มรภ.นครศรีธรรมราช รุก พัฒนาท้องถิ่น

กทม. 14 ก.ย.- มรภ.นครศรีธรรมราช รุก พัฒนาท้องถิ่นชู “9โครงการ 53 กิจกรรม ยุทธศาสตร์ราชภัฏ ดันชุมชนเติบโตมั่นคงยั่งยืน”


รองศาสตราจารย์ดร.วิชัย แหวนเพชร นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช กล่าวว่ามหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช มีวิสัยทัศน์ชัดเจนว่า เป็นมหาวิทยาลัย เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ประทีปถิ่น ประเทืองไทย ก้าวไกลสู่สากล โดยเราต้องการนำองค์ความรู้ที่มีอยู่ในมหาวิทยาลัย อยู่ในคณะต่างๆ อยู่ในหลักสูตรต่างๆ  และอยู่ในตัวอาจารย์ นักศึกษา ต่างๆ ไปเป็นเครื่องมือ เพื่อไปใช้ในการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น ร่วมกับภาคีเครือข่าย เพราะเราอยากจะให้มหาวิทยาลัยเป็นที่พึ่งของท้องถิ่นอย่างแท้จริง


มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช (มรภ.นศ.) นับว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่ดำเนินการพัฒนาท้องถิ่นสามารถตอบโจทย์การพัฒนาตามเจตนารมณ์ พ.ร.บ. มหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ.2547 มาตรา 7 และมาตรา 8 ระบุว่า “ให้มหาวิทยาลัยเป็นสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นที่เสริมสร้างปัญญาของท้องถิ่น ที่สร้างพลังปัญญาของแผ่นดิน…..” โดยเฉพาะนโยบายสภามหาวิทยาลัย และ Vision แผนพลิกโฉมมหาวิทยาลัย Reinventing สู่การเป็น Smart University ฯลฯ อันจะนำพาไปสู่แนวทางในการกำหนดจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชนท้องถิ่นของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช 5 ประเด็นยุทธศาสตร์ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579)

นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช กล่าวอีกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ทรงให้ความสำคัญ มหาวิทยาลัยราชภัฎมานาน พระองค์ท่านพระราชทานปริญญาบัตรให้กับบัณฑิตไม่น้อยกว่า 30 ปี ด้วยพระมหากรุณาธิคุณและสายพระเนตรอันยาวไกลของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร ที่ทรงให้ความสำคัญกับการศึกษาและทรงมุ่งหมายให้การศึกษาสร้างคนไทย ให้มีคุณลักษณะ 4 ประการ ได้แก่ มีทัศนคติที่ดี และถูกต้อง มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคงเข้มแข็ง มีอาชีพ มีงานทำ และเป็นพลเมืองดีมีระเบียบวินัย อันเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นคงให้กับประเทศ และก็ทรงมองว่าการที่จะพัฒนาประชาชนให้กินดีอยู่ดีนั้น มหาวิทยาลัยราชภัฏมีส่วนสำคัญเพราะเห็นเป็นมหาวิทยาลัยที่ใกล้ชิดกับชุมชนมากที่สุด และพระองค์พระราชทานพระบรมราโชบาย ให้ท่านองคมนตรี โดยเฉพาะ ท่านพล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี ประสาน ตามตาม สนุน มหาวิทยาลัยราชภัฎมาโดยตลอด 


ด้านดร.สมปอง รักษาธรรม รองอธิการบดี รักษาราชการแทนอธิการบดี กล่าวว่า มหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช เรามีวิสัยทัศน์ชัดเจนว่าเราเป็นมหาวิทยาลัย เพื่อการพัฒนาท้องถิ่นโดยหลักคิดของมหาวิทยาลัย คือ เราต้องการนำองค์ความรู้ที่มีอยู่ในมหาวิทยาลัย อยู่ในคณะต่างๆ อยู่ในหลักสูตรต่างๆ  และอยู่ในตัวอาจารย์ต่างๆ ไปเป็นเครื่องมือ เพื่อไปใช้ในการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น ร่วมกับภาคีเครือข่าย ซึ่งตรงนี้เรามีเป้าหมาย และทิศทางที่ชัดเจนที่อยากจะให้มหาวิทยาลัยเป็นที่พึ่งของท้องถิ่นอย่างแท้จริง ทั้งนี้ ถือเป็นพันธกิจหลักในอันที่จะพัฒนาท้องถิ่นตามจุดเน้นของมหาวิทยาลัย ตามนโยบายสภามหาวิทยาลัย ตาม พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย ราชภัฏ พ.ศ. 2547 สอดคล้องกับพระราชปณิธาน พระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวในการส่งเสริมสนับสนุนและสนองงานตามพระราชดำริเพื่อพัฒนาท้องถิ่น ครอบคลุมมิติ สังคม การศึกษาเศรษฐกิจ และทรัพยากรสิ่งแวดล้อม ให้คนในชุมชนท้องถิ่นมีคุณภาพชีวิต ที่ดีขึ้นอย่างสมดุลยั่งยืน 

“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ทรงเข้าพระทัยลึกซึ้งถึงแก่นแท้ของมหาวิทยาลัยราชภัฏ ที่เป็นแหล่งความรู้วิชาการ เป็นปราชญ์แห่งการพัฒนาท้องถิ่นอันเป็นกลไกสำคัญที่จะสามารถเข้าถึงต้นตอแห่งปัญหาของพสกนิกรของพระองค์ในแต่ละท้องที่ และสามารถดำเนินการแก้ไข และพัฒนาอย่างมุ่งเป้าเพื่อให้ประชาชน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในทุกด้าน ผู้บริหารคณาจารย์ และบุคลากรของมหาวิทยาลัยราชภัฏ ซึ่งเป็น “คนของพระราชา ข้าของแผ่นดิน” จักมุ่งมั่นและตั้งใจปฏิบัติงานตามพระบรมราโชบายของพระองค์ท่านและตามข้อแนะนำของท่านองคมตรี ท่าน พล.อ. ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ ที่พระองค์ทรงมอบหมาย โดยคำนึงถึงบริบทที่แท้จริงของพื้นที่บริการ โดย จัดทำแผนงานโครงการและกิจกรรม อย่างพินิจ พิเคราะห์ ประเมินผลอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสื่อสาร บูรณาการ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ทั้งภายในภายนอก มหาวิทยาลัย ร่วมกันขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมายยกยกระดับคุณภาพการศึกษา และพัฒนาท้องถิ่นด้วยองค์ความรู้อย่างเต็มภาคภูมิ”

ขณะที่ผศ.ดร.ดำรงค์พันธ์ ใจห้าววีระพงศ์  รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราชเปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช ได้ดำเนินการโครงการยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฎเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ในปีงบประมาณ 2565 มีทั้งหมด 9 โครงการหลักประกอบด้วย 1.โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่น 2.การพัฒนาคุณภาพชีวิตและยกระดับรายได้ให้กับคนในชุมชนฐานรากพัฒนา 3.โครงการส่งเสริมความรัก สามัคคี  4.โครงการพัฒนาระบบฐานข้อมูลตำบลในจังหวัด (Big Data) 5.โครงการสนับสนุนสื่อวีดีทัศน์ประกอบการเรียนการสอน (DLTV)เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนครูให้กับโรงเรียนขนาดเล็ก  6.โครงการยกระดับการเรียนรู้ด้านการอ่านการเขียนและการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน 7.โครงการเสริมสร้างสมรรถนะภาคีเครือข่ายการวางแผนพัฒนาเชิงพื้นที่ระดับตำบล 8.โครงการพัฒนาความรู้ทักษะด้านภาษาอังกฤษ และ  9.โครงการพัฒนาระบบบริหารจัดการโครงการยุทธศาสตร์ ด้วยงบประมาณ 23 ล้านบาทเศษ

ในปีงบประมาณ 2565  มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ดำเนินการใน 9 โครงการหลัก53 กิจกรรมย่อย ใน 11 อำเภอ 25 ตำบล 74 ชุมชน/หมู่บ้าน 29 โรงเรียน ในจังหวัดนครศรีธรรมราช และตรัง ประชาชนได้รับประโยชน์จากการพัฒนาท้องถิ่นดังกล่าว จำนวน1,200 คน ผู้ประกอบการชุมชน จำนวน 60  ราย สินค้าชุมชน จำนวนกว่า 80 รายการ นักเรียน750  คน นักศึกษา จำนวนกว่า 5,700 คน โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ (อพ.สธ.) จำนวน 20 โครงการย่อย และโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจBCG (U2T for BCG) ประกอบด้วย 93 ตำบล ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดตรัง และจังหวัดกระบี่ และเกิดการจ้างงานประชาชน และบัณฑิตจบใหม่ กว่า 875 อัตรา เป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ครบกระบวนการอันนำไปสู่การยกระดับเศรษฐกิจฐานราก และคุณภาพชีวิตในพื้นที่จังหวัดที่รับผิดชอบ

นางจุไรวรรณ ศรีพุฒ ประธานวิสาหกิจกลุ่มสวนขันเกษตรยั่งยืน กล่าวว่า มหาวิทยาลัยราชภัฎเข้ามาหาชาวบ้านหลายคณะ มาสอนให้เรียนรู้ว่าจะต้องใช้สีธรรมชาติ ในการทำผ้าบาติก ซึ่งไม่เป็นอันตรายกับสิ่งแวดล้อมและไม่เป็นอันตรายกับผู้สวมใส่  รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์จากเดิมเราใช้ถุงกระดาษหรือถุงพลาสติก เหมือนท้องตลาดทั่วไป มีการเพิ่มลวดลายในถุงกระดาษเป็นรูปเจดีย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้เห็นว่ามาจากวิสาหกิจกลุ่มสวนขัน ซึ่งเราได้ความรู้มากมายเราตั้งเป้าว่าจะทำให้วิสาหกิจกลุ่มสวนขันเกษตรยังยืนที่ได้ 4 ดาว จะทำอย่างไรให้ได้ 5 ดาว   

นายทักษิณ หมินหมัน ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านแหลมโฮมสเตย์อำเภอท่าศาลาจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ถ้าถามว่ามหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราชช่วยอะไรเราบ้างตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ที่เราก่อตั้งกลุ่มวิสาหกิจขึ้นมา เราขับเคลื่อนมาส่วนหนึ่ง ได้จากมหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช ที่มาบริการงานวิชาการในเรื่ององค์ความรู้ต่างๆ การท่องเที่ยว เรื่องการบริหารจัดการโฮมสเตย์ การตั้งปลุกผลิตภัณฑ์และการวิจัยผลิตภัณฑ์ในชุมชนที่ประสบความสำเร็จล้วนแล้วแต่ มาจากมหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช ซึ่งสโลแกนของพวกเราก็คือคิดอะไรไม่ออก ให้บอกราชภัฏนครศรีธรรมราชเพราะที่นี่มีทุกอย่างที่ชุมชนอยากได้ และชุมชนจะเดินขับเคลื่อนกระบวนการไม่ได้หลักๆ คือชุมชนจะต้องตั้งขึ้นมาด้วยความเข้มแข็ง และได้องค์ความรู้จากนักวิชาการ รวมถึงงบประมาณจากหน่วยงานของภาครัฐมาส่งเสริมในสิ่งที่ชุมชนต้องการ และเข้าสู่กระบวนการต่อยอดไปเองโดยอัตโนมัติ 

นางปรารถนา กล้าอยู่ สมาชิกวิสาหกิจกลุ่มชุมชนท่องเที่ยวอนุรักษ์บ้านบางดี กล่าวว่า ตอนนี้ได้จัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนขึ้น ทำให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มมากขึ้นและได้นำผลิตภัณฑ์ในบ้านของเรามาแปรรูปเป็นสินค้าขายตามช่องทางออนไลน์ได้ ขอบคุณมหาวิทยาลัยราชภัฏเป็นอย่างยิ่งขอบคุณพระองค์ท่านที่ส่งให้มหาวิทยาลัยราชภัฏให้มาดูและชาวบ้านในชุมชนท้องถิ่นต่าง ๆแทนพระเนตรพระกรรณของพระองค์ท่าน น้อมนำลึกในพระบรมมหากรุณาธิคุณยิ่ง   

ด้านน.ส.ภัทรภร อินทรพฤกษา นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช กล่าวว่าขอบคุณมหาวิทยาลัยราชภัฏคนของพระราชา ทำให้เราได้เรียนรู้ ได้พัฒนา นำสิ่งที่ท่านถ่ายทอดจากนอกห้องเรียนนำไปสู่การปฏิบัติจริง แทนที่จะได้แค่องค์ความรู้ มันสามารถนำไปใช้ร่วมในการร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมนำ ร่วมประสาน ร่วมสร้างนวัตกรรม เพื่อสร้างความความแข้มแข็ง ให้กับชุมชนท้องถิ่น โดยเฉพาะชุมชนที่หนูเองได้เกิดที่นี้ และต้องการทำที่นี้ให้ดี พี่น้องหนู มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม และ บัดนี้หนูได้ทำมันแล้ว พี่น้องหนูในชุมชน รู้สึกว่ามันดีขึ้น ขอบคุณมหาวิทยาลัย ขอบคุณผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขอบคุณที่พระองค์ท่านไม่ทิ้งพวกเราชาวชุมชน เล็กๆ ที่ให้ราชภัฏมาดูแลชาวชุมชน มีรายได้ มีคุณภาพชีวิต มีการศึกษาที่ดีขึ้นมากๆค่ะ

มหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราชมีเป้าประสงค์เพื่อให้คนท้องถิ่นในชุมชนยืนด้วยลำแข้งตัวเอง พึ่งพาตัวเองได้อย่างมั่นคง พอเพียง รวมทั้งให้เกิดความยั่งยืนทั้งในมิติรายได้ ภายใต้อัตลักษณ์ของท้องถิ่น สอดประสานความร่วมมือ และมิตรภาพของชุมชน เป็น “มหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น” และยังก้าวดำเนินการต่อไป เพื่อสร้างและผลิตบุคคลควบคู่ไปกับการสร้างชุมชนท้องถิ่นให้แข้มแข็ง สมดุล ยั่งยืน ตามพระบรมราโชบาย อย่างแท้จริง เต็มภาคภูมิ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

บ้านห้วยเต่าปะทะเดือด! ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

สงขลา 11 ก.ย.- ปะทะเดือด! เจ้าหน้าที่ปิดล้อมไล่ล่ากลุ่มก่อความไม่สงบ บ้านห้วยเต่า ขณะที่รถหุ้มเกราะทหารตกเหวขณะเข้าไปช่วยเหตุปะทะ บาดเจ็บ 8 นาย เกิดเหตุปะทะที่บ้านห้วยเต่า อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ขณะที่ชุดจรยุทธกำลังลาดตระเวนในพื้นที่ได้พบกลุ่มคนร้ายประมาณ 4-5 คน ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นชุดของนายอุสมี ได้เปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่และหลบหนีเข้าไปในบ้านห้วยเต่า ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายของอำเภอสะบ้าย้อยและพื้นที่ใกล้เคียงได้ปิดล้อมพื้นที่ไว้แล้ว เจ้าหน้าที่ความมั่นคงจังหวัดชายแดนภาคใต้ บอกว่า นายอุสมีน่าจะมีกำลังอยู่ประมาณ 4-5 คน และเคลื่อนไหวในพื้นที่อำเภอสะบ้าย้อยเป็นหลัก ขณะที่รถหุ้มเกราะทหาร ร.5 พัน 3 ตกเหว ขณะเข้าไปช่วยเหตุปะทะ มีทหารบาดเจ็บ 8 นาย นำตัวส่ง รพ. นาทวี แล้ว ด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด พื้นที่บ้านห้วยเต่า แล้ว -สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือนภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ โดยภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

เร่งหาสาเหตุ จนท.สวนสัตว์ลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตรุมขย้ำ

10 ก.ย. – เหตุสลด จนท.สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งถูกสิงโตรุมขย้ำจนเสียชีวิต ขณะลงจากรถ ทางสวนสัตว์เร่งหาสาเหตุลงไปทำไม ทั้งที่เจ้าตัวทราบกฎของสวนสัตว์ดีอยู่แล้ว นักท่องเที่ยวอินเดียบันทึกเหตุการณ์ขณะเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตตัวแรกเข้ามากัดจากทางด้านหลัง แล้วลากไปให้เพื่อนสิงโตอีก 4 ตัว รุมขย้ำ โดยในคลิปเจ้าหน้าที่ไม่ได้ดิ้นขัดขืน และไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนนอนแน่นิ่งและถูกรุมกัดจนเสียชีวิต ขณะที่ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์สิงโตรุมขย้ำเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์ และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างนอกรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูรถทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้าเข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนรู้สึกแปลกใจอย่างมาก แต่เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาข้างหลัง ก่อนตะครุบเข้าทางด้านหลังเจ้าหน้าที่ทันที โดยเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าทีขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้นสิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ […]

เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำยังขาดให้เสร็จภายในคืนนี้

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมถนนสายบ้านทรายมูล-โพธิ์ตาก ซึ่งเสมือนพนังกั้นน้ำยัง หลังถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนขาด เมื่อช่วงเช้าวานนี้ โดยต้องปรับแผนนำเสาไฟฟ้ามาวางขวางเป็นแนวบิ๊กแบ็ก เพื่อให้แล้วเสร็จภายในคืนนี้. – สำนักข่าวไทย