คุมสามีภรรยาฆ่า-เผาอำพรางเจ้าหนี้สาว ทำแผนฯ

นครปฐม 24 มี.ค. – ตำรวจนครปฐม คุมตัวสองสามีภรรยา ทำแผนฯ ลวงเจ้าหนี้สาวฆ่าโหด ก่อนหั่นศพแยกร่าง นำไปฝังดินและทิ้งน้ำ


ตำรวจนครปฐม คุมตัว น.ส.มิ้ว และนายเล สามีภรรยา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านของทั้งคู่ ซึ่งอยู่ในพื้นที่หมู่ 5 ต.ดอนรวก อ.ดอนตูม ภายหลังทั้งคู่สารภาพว่าฆ่าหั่นศพ น.ส.แอน ก่อนเผาอำพราง และฝังชิ้นส่วนศพไว้หลังบ้าน แต่มีบางชิ้นส่วนเอาไปโยนทิ้งน้ำ

พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ให้ข้อมูลว่า เริ่มแรกตำรวจแกะรอยจากเบาะแสที่ได้รับจากนายวีระ สามีของ น.ส.แอน ผู้ตาย ว่าคืนวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา ภรรยาบอกว่าจะออกไปทวงหนี้คนชื่อ มิ้ว และเล แต่ผ่านไปเกือบ 2 สัปดาห์ ตนเองไม่สามารถโทรติดต่อได้เลย มีแค่แชทที่ภรรยาเขียนมาบอกว่าช่วยโอนเงินเข้าบัญชีของมิ้วและเลให้หน่อย เพราะไปติดเงินทั้งคู่เอาไว้ ซึ่งนายวีระโอนไปให้ 8 ครั้ง เป็นเงิน 65,400 บาท แต่ทุกครั้งที่โอนเงินยังคาใจ จึงลองส่งรูปสถานที่แห่งหนึ่งไปถามภรรยาว่าจำที่นี่ได้ไหม แต่ภรรยาตอบไม่ได้ ทั้งๆ ที่เคยไปมาด้วยกัน ทำให้ตนเองร้อนใจ เอารูปและมือถือของภรรยาไปโพสต์ตามหา ทำให้คนที่รับซื้อมือถือเห็น ตัดสินใจเอามือถือมาส่งมอบให้ตำรวจ และชี้ยืนยันว่า น.ส.มิ้ว กับนายเล เอามือถือเครื่องดังกล่าวมาขาย


ตำรวจจึงขอหมายเข้าตรวจค้นบ้านของทั้งคู่ ทำให้พบรถจักรยานยนต์ของผู้ตายจอดอยู่ แต่ตอนนั้น น.สมิ้ว และนายเล อ้างว่า ผู้ตายนำรถจักรยานยนต์มาวางไว้เพื่อขอกู้เงิน และผู้ตายออกไปกับชายอื่น ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ แต่ด้วยความที่ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัด จึงยึดรถจักรยานยนต์ไว้ตรวจสอบ พร้อมแกะรอยเส้นทางการเงินของสามีผู้ตาย รวมถึง น.ส.มิ้ว และนายเล

การสืบสวนทำให้ทราบว่านอกจากเงินถูกโอนไปยังบัญชีของ น.ส.มิ้ว และนายเล ยังมีการโอนไปเข้าบัญชีบุคคลที่ 3 ซึ่งบุคคลที่ 3 นี้มีชื่อนามสกุลจริง ซ้ำกัน 12 คน ชุดสืบสวนจึงนำข้อมูลไปที่ธนาคาร ทำให้ทราบว่าบุคคลที่ 3 เป็นคนที่ น.ส.มิ้ว และนายเล เอามือถือของผู้ตายไปขายให้ และขายตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม หลังผู้ตายหายตัวไป 2 วัน

ทั้งนี้ เมื่อพบพิรุธหลายอย่างคาดว่ามีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับภรรยาของนายวีระแน่ ชุดสืบสวนจึงขอศาลออกหมายจับ น.ส.มิ้ว และนายเล พร้อมขอหมายค้นบ้านของทั้งคู่อีกครั้ง เมื่อตามจับกุม น.ส.มิ้ว และนายเล ที่หนีไป จ.เชียงใหม่ ครั้งนี้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพว่าร่วมกันฆ่า น.ส.ปิยะวรรณ ในห้อง จากนั้นใช้ผ้าห่มพันร่างผู้ตายอุ้มออกมาหลังบ้าน ก่อนจะทำการเผาและแยกชิ้นส่วนไปฝังข้างคอกวัวหลังบ้าน


เมื่อพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบพบชิ้นส่วนผม กระดูกเชิงกราน กระดูกคล้ายกระดูกหน้าผาก และกระดูกชิ้นเล็ก และชิ้นใหญ่อีกจำนวนมาก รวมถึงเสื้อผ้าที่ถูกเผา ส่วนกะโหลกศีรษะที่ผู้ต้องหาอ้างว่าเอาไปทิ้งบริเวณคลองชลประทานพะเนียงแตก เจ้าหน้าที่ยังคงหาไม่พบ

น.ส.มิ้ว และนายเล เปิดเผยว่า สาเหตุที่ฆ่ายืนยันว่าเป็นเพราะกลัวผู้ตายไปแจ้งความจับที่ตนเอง อ้างว่าสามารถช่วยเข้าทำงานในโรงพยาบาลนครปฐมได้ แต่ทำไม่ได้ ทำให้ถูกผู้ตายตามทวงเงินมาตลอด

สุดท้ายคดีนี้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน นอกจากโดนข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยปลอมเป็นบุคคลอื่น ยังโดนแจ้งเพิ่มอีก 2 ข้อหา คือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันอำพรางซ่อนเร้นศพ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-กลาง อากาศร้อนจัดบางพื้นที่

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคกลาง อากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศร้อนถึงร้อนจัด ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10%

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้