พรรคเพื่อไทย 18 เม.ย.- “ภูมิธรรม” ย้ำเพื่อไทยพร้อมที่สุดอาสาตัวเป็นเครื่องมือให้ประชาชนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง ด้าน “แพทองธาร” ยอมรับกระแสถาโถมในออนไลน์ ยืนยันผู้สมัครลงพื้นที่สม่ำเสมอ กำชับถ้าอยากเข้าสภาฯ ต้องไปพบ ปชช.
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงยุทธศาสตร์การรณรงค์เลือกตั้งโค้งสุดท้ายพรรคเพื่อไทย ว่า ตั้งแต่ยุบสภามาจนถึงวันนี้ พรรคทำงานมาเกือบหนึ่งเดือนหรือเกือบครึ่งทางของการเลือกตั้ง เหลือเวลาอีก 20 กว่าวันจะถึงวันที่ประชาชนตัดสินใจ ซึ่งพรรคเพื่อไทยเริ่มทำงานมาตั้งแต่กรกฎาคม 2565 จะเห็นได้ว่าพรรคเพื่อไทยทำมาอย่างเป็นระบบ วางยุทธศาสตร์จากการรับทราบปัญหาของประชาชนที่เกิดจากการบริหารงานที่ล้มเหลวของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
“เราก็ต้องพิสูจน์ตรงนี้ให้เกิดความเปลี่ยนแปลง จึงเสนอความพร้อมที่จะเข้าไปสู่กระบวนการเปลี่ยนแปลงเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน ทิศทางที่แรกคือ เปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ คนแรก คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นตัวแทน เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของพรรคเพื่อไทย ซึ่งตอนเริ่มต้นก็ยังไม่มีคนรู้จักมากนัก โพลเริ่มต้นได้ประมาณ 8% จากนั้นมาคะแนนนิยมได้เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 40% ถือว่าเป็นการสะท้อนความต้องการของประชาชนที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงโดยพรรคเพื่อไทย จากนั้นเปิดแคมเปญสำคัญ ชูคำขวัญ บ้านหลังใหญ่หัวใจเดิม” รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว
นายภุมิธรรม กล่าวว่า การเปิดตัวแคนดิเดตครั้งที่สองคือ นายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งเป็นนักบริหารธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ และมีศักยภาพ ความสามารถพร้อมที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจ จึงเสนอแนวทาง “คิดใหญ่ทำเป็น เพื่อประชาชนทุกคน” ถ้าคิดไม่ใหญ่ก็เอาไม่อยู่ เพราะปัญหามันรุนแรง และต้องทำเป็นด้วย ถ้าทำไม่เป็นก็จะเหมือน 8 ปีที่ผ่านมา ช่วงที่สาม เป็นการโชว์ความพร้อมการเปิดตัวผู้สมัคร 400 เขต ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ถือว่าเป็นพรรคการเมืองที่มีความพร้อมมากที่สุดและเราก็เสนอแคนดิเดตนายกฯ ถึง 3 คน ซึ่งมีคุณภาพสามารถตอบสนองปัญหาประชาชนได้ มีความพร้อมทุกด้านที่จะเข้ามาบริหารประเทศและมีความหลากหลายที่แตกต่างเป็นที่ยอมรับ
“น.ส.แพทองธารได้รับการยอมรับจากประชาชนในชนบท คนรุ่นใหม่ที่มีความต้องการเทคโนโลยีทันสมัยนายเศรษฐาเชี่ยวชาญการบริหารจัดการการแก้ปัญหาเศรษฐกิจก็มีความรู้ด้านเศรษฐกิจที่จะเข้ามาแก้วิกฤติต่าง ๆ ได้ใช้ นายชัยเกษม นิติสิริ เป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับในวงราชการโดยเฉพาะกระบวนการยุติธรรม ทุกคนยอมรับข้าราชการอาวุโสใจซื่อมือสะอาดซึ่ง 3 แคนดิเดตสามารถสะท้อนความต้องการของกลุ่มคนต่าง ๆ โดยทั้งสามคนทำงานร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพไม่ว่าใครจะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนอีกสองคนที่ไม่ได้เป็นก็จะคอยซัพพอร์ตการทำงาน วันนี้พรรคเพื่อไทยมีความพร้อมที่สุดที่จะอาสาตัวเป็นเครื่องมือและกลไกให้ประชาชนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง” รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว
ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงการรณรงค์หาเสียงของพรรค ว่า มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามช่องทางโซเชียลของพรรคทั้งเรื่องผู้สมัครไม่ลงพื้นที่ หาตัวผู้สมัครไม่ได้ ป้ายหาเสียงยังน้อยเกินไป ซึ่งทางพรรครับฟังทุกความเห็นและส่งทีมงานไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น พบว่าผู้สมัครส.ส.ยังลงพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ อาจจะมีส่วนน้อยที่ยังลงพื้นที่ไม่มากพอ แต่นโยบายต่าง ๆ ที่ประชาชนรับรู้ก็มาจากผู้สมัครที่ไปแนะนำและพูดคุยกับประชาชน
“ขอย้ำว่าผู้สมัครที่อยากเข้าสภาฯ ก็ต้องลงพื้นที่พบปะประชาชน ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้พรรคเพื่อไทยเลนส์สไลด์ ส่วนป้ายหาเสียง ยืนยันว่ายึดตามกฎ กกต. ซึ่งกฎนี้ค่อนข้างจำกัด เพราะพรรคใหญ่มักถูกเพ่งเล็ง แต่อีกไม่กี่วันนี้จะมีป้ายนโยบายชุดใหม่ อธิบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท และรายได้ขั้นต่ำครอบครัวละ 20,000 บาท ออกมาเพิ่ม ขอให้ประชาชนรอติดตามรายละเอียดว่าจะทำได้อย่างไร ส่วนรายละเอียดเชิงลึก นายเศรษฐา ได้อธิบายผ่านช่องทางต่าง ๆ แล้ว และสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่เพจเฟซบุ๊กของพรรค ขอให้ประชาชนหนักแน่นกับพรรคเพื่อไทย อย่าเพิ่งแผ่วแรงลงไป พร้อมใจเลือกพรรคเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตประชาชนอย่างแท้จริง ประชาชนอยู่ดีกินดี และเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น” น.ส.แพทองธาร กล่าว.-สำนักข่าวไทย