หัวหิน 11 ก.ย.-“แสวง” รับปากเลือกตั้งหน้าไร้ปัญหา เดินหน้าร่างระเบียบออกเสียงประชามติตรงวันเลือกตั้ง ขอทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ หากหวังแค่ชนะ ปัญหาคงไม่ได้แก้ ชี้สัญญาณเลือกตั้งมาแน่ปี 69 ลั่นเป็นปีที่เต็มไปด้วยประชาธิปไตย เหตุการเมืองเปลี่ยนเร็ว เปิดใจ “คดีฮั้ว สว.” บอกการประวิงเวลาคือการไม่ยุติธรรม
นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้สำนักงาน กกต.สำหรับการจัดการเลือกตั้งและการออกเสียงประชามติ โดยกล่าวช่วงหนึ่งในพิธีเปิด ถึงการเลือกตั้งทั่วไป ว่า การเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล กรุงเทพมหานครและเมืองพัทยาในปี 2569 โดยไม่คิดว่าจะเร็วกว่านี้ แต่เมื่อการเมืองเปลี่ยนเร็วมีสัญญาณว่าจะได้เลือกตั้งในปี 2569 และจะมีการออกเสียงประชามติ จึงเป็นปีที่เต็มไปด้วยประชาธิปไตย เต็มไปด้วยพลังของประชาชนที่จะแสดงออกถึงความเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยผ่านกระบวนการการเลือกตั้ง
ขณะที่สำนวนคดีฮั้ว สว.หลายคนมีคำคำถามว่า กกต. ทำอะไรอยู่ถึงยังไม่แล้วเสร็จ จริงๆ ใครก็อยากได้ความยุติธรรม แต่การประวิงเวลาคือความไม่ยุติธรรม ทั้งนี้ความยุติธรรมประกอบด้วย 4 เรื่อง ประกอบด้วย “ขั้นตอน เวลา ข้อเท็จจริง และการปฎิบัติ” ซึ่งสำนักงาน กกต.ได้คำนึงถึงและปฏิบัติเช่นเดียวกับการพิจารณาสำนวน สว. เพียงแต่สำนวนนี้แตกต่างจากสำนวนอื่นที่มีหลายชั้น มีความซับซ้อนเป็นใหญ่สำนวนใหญ่ต้องใช้เวลา
ดังนั้นข้อเท็จจริงต้องครบถ้วนให้สิ้นกระแสความจนมีหลักฐานที่พอในการวินิจฉัย การรวบรวมพยานหลักฐานก็เป็นส่วนหนึ่งของความยุติธรรม การให้โอกาสการปฎิบัติอย่างเป็นธรรมก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของความยุติธรรมเช่นกัน สำหรับสำนวน สว.อยู่ในชั้นการพิจารณาของเลขาธิการอีก 4-5 วัน คงจะส่งไปที่คณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้ง ก่อนจะถึงชั้นการพิจารณาของ กกต. เราไม่สามารถตัดตอนขั้นตอนใดขั้นตอนได้ เนื่องจากเป็นขั้นตอนที่เรากำหนดไว้ ให้โอกาสทุกคนได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม
ในชั้นของเลขาธิการมีหน้าที่ในการตรวจสำนวนว่าคณะอนุกรรมการวินิจฉัยฯ ทำถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ หากทำไม่ครบถ้วนก็ต้องสั่งสอบเพิ่ม เพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม แต่เนื้อหาสำนวนไม่สามารถบอกได้ว่ารวบรวมพยานหลักฐานได้แค่ไหนอย่างไร ส่วนที่เป็นข่าวอาจเป็นเรื่องเล่า แต่ในสำนวนตอนนี้แม้แต่ กกต.ก็ยังไม่มีใครทราบ ปัจจุบันสำนวนคดีฮั้ว สว.จะครบเวลาในวันที่ 16 ก.ย. เหลือชั้นคณะอนุกรรมการวินิจฉัยฯ มีเวลาไม่เกิน 90 วัน จากนั้นเป็นชั้นของกรรมการการเลือกตั้ง
ส่วนการเตรียมการเลือกตั้งและการออกเสียงประชามติ มั่นใจในระดับหนึ่งว่าปี 2569 จะมีการเลือกตั้งทั่วไปตามที่ฝ่ายการเมืองได้ให้สัญญาประชาคมไว้ รวมถึงการออกเสียงประชามติ เราเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา เราทำการเลือกตั้งมาโดยตลอด รูปแบบการเลือกตั้งจะไม่ต่างกันมาก คงไม่เป็นปัญหาในการเตรียมการ แต่อาจจะแตกต่างออกไปหากมีการกำหนดให้วันออกเสียงประชามติตรงวันเลือกตั้ง สส.
สำนักงาน กกต. ก็มีความพร้อมและได้ร่างระเบียบ ออกเสียงประชามติและวันเลือกตั้งให้เป็นวันเดียวกัน รอการบังคับใช้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพราะอำนาจในการออกเสียงประชามติเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีโดยหารือกับ กกต.ว่าจะตรงกันหรือไม่หากตรงกันกับวันเลือกตั้ง เรามีความพร้อมที่จะทำ
ส่วนประสิทธิภาพในการเลือกตั้ง สำนักงาน กกต. ยืนยันว่าจะทำการแข่งขันให้มีความหมายในการเลือกตั้ง ความจริงการเลือกตั้งมีความหมายในตัว การที่ประชาชนจะได้แสดงเจตจำนงให้มีผู้บริหารและมีตัวแทนทำหน้าที่ ทั้งนิติบัญญัติและบริหาร หากคำนึงถึงตรงนี้การเลือกตั้งจะเป็นทางออกสังคม หน้าที่เราคือการทำการเลือกตั้งให้เป็นที่ยอมรับ วันไหนที่การเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับได้ การเมืองจะนิ่ง ทำให้บ้านเมืองเราเดินต่อไปได้อย่างเรียบร้อย
ทุกการเลือกตั้งอาจจะเป็นปัญหาอยู่บ้าง โดยเฉพาะปัญหาทางธุรการ แต่การเลือกตั้งครั้งหน้าขอรับปากว่าจะไม่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการอำนวยความสะดวกของประชาชนในการออกเสียงล่วงหน้าที่มีการแออัดในบางแห่ง เอกสารต่าง ๆ ที่จะต้องดำเนินการให้ถูกต้อง สำนักงาน กกต.ได้ซักซ้อมว่าไม่ให้เกิดขึ้น รวมทั้งการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในหน่วยเลือกตั้ง การนับคะแนน หากต้องตรงกับวันออกเสียงประชามติจะวางแผนให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
”การเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคน ผมในวันนั้น ก็เป็นประชาชนคนหนึ่ง สื่อมวลชนก็ต้องไปเลือกตั้ง ฝ่ายการเมืองและผู้สมัคร หากไม่ได้รับความร่วมมือจากทุกคน และไม่เห็นความสำคัญกับการเลือกตั้ง หวังแค่ให้ชนะ ปัญหาคงไม่ได้รับการแก้ไข“ นายแสวง กล่าว
นายแสวง ย้ำว่าอยากให้ทุกคนเห็นความสำคัญและร่วมมือหาทางออกให้กับประเทศโดยผ่านการเลือกตั้ง เป็นวิธีการที่ถูกต้องเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สำนักงาน กกต.จะทำการเลือกตั้งที่เสมือนการแข่งขันให้ออกมาดีที่สุด เป็นที่ยอมรับมากที่สุด.-314.-สำนักข่าวไทย