fbpx

ทบ.ไม่ป้องคนผิด พร้อมเอาผิดทั้งวินัย-อาญา

กองทัพบก 9 พ.ย.-“ผบ.ทบ.” ยันกองทัพบกไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ ไม่ปกป้องคนผิด กรณี 2 พลทหารเสียชีวิต ย้ำทำร้ายทหารไม่ใช่นโยบาย พร้อมเอาผิดทั้งทางวินัย-อาญา


พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก(นขต.ทบ.) กรณีพลทหารพิชวัฒน์ เวียงนนท์ ผูกคอเสียชีวิตที่มณฑลทหารบกที่ 27 จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งครอบครัวยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิตและเข้าแจ้งความกับตำรวจกองบังคับการปราบปราม ว่า ทุกอย่างเป็นไปตามข้อเท็จจริงตามกฎหมาย กองทัพบกไม่ปกป้องผู้กระทำความผิด ใครผิดต้องรับผิดชอบ รับผลของการกระทำผิด ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมี 2 กรณี คือการผูกคอตายเสียชีวิตในที่ควบคุม

“กองทัพบกปฎิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ถือเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบตรงนั้นคือกองรักษาการณ์กับรองผู้บังคับการกองรักษาการณ์ ซึ่งต้องถูกลงทัณฑ์ทางวินัย แต่เรื่องของสาเหตุ ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องต้องสืบสวนสอบสวนและดำเนินการตามกฎหมาย ถ้าผิดก็ว่าไปตามผิด หากเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 คนหรือเจ้าหน้าที่ในส่วนนั้นมีความเกี่ยวข้อง ต้องรับผิดตามกฎหมาย ขณะเดียวกันกองทัพบกมีความรู้สึกเสียใจ เพราะไม่มีใครอยากให้ทหารเสียชีวิต กองทัพบกพร้อมจะช่วยเหลือดูแลครอบครัว” ผู้บัญชาการทหารบก กล่าว


ส่วนที่มีผู้โพสต์เฟซบุ๊คกรณีพลทหารสถาพร เผียดผัด อายุ 22 ปีเสียชีวิตระหว่างถูกขังในเรือนจำที่มลฑลทหารบกที่36 จังหวัดเพชรบูรณ์ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า การทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตไม่ใช่นโยบายของกองทัพบก ซึ่งเคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาและน่าจะหมดไปแล้ว เพราะฉะนั้นคนพวกนี้ต้องถูกดำเนินการทางกฎหมายทหารคือขึ้นศาลทหาร ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้นำญาติของผู้เสียชีวิตไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีทางอาญาด้วยแล้ว เพื่อให้คนเหล่านี้ได้รับโทษทัณฑ์ในฐานะที่ทำร้ายร่างกาย กองทัพบกจะปฎิเสธความรับผิดชอบไม่ได้เพราะอยู่ในพื้นที่ของกองทัพบก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

คุมเพลิงไหม้ “วิน โพรเสส” ได้แล้ว 95%

เหตุไฟไหม้โรงงานเก็บขยะเคมีอันตราย วินโพรเสส อ.บ้านค่าย จ.ระยอง วันนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้แล้ว 95% เหลือเพียงจุดความร้อนที่อยู่ใต้ซากกองเพลิง ซึ่งยังต้องใช้สาร F500 ฉีดลดความร้อน แต่ยังมีกลิ่นฉุนแอมโมเนีย ด้านกรมโรงงานอุตสาหกรรมเช็กกล้องวงจรปิดตรวจสอบว่าเป็นการวางเพลิงเพื่อทำลายหลักฐานเช่นเดียวกับเหตุที่เกิดขึ้นใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา หรือไม่

นายกฯ แจงเรียก “สุชาติ-รัฐมนตรี” เข้าพบ แค่ตามงาน

นายกฯ อารมณ์ดี เดินลงตึกไทยฯ พบสื่อ แจงเรียก “สุชาติ-รมต.” มีชื่อหลุด ครม.เข้าพบแค่ตามงาน ย้ำปรับ ครม.เสร็จเมื่อไหร่เดี๋ยวก็รู้ ยันกินข่าวเที่ยงวานนี้ไม่มี ”ทักษิณ“

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.