็กปิดกั้นรอยแตก นอกจากนี้ยังนำเสาไฟฟ้า 16 ต้น มาวางพาดขวางเสริมฐานความแข็งแรง ร่วมกับท่อนไม้ขนาดใหญ่ เพื่อชะลอความแรงของกระแสน้ำ ก่อนใช้รถแบ็กโฮจัดวางถุงทรายทับซ้ำอีกชั้นหนึ่ง เพื่อเพิ่มความมั่นคงให้แนวป้องกัน เมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้ (11 ก.ย.) สามารถปิดบริเวณที่ขาดได้สำเร็จ ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด กล่าวว่า หลังจากปิดกั้นจุดที่ขาดเสร็จสิ้น […]

‘เจนซี’ เนปาลเรียกร้องยุบสภา-ตายเพิ่มเป็น 34 ราย

กาฐมาณฑุ 12 ก.ย. -ยอดผู้เสียชีวิตจากการประท้วงรุนแรงในเนปาล เพิ่มเป็น 34 ราย ผู้นำเยาวชนเรียกร้องให้ยุบสภา และสนับสนุนอดีตประธานศาลฏีกาหญิง เป็นผู้นำประเทศชั่วคราว หลังการประท้วงรุนแรง 2 วันจนนายกรัฐมนตรีต้องลาออก โอจาชวี ราช ทาปา ผู้นำเยาวชนเนปาล เรียกร้องให้ยุบสภาหลังการเจรจากับกองทัพในกรุงกาฐมาณฑุเมื่อวานนี้ และบอกว่า พวกเขาสนับสนุนให้ สุชิลา คาร์กี อดีตประธานศาลฎีกา เป็นหัวหน้ารัฐบาลรักษาการ พวกเขาไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกรัฐธรรมนูญ แต่เสริมว่ายังมีสิ่งที่ต้องแก้ไขอีกมาก ขณะที่แกนนำเยาวชนอีกคนอ้างว่า พวกเขาได้ประท้วงอย่างสันติหลังจากได้รับอนุญาตจากนายกเทศมนตรีของกรุงกาฐมาณฑุ แต่รัฐบาลกลับสั่งให้ตำรวจปราบจลาจลยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางเข้าใส่พวกเขาเพื่อหวังสลายการชุมนุมจนนำไปสู่ความรุนแรงเป็นเหตุจลาจลนองเลือด เผาทำลายอาคารรัฐสภา จนนายกรัฐมนตรี เคพี ชาร์มา โอลี ต้องลาออก ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากการประท้วงเพิ่มเป็น 34 ราย บาดเจ็บ 1,033 คน ส่วนเมื่อวานนี้ ทหารยังคงลาดตระเวนตามท้องถนนที่เงียบสงบของกรุงกาฐมาณฑุ ร้านค้าและโรงเรียนยังคงปิด ส่วนหน่วยงานบริการสำคัญบางแห่งกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง เหตุความวุ่นวายในเนปาลรอบนี้ มีที่มาจากการที่รัฐบาลสั่งห้ามใช้สื่อสังคมออนไลน์ที่ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ถูกยกเลิกไปหลังจากมีผู้เสียชีวิต 19 รายในวันจันทร์ที่ผ่านมา ก่อนที่การประท้วงจะขยายไปเป็นการต่อต้านการทุจริตของนักการเมืองและข้าราชการ รวมถึงบรรดาลูกท่านหลานเธอและอภิสิทธิ์ชน ที่นำเสนอชีวิตหรูหราสุขสบายของพวกเขาผ่านทางสื่อออนไลน์ ในขณะที่ชาวเนปาลจำนวนมากยังมีชีวิตที่ยากลำบาก การประท้วงนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นการเคลื่อนไหวของคนเจนซี […]