กรุงเทพ 2 ม.ค. – “อนุทิน” ชี้รัฐบาลหน้ามีเสถียรภาพต้องได้ ส.ส.เกิน 251 คน เชื่อ ส.ว.ไม่กล้าโหวตนายกฯ สวนความต้องการประชาชน แต่หากดื้อรั้น ฝ่ายบริหารจบตั้งแต่เสนอกฎหมายงบประมาณปี 67 ในสภาฯ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงเสถียรภาพรัฐบาลใหม่ หลังการเลือกตั้งปี 2566 ควรเป็นอย่างไร ในขณะที่ ส.ว. ยังมีส่วนในการเลือกนายกรัฐมนตรีอยู่ ว่า แม้ ส.ว. ยังมีส่วนในช่วงขั้นตอนเลือกนายกรัฐมนตรี หากได้นายกรัฐมนตรีมาแล้ว หลังจากนั้นการดำเนินการใดๆ ในสภาผู้แทนราษฎรจะเป็นเรื่องของรัฐบาล โดยตัวนายกรัฐมนตรีกับสภาผู้แทนราษฎร
ทั้งนี้ สิ่งสำคัญหลักการนั้นจะอยู่กับจำนวน ส.ส. ที่แต่ละพรรคการเมืองรวบรวมได้ว่าจะเกินกึ่งหนึ่ง หรือจำนวน 251 เสียง จาก 500 เสียง ได้หรือไม่ ซึ่งเราต้องเชื่อการตัดสินใจของประชาชน ต้องให้เกียรติประชาชนเป็นสำคัญ และมองว่าในระบอบประชาธิปไตยก็เป็นหลักการที่แฟร์ๆ กับประชาธิปไตย รัฐบาลต้องมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งถึงจะเป็นรัฐบาล และทำงานได้และมั่นคง เพราะถ้าไม่เกินกึ่งหนึ่ง เมื่อเปิดสภาฯ แถลงนโยบาย หรือหากมีการออกกฎหมายสำคัญ ซึ่งดูแล้วในรัฐบาลชุดหน้าอาจจะมีกฎหมายสำคัญ กฎหมายการเงิน เช่น ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ที่จะเข้าสู่การพิจารณาก็ได้ในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย.66 ถ้ารัฐบาลมีเสียงไม่เกินกึ่งหนึ่งก็อาจจะจอดตั้งแต่ตรงนั้นแล้ว ไม่ต้องรอไปถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
“ผมมั่นใจว่า ส.ว.ก็ต้องมีกระบวนการความคิดว่า เขาจะสนับสนุนใครเป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าความต้องการของประชาชนชัดเจน เขาคงต้องทำตามความต้องการของประชาชน นี่เป็นหลักที่คนที่เป็นนักการเมืองหรือเกี่ยวข้องกับงานการเมืองต้องยึดถืออยู่แล้ว” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า ตนขอยกตัวอย่างในสมัยรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หลังการเลือกตั้งปี 2562 ท่านนายกรัฐมนตรีเข้ามาด้วยเสียง 253 เสียง ไม่ว่าใครจะพูดอะไรก็ตา ท่านมีความชอบธรรม เพราะท่านได้รับเสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่ง และรัฐบาลก็อยู่มาได้จนครบสมัย แต่รัฐบาลก็ต้องมีความสามารถในการบริหารบ้านเมืองด้วย จนอยู่พ้นมาได้เกือบ 4 ปีแล้ว. – สำนักข่าวไทย