“ทักษิณ​” บอก​พูดกันไปเรื่อย​ หลังถูกปูดขู่พรรคร่วมพ้นรัฐบาล

พรรคเพื่อไทย 8 เม.ย.-“ทักษิณ​” บอก​พูดกันไปเรื่อย​ หลังถูกปูดขู่พรรคร่วมพ้นรัฐบาลหากค้านเอ็นเตอร์เทน​เมนต์คอมเพล็กซ์​ รับ​เคยคุยถามเพียงความเห็น​ มอง​ สว.มีปัญหาเพราะขัดแย้ง ก.ยุติธรรม​ เป็นเกมต่อรองการเมือง ลั่น​หากจะดันก็ไปต่อได้​ เพราะรัฐบาลหน้าก็เพื่อไทย เหน็บบางพรรคเคยเชียร์แต่พอเป็นฝ่ายค้านก็ค้านทุกเรื่อง​

นายทักษิณ​ ชินวัตร​ อดีตนายกรัฐมนตรี​ กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวว่ามีการกำชับให้พรรคร่วมรัฐบาลให้เห็นชอบในวาระรับหลักการ การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ หากไม่สนับสนุนจะขับออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ว่า เป็นการพูดกันไปเรื่อย ไม่มีการพูดถึง แต่ยอมรับว่ามีคุยกับน้องๆที่เจอกัน ว่าเป็นอย่างไรซึ่งเป็นเพียงการถามความคิดเห็น ไม่มีเรื่องข่มขู่ว่าใครไม่สนับสนุนแล้วต้องพ้นจากพรรคร่วมรัฐบาลไม่มี และที่ผ่านมามีการหารือทั่วไปกับพรรคร่วมรัฐบาลเป็นเพียงการถามความคิดเห็นของแต่ละคนก็ไม่ได้ขัดข้อง​ วันนี้นายกรัฐมนตรีก็ได้บอกว่าจะพิจารณาเรื่องเร่งด่วนทางเศรษฐกิจก่อน คือเรื่องการขึ้นภาษีของสหรัฐอเมริกา ต้องนำเรื่องนี้มาคุยกันเพราะประชาชนอยากรู้เรื่องนี้ ความสำคัญต้องลดลงไป พร้อมกับระบุไม่ได้ยกเลิกเพียงแต่ขอเลื่อนการพิจารณาไปก่อน


ส่วนการที่มีพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรคทำให้การร่างกฎหมายดังกล่าวยากหรือไม่ นายทักษิณ​ กล่าวว่า​ การมีพรรคร่วมมากก็นานาจิตตัง เราไม่สามารถชี้ให้ไปทางเดียวกันได้ ต้องอธิบายให้เขาเข้าใจ แต่ก็ไม่เหนือวิสัย ซึ่งนายกรัฐมนตรีเองก็คุยกับพรรคร่วมรัฐบาลบ่อยๆ ก็น่าจะคุยกันรู้เรื่อง

ส่วนมีการตั้งข้อสังเกตว่ามีการวางตัวผู้ที่จะได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการสถานบันเทิงครบวงจรไว้ล่วงหน้าแล้วนั้น นายทักษิณ​ ยืนยัน​ว่าไม่มี ต้องมีการประมูลอย่างโปร่งใส มีกรรมการจากภายนอกวางไว้ จึงทำไม่ได้ ไม่มีใครสามารถจัดสรรได้นอกจากมีการประมูล ก่อนย้ำว่า ไม่มีคำว่ากาสิโน มีแต่คำว่า เอ็นเตอร์เทนเมนท์​คอมเพล็กซ์​ กาสิโนเป็นเพียงสิ่งเล็กๆในนั้น​ เพราะหลายอย่างที่เราอยากมีก็มีไม่ได้ ต้องให้เอกชนมาลงทุน เช่น ฮอลล์ หรือ​ อารีน่า จัดคอนเสิร์ต​ คอนเสิร์ตหรือสวนสนุกขนาดใหญ่​ที่จะเข้ามาลงทุน เราต้องการการลงทุนและการจ้างงานรวมไปถึงนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น และต้องการภาษีอย่างถูกต้องโครงการนี้เป็นการพัฒนาประเทศ ตามปกติไม่มีอะไรซ่อนเร้น


“อย่าว่าเราขี้อิจฉาริษยากัน มองคนนั้นคนนี้ได้ คนที่เห็นด้วยเยอะแต่เงียบ ที่ไม่เห็นด้วยแล้วออกมา บางครั้งถูกชี้นำในทางที่ผิด เช่น ไปเปรียบเทียบกับบ่อน ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งตรงนั้นเป็นกาสิโนจริงๆ เพราะไม่มีเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์เลย​ เราไม่ได้ทำแบบนั้น ถ้าเราทำแบบนั้น ประเทศก็พัง” นายทักษิณ ระบุ

นายทักษิณ​ ยังกล่าวว่า​ อย่าไปหวั่นไหวหากคิดว่าทำในสิ่งที่ถูกต้อง วันนี้รัฐบาลต้องอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ ไม่ต้องอะไรบางพรรคเคยเห็นด้วยเมื่อก่อน เชียร์เต็มที่มีนโยบายพรรค แต่วันนี้ไม่เห็นด้วยแล้ว คือ จุดยืนไม่มี มีอย่างเดียวว่าเป็นฝ่ายค้านต้องค้าน เป็นฝ่ายรัฐบาลต้องเชียร์ แบบนี้ไม่ได้

ส่วนจะต้องมีการทำความเข้าใจกับฝ่ายค้านด้วยหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่าต้องพูดกันด้วยเหตุผล นี่คือประชาธิปไตย ใครอยากจะค้านก็ค้าน​ แต่ในที่สุด ก็ต้องพูดคุยกันด้วยเหตุผล​ พร้อมยกตัวอย่างสมัยก่อนเพื่อไทยแข็งแรงจะตาย แต่ถูกค้านเรื่องการซื้อลิเวอร์พูล ซึ่งวันนั้นลิเวอร์พูลถูกจะตาย วันนี้สู้ไม่ได้​


เมื่อถามถึงตัวแปรหลักทั้ง​ พรรคภูมิใจไทยและรวมไทยสร้างชาติ ที่ไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายดังกล่าว​ นายทักษิณ​ กล่าวว่า​ บางคนก็เห็นด้วยครึ่ง​ ไม่เห็นด้วยครึ่ง ไม่เป็นไรถ้าเมื่อถึงเวลาที่ต้องเสนอกฎหมาย​ ก็ต้องเสนอ โหวตรัฐบาลก็ผ่าน เพียงแต่รัฐบาลไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งเล็กๆน้อยๆ ระหว่างพักร่วมรัฐบาล

ส่วนที่มีการวิเคราะห์กันว่าพรรคเพื่อไทย มีการยื่นหมูยื่นแมวกับพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อให้ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว นายทักษิณ ยืนยันว่า ไม่มีหมู​ ไม่มีแมว

เพื่อนถามว่าการที่พิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวล่าช้าจะทันกับอายุของรัฐบาลเพื่อไทยหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า​ เราก็วางไว้ถ้าไม่ทันรัฐบาลหน้ามาทำต่อได้​ ขั้นตอนกระบวนการเราก็คาดหวังว่า อาจจะไปช้าที่ชั้น สว.

ส่วนถ้ารัฐบาลหน้าไม่ใช่พรรคเพื่อไทย กฎหมายนี้จะถูกตีตกหรือไม่ นายทักษิณยืนยั นอย่างมั่นใจว่า​ รัฐบาลหน้าก็พรรคเพื่อไทย​ ซึ่งในส่วนของ สว. หากไม่เห็นด้วยก็มีเวลา 180 วัน​

เมื่อถามต่อว่าหากร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านแล้ว​ สว.จะยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ​ หรือ​ ป.ป.ช.​ จะต้องทำความเข้าใจกับ สว.หรือไม่ นายทักษิณ​ ระบุว่า

“วันนี้ปัญหามันเกิดขึ้นระหว่างสว.กับกระทรวงยุติธรรม ก็เลยเป็นปฏิกิริยา เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้อง Action หรือ Reaction”

ส่วนมองว่าเป็นเกมการเมืองหรือไม่ นายทักษิณ​ ระบุว่า​ พวกนักการเมืองมันก็อยู่กับการเมืองทั้งนั้นแหละ​ อย่างไรก็หนีการเมืองไม่พ้น​ เราอยู่บนพื้นฐานการตั้งใจดีให้กับบ้านเมือง ไปแค่ไหนก็แค่นั้น ไปได้ก็คือไป​ ไปไม่ได้ก็คือไม่ไป

นายทักษิณ ยังกล่าวว่า หากประเมินจากสถานการณ์ปัจจุบัน ถ้าจะให้ไปได้ก็ไปได้ แต่เราก็อยากให้เป็นความพอใจและสมัครใจของทุกฝ่าย ไม่อยากฝืนความรู้สึก แน่นอนเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ก็ต้อง มีคนไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมดา แต่เราก็ตั้งใจทำให้บ้านเมือง ไม่อยากเห็นบ่อนเล็กบ่อนน้อยเต็มไปหมด​ พร้อมยืนยันว่ามีระบบตรวจสอบคนที่จะเข้าไปเล่นผ่านระบบ การยืนยันตัวตนที่เพิ่มความปลอดภัยทางการเงิน​ หรือ​ KYC ต้องรู้ประวัติและที่มาของเงิน ถ้าไม่มีอาชีพไม่มีรายได้ ก็ไม่ให้เข้า อย่างตนก็เข้าไม่ได้ เพราะเป็นนักการเมืองเขาก็จะไม่ให้เล่น ขณะเดียวกันหากมีเงินแล้วเข้าไปเล่นเป็นประจำ จนติด การพนันก็จะถูกนำไปบำบัด ไม่ใช่ปล่อยเลอะเทอะเหมือนในอดีตที่ไม่ดูแล มันเป็นระบบใหม่อยากให้ทุกคนเข้าใจ.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]