กองทัพบก 17 เม.ย. – ผบ.ทบ. ขอบคุณหน่วยทหารปฏิบัติงานต่อเนื่องตลอดสงกรานต์ รวมถึงชุดเฉพาะกิจราชมนู ที่ดูแลชายแดน เผยพอใจผลการตรวจเลือกฯ กำชับหน่วยเตรียมรับทหารใหม่อย่างดีที่สุด
พลเอก เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก เป็นประธานการประชุมสรุปสถานการณ์ประจำวันร่วมกับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกผ่านระบบการประชุมทางไกล (VTC) ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดทำงานหลังเทศกาลสงกรานต์ โดยผู้บัญชาการทหารบกได้รับทราบรายงานการปฏิบัติที่สำคัญของหน่วยทหารในห้วงที่ผ่านมา ทั้งภารกิจการพิทักษ์ชายแดนและสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมาย และภารกิจการช่วยเหลือประชาชน อาทิ การจัดตั้ง 76 จุดบริการอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยในเทศกาล
การแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองในภาคเหนือ ที่ล่าสุดศูนย์การบินทหารบกได้สนับสนุนนักบินพร้อมเฮลิคอปเตอร์ MI-17 ไปประจำการในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่ 9 เม.ย.67 โดยได้ร่วมกับกองทัพภาคที่ 3 และส่วนราชการในพื้นที่ปฏิบัติการดับไฟป่าทั้งทางบกและทางอากาศ บินทิ้งน้ำดับไฟป่ารวม 91 เที่ยวบิน ปริมาณน้ำ 318,000 ลิตร
นอกจากนี้ ยังช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆ ทั้งจากภัยแล้ง ตามโครงการราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง ที่ได้เริ่มแจกจ่ายน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค ให้ประชาชน ตั้งแต่ 1 ม.ค.67 และปัจจุบันได้เติมปริมาณน้ำในแหล่งชุมชนต่างๆ รวม 3,163,000 ลิตร รวมทั้งการช่วยเหลือซ่อมสร้างบ้านให้กับผู้ประสบอุทกภัยและวาตภัย ซึ่งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบกในพื้นที่ต่างๆ ยังคงดำรงการปฏิบัติเพื่อดูแลช่วยเหลือประชาชนคลี่คลายสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ขอบคุณทุกส่วนที่ได้ร่วมปฏิบัติในทุกภารกิจมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแม้จะเป็นวันหยุดในเทศกาลที่สำคัญของประเทศคือวันปีใหม่ไทย หรือสงกรานต์ 2567 แต่เหล่าทหารนั้นไม่ได้หยุด ทุกนายได้ทำหน้าที่และใช้ศักยภาพของหน่วยดูแลประชาชนอย่างเต็มที่และดีที่สุด ตั้งแต่ทหารแนวหน้าในทุกกองกำลังป้องกันชายแดน
โดยเฉพาะหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร ที่ได้ตรึงชายแดน ลาดตระเวนเฝ้าตรวจในพื้นที่ตลอด24 ชม. ซึ่งผู้บัญชาการทหารบกได้กล่าวชื่นชมและให้กำลังใจกำลังพลที่มีผลการปฏิบัติเป็นที่ประจักษ์ และได้รับความไว้วางใจจากประชาชน โดยขอให้ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบกและกองทัพภาคที่ 3 ร่วมติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันจากเหตุที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และจากการที่ได้ไปตรวจเยี่ยมหน่วยในพื้นที่เมื่อ 12 เม.ย. ที่ผ่านมา ผู้บัญชาการทหารบกได้มีความห่วงใยกำลังพลและประชาชนในพื้นที่ โดยขอให้ผู้บังคับหน่วยกำกับดูแลกำลังพลในการปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวังและไม่ประมาท ตลอดจนสร้างส่วนร่วมประชาชนในการพัฒนาและเสริมสร้างพื้นที่ให้มีความเข้มแข็งและปลอดภัย ในส่วนของการช่วยเหลือประชาชน ขอให้หน่วยทหารบูรณาการร่วมกับส่วนต่างๆ ในพื้นที่ รับมือและคลี่คลายสถานการณ์ พร้อมเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนในทุกโอกาส และเน้นย้ำกำลังพลในการปฏิบัติงานด้วยความปลอดภัยอยู่เสมอ
นอกจากนี้ผู้บัญชาการทหารบกยังได้กล่าวถึงบรรยากาศการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการในช่วง 1 – 12 เม.ย. ที่ผ่านมา ที่ทุกหน่วยตรวจเลือกฯ ได้ดำเนินการตามมาตรการที่กำหนด และบรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยถือเป็นนิมิตหมายที่ดีของกองทัพบก ที่ในปีนี้มีผู้ร้องขอหรือสมัครใจเป็นทหารกองประจำการรวม 42,260 คน แบ่งเป็น ทหารกองประจำการเดิมที่สมัครใจอยู่ต่อหรือเลื่อนปลด 4100 คน, ชายไทยที่สมัครโดยวิธีร้องขอ ด้วยระบบออนไลน์ 14,135คน และทหารกองเกินผู้ร้องขอในวันตรวจเลือกฯ 24,025 คน ซึ่งจากนี้จะเป็นช่วงของการเตรียมหน่วยทหารในการรับทหารใหม่ในวันที่ 1 พ.ค. 67โดยผู้บัญชาการทหารบกได้ให้ความสำคัญในทุกเรื่อง และเน้นย้ำผู้บังคับหน่วยในการเตรียมการ ตั้งแต่การคัดสรรบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการฝึก ทั้งผู้ฝึก ครูฝึก และเจ้าหน้าที่เสนารักษ์ รวมทั้งนำศักยภาพของกำลังพลในหน่วยที่เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ เช่น อนุศาสนาจารย์ และนายทหารพระธรรมนูญ เข้ามาร่วมในบรรยากาศการฝึกทหารใหม่ เพื่อเป็นที่ปรึกษา รับฟังและให้คำแนะนำในด้านต่างๆ กับทหารกองประจำการ, การปรับสภาพโรงนอนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก สอดคล้องกับสภาพอากาศในประเทศ, การปรับสภาพจากพลเรือน และการฝึกต่างๆ ตามแนวทางที่กรมยุทธศึกษาทหารบกได้กำหนด และการกำกับดูแลสิทธิและสวัสดิการต่างๆ เพื่อให้การดูแลทหารใหม่ หรือ “น้องคนเล็กของกองทัพบก” เป็นไปอย่างครอบคลุมทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ ให้มีความสุขและปลอดภัย รวมทั้งให้ได้รับโอกาสในการพัฒนาและเสริมสร้างในด้านต่างๆ ตลอดระยะเวลาในรั้วทหารต่อไป .-313-สำนักข่าวไทย