รัฐสภา 11 ก.ย.- “โรม” ผิดหวัง คำวินิจฉัยศาลรธน.ไม่กระจ่างทำประชามติกี่ครั้ง งง เบรก ปชช.เลือก สสร. ยัน MOA ไม่เป็นเช็คเปล่า ขอให้รอดู ภท.จริงจังแค่ไหน เชื่อ 4 เดือนยังทัน
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ต่อจำนวนการทำประชามติ 3 ครั้ง จะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญยากขึ้นหรือไม่ ว่า ต้องยอมรับว่ายังไม่สร้างความชัดเจน เพราะยังเกิดการถกเถียงกันว่าจะต้องทำ 2 หรือ 3 ครั้ง อย่างไรก็ตามการทำประชามติหลายครั้ง ก็ต้องใช้ภาษีประชาชนจำนวนมาก ขณะเดียวกันการที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า สสร. มาจากการเลือกโดยตรงของประชาชนไม่ได้ ซึ่งเป็นคำวินิจฉัยที่แปลก และอาจขาดต่อธรรมชาติของรัฐธรรมนูญ เพราะโดยทั่วไปรัฐธรรมนูญต้องมาจากประชาชน ยิ่งรัฐธรรมนูญมีส่วนเกี่ยวข้องกับประชาชนมากเท่าไหร่ก็จะทำให้รัฐธรรมนูญฉบับนั้นมีความหมาย ซึ่งเราไม่อยากให้มีการฉีกทิ้งแบบที่ผ่านมา ดังนั้นการทำให้ประชาชนรู้สึกว่าเป็นเจ้าของรัฐธรรมนูญจึงเป็นเรื่องสำคัญ
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเช่นนี้ จึงทำให้เกิดคำถามว่า ประชาชนตะรู้สึกว่าเป็นเจ้าของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ทั้งนี้ ต้องไปดูเหตุผลของศาลในคำวินิจฉัยฉบับเต็ม รวมถึงจำนวนครั้งในการทำประชามติ คงจะเห็นภาพชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ตาม ย้ำว่าทุกฝ่ายยังมีภารกิจร่วมกันคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
“ในเรื่องของสสร.นั้น ตนคิดว่า ไม่น่าจะอยู่ในคำวินิจฉัยของศาล แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมศาลถึงมีคำวินิจฉัยแบบนี้” นายรังสิมันต์กล่าว
เมื่อถามว่า จะกระทบกับ MOA ที่พรรคประชาชนทำกับพรรคภูมิใจไทย จนเป็นการตีเช็คเปล่าหรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า ยังไม่เห็นผลกระทบอะไร เพราะขนาดนี้ยังไม่มีสัญญาณละเมิดข้อตกลง หรือลักษณะที่จะไม่เกิดการแก้รัฐธรรมนูญ ดังนั้นอย่ารีบสรุปว่าจะมีการละเมิด MOA เพราะยังมีเวลาดูว่าแต่ละฝ่ายมีความจริงจังมากน้อยแค่ไหน
ส่วนจะทันภายใน 4 เดือนหรือไม่นั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า อยู่ที่ว่าเราจะทำประชามติกี่ครั้ง และกี่คำถาม แต่เบื้องต้นยังมองว่า 4 เดือนยังทัน
เมื่อถามว่า พรรคประชาขนแถลงว่า ประชาชนยังเลือกสสร.ได้แต่ต้องใช้ทางอ้อม มองว่ามีวิธีการหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เราอยากให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากที่สุด แต่คงต้องดูแกทีหลังจากเห็นคำวินิจฉัยเต็ม ย้ำว่าการที่ประชาชนจะเป็นเจ้าของรัฐธรรมนูญ ประชาชนต้องเป็นคนร่าง
เมื่อถามว่ามีการมองว่าพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทยดีลกันเพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญทำยาก นายรังสิมันต์กล่าวว่า ไม่น่าเกี่ยว ไม่ใช่ผลโดยตรงในเรื่องนั้น เรารู้อยู่แล้วว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ง่าย โดยเฉพาะเมื่อบรรดาองคาพยพคณะรัฐประหารปี 57 ยังมีอำนาจในรัฐบาลอยู่ก็ไม่ง่าย แต่เราพยายามสร้างความเป็นไปได้ทุกรูปแบบเท่าที่เป็นไปได้ ยืนยันว่า เราไม่ได้หวังอำนาจแต่อยากฝ่าวิกฤติออกไป เพราะ 2 ปีที่ผ่านมามันสูญเปล่า
เมื่อถามว่า ที่เป็นแบบนี้มองว่า เพราะเพื่อไทยเป็นยื่นดาบถามศาลรัฐธรรมนูญเองหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เข้าใจว่าพรรคเพื่อไทยอยากทำทุกอย่างให้ปลอดภัยที่สุด แต่เมื่อศาลตอบกลับมาแบบนี้ ก็ทำให้เกิดการถกเถียงมากขึ้น จึงยังหาข้อยุติไม่ได้ เราหวังว่าคำวินิจฉัยศาลจะสร้างความกระจ่างให้มากกว่านี้ แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้เป็นแบบนั้น ยังยืนยันว่าไม่มีความจำเป็นต้องไป ถามศาลรัฐธรรมนูญ แต่ก็เข้าใจความปรารถนาของพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามว่าหากนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตีความคำวินิจฉัย ในเรื่องจำนวนการทำประชามติและที่มาของสสร.ไม่ตรงกับพรรคประชาชนจะทำอย่างไร นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนไม่อยากเดารอดูอีกสักนิดก็จะได้ความชัดเจน
ส่วนกรณีที่พรรคภูมิใจไทยตั้งนายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค มาศึกษาคำวินิจฉัยนั้น ตนขอคุยดูก่อน
ทั้งนี้หากพรรคภูมิใจไทยบิดเบี้ยวการแก้รัฐธรรมนูญ พรรคประชาชนพร้อมจะใช้เสียงลมรัฐบาลหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ขอให้รอดู อีกไม่นานก็จะได้ทราบว่าบิดพริ้วหรือไม่ แต่ส่วนตัวก็หวังว่าทุกคนจะรักษาข้อตกลง -สำนักข่าวไทย