นายกฯ ลงพื้นที่ จ.นครปฐม เปิดงานมหาธีรราชเจ้ารำลึก

นครปฐม 26 ธ.ค.- “พล.อ.ประยุทธ์” ลงพื้นที่ จ.นครปฐม ครั้งแรก หลังประกาศรับแคนดิเดต รทสช. เปิดงานมหาธีรราชเจ้ารำลึก ขณะ “เสธ.แก้ว” ส.ส.ปชป.ร่วมต้อนรับ ท่ามกลางกระแสข่าวย้ายพรรค พบป้ายหาเสียง ‘พีระพันธุ์’ รอบองค์พระปฐมเจดีย์


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานพิธีเปิดงานมหาธีรราชเจ้ารำลึก มหกรรมวัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม ครั้งที่ 19 ประจำปี 2566 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 ธ.ค.65 ถึง 3 ม.ค.66 โดยมีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายเอกนัฐ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ และนายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ กรรมการบริหารพรรค รทสช.เข้าร่วมด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ เดินขึ้นสู่พระวิหารพระร่วงโรจนฤทธิ์ฯ เพื่อวางพวงมาลา พร้อมจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระร่วงโรจนฤทธิ์ฯ พระพุทธรูปปางประสูติ และบูชาพระป่าเลไลยก์ ก่อนจะวางพวงมาลัยถวายราชสักการะพระบรมราชสรีรางคาร รัชกาลที่ 6 และพระสรีรางคารพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี และ พระสรีรางคารสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี


นายกรัฐมนตรี รับชมการแสดงทางวัฒนธรรม การแสดงชุด “ระบำภูษาปูรณะฎาศรีทราวดี” และการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ชุด “พระรามตามกวาง”

โดยนายกรัฐมนตรี​ กล่าวว่า วันนี้ได้มาเยี่ยมเยือนอีกครั้งหนึ่ง มีความผูกพันกันอยู่แล้วโดยเฉพาะพระโรจนฤทธิ์ที่เคารพนับถือกันทั้งจังหวัด ในฐานะที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี ของประเทศไทยในเวลานี้​ ทุกคนในรัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่​ที่จะดูแลทุกจังหวัดให้มีความก้าวหน้า มีความเท่าเทียมแต่ทั้งหมดก็ต้องขึ้นอยู่กับศักยภาพที่จะพัฒนาไปได้อย่างไรร่วมกับรัฐบาลในทุกมิติ ขอให้ทุกคนระมัดระวังตัวให้ดีที่สุด

อย่างไรก็ตาม ขอให้มีความสุข​ ที่ผ่านมารัฐบาลได้เน้นย้ำการส่งเสริมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวมาโดยตลอด ในพื้นที่มาต่อยอดสร้างสรรค์ให้เกิดการท่องเที่ยวด้านศิลปวัฒนธรรม​ ส่ง​เสริมให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ​ ในพื้นที่เป็นการสร้างงานสร้างรายได้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัด นับว่าเป็นประโยชน์กับประชาชนในพื้นที่ทุกคนต้องเอื้อเฟื้อ​เผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน​ ต้องรักสามัคคีกัน นี่คือประเทศไทยของเราอันเป็นที่รักยิ่ง​ เป็นดินแดงแห่งขวานทอง เราก็เป็นส่วนหนึ่งในขวานเล่มนี้​ ทุกคนต้องรักต้องสามัคคี ต้องอยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภาร นี่เป็นสิ่งที่ฝากไว้ ความรักความสามัคคีและความยึดมั่นในแกนหลัก 3 ประการคือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สิ่งที่เรามีทุกวันนี้เพราะคนไทยด้วยกันคือ สถาบัน ต้องสืบสานรักษาต่อยอดไปสู่ลูกหลานของเรา


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่เราจะทำอะไรที่เจริญเติบโตขึ้น ก็เหมือนการปลูกต้นไม้​ รักษาไว้ไม่ให้ถูกแมลงกัดกิน ปลอดภัยจนตาย​ เราต้องดูแล คนเราก็เหมือนกันลูกหลานเราทั้งหมด​ นั่นก็คือคนที่เราต้องฟูมฟักทะนุถนอมเลี้ยงดูและสั่งสอน เด็กนั้นคือผ้าขาวที่สะอาด เป็นไหมเป็นฝ้ายที่สะอาด อย่าทำให้เปรอะเปื้อน โดยอะไรก็แล้วแต่ เมื่อไปสู่การถักทอแล้วก็จะเป็นผืนผ้าที่มีความสวยงามมีความหลากหลาย เช่นเดียวกับลายของนครปฐม นี่แหละคือความรักทางวัฒนธรรมของเรา เพราะฉะนั้นอย่าทำร้ายกันเลย สิ่งดีๆที่มีอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นประเพณีวัฒนธรรมความรักในครอบครัว ในท้องถิ่น ในชุมชน

“รัฐบาลพยายามอย่างยิ่งยวดในการทำให้บ้านเมืองมีเสถียรภาพ เห็นว่าหลายๆ อย่างก็ดีขึ้น ตนไม่อาจกล่าวอ้างว่าดีทั้งหมด แต่หลายอย่างก็ฟื้นคืนมา เราอาจจะโชคดีที่พวกเราร่วมมือกันทำหลายๆเรื่องด้วยกัน หลายประเทศก็ทำไม่ค่อยได้แต่เราทำได้ดี ได้รับคำชื่นชม ไม่ได้บอกว่าเป็นเพราะนายกฯ แต่เป็นเพราะเราทุกคน เมื่อยามศึกเรารบ ยามสงบเราพัฒนา” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ฝากคนไทยทุกคนไว้พยายามที่จะเข้าใจ มีทัศนคติที่ดีงามต่อประเทศของเรา อย่าให้ประเทศต้องบอบช้ำไปกว่านี้อีกเลยวันนี้ก็มีความพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะทำให้ทุกอย่างและเดินหน้าไปสู่อนาคต ขอฝากความหวังไว้กับทุกคน วันนี้ประทับใจในการต้อนรับของคนทุกจังหวัด นี่แหละคือประเทศไทย ประเทศไทยมีคนหลายรุ่นหลายยุคหลายสมัยหลายช่วงอายุ หลายอาชีพ เราจะต้องรักกัน เผื่อแผ่แบ่งปันกันจิตสาธารณะ ทำใจให้เป็นกุศล ขออย่าเสียเวลากับความขัดแย้ง และทำในสิ่งที่มีประโยชน์

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เปิดงานโดยการลั่นฆ้องชัย 3 ครั้ง และร่วมถ่ายภาพหมู่เพื่อเป็นที่ระลึก ก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะเยี่ยมชมนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมพบปะประชาชน และผู้ประกอบการร้านค้าภายในงาน

โดยนายกนัฐมนตรี เยี่ยมชมและทักทาย บรรดาร้านค้าที่มาออกร้านขายของ ที่บริเวณรอบองค์พระปฐมเจดีย์อย่างอารมณ์ดี โดยระหว่างเดินนายกฯ ได้แวะชิมอาหารหลายอย่าง อาทิ เกาลัด รถด่วนทอด เขียดทอด และลูกชิ้นปิ้ง พร้อมชมว่า “น้ำจิ้มอร่อย ขอให้ขายให้หมด กินทุกอย่างที่พูดไม่ได้ตนกินหมด” จากนั้นก่อนขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับ นายกฯ กล่าว อวยพรปีใหม่ว่า ขอให้มีความสุขทุกคน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการเดินเยี่ยม ชมร้านค้าของนายกฯ และนายพีระพันธุ์ เป็นที่น่าสังเกตว่า นายเอกนัฐ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รทสช.  ไม่ได้ร่วมเดินด้วย แต่มารอส่งขึ้นรถที่ปลายทาง คาดว่าระมัดระวังสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

สำหรับการลงพื้นที่วันนี้นายกรัฐมนตรีและคณะสวมเสื้อลายเอกลักษณ์จังหวัดนครปฐม และใช้รถประจำตำแหน่ง ทะเบียน 4 กต 29 ตามปกติ ทันทีที่ลงจากรถมีประชาชนทั้งเด็กนักเรียนและผู้สูงอายุมารอให้การต้อนรับ โดยต่างตะโกนว่า “ลุงตู่สู้ๆ รักลุงตู่ ลุงตู่ forever”

ทั้งนั้ การลงพื้นที่ดังกล่าวของพลเอกประยุทธ์ ถือเป็นการประเดิมลงพื้นที่พบปะประชาชนนอกเวลาราชการ ที่จ.นครปฐม เป็นครั้งแรก ภายหลังจากประกาศตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โดยพื้นที่จ.นครปฐมเป็นพื้นที่ของ พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร หรือ เสธ.แก้ว ส.ส.นครปฐม เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีกระแสข่าวจะย้ายมาสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ มาระยะหนึ่งแล้ว ขณะที่ บริเวณรอบองค์พระปฐมเจดีย์ มีการติดป้ายโฆษณาหาเสียง ของพรรครวมไทยสร้างชาติ รวมไปถึงรูปของนายพีระพันธุ์ หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ระบุว่า สู้ให้ทุกปัญหา พึ่งพาได้ทุกเรื่อง สร้างความเท่าเทียม .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]