ตาก 10 เม.ย. – ปะทะเดือดชิงเมืองเมียวดี กองทัพอากาศเมียนมาใช้เครื่องบินรบมิก-29 ทิ้งระเบิดใส่ทหารฝ่ายต่อต้าน สกัดการยึดค่ายผาซอง ฐานที่มั่นแห่งสุดท้าย ขณะที่ฝ่ายไทยเสริมกำลังป้องกันอธิปไตย
สถานการณ์ความไม่สงบในเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา มองเห็นได้จากฝั่ง อ.แม่สอด จ.ตาก ของไทย เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ได้ยินเสียงปืนและเสียงระเบิดดังอย่างต่อเนื่อง โดยการยิงปะทะครั้งล่าสุดนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้ามืด หลังทหารฝ่ายต่อต้าน ประกอบด้วย สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือเคเอ็นยู กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือเคเอ็นแอลเอ และทหารกองกำลังพิทักษ์ประชาชน หรือพีดีเอฟ นำกำลังหลายร้อยนาย พร้อมอาวุธครบมือ บุกเข้าโจมตีค่ายผาซอง กองพัน 275 ฐานที่มั่นสุดท้ายของทหารเมียนมาที่เหลืออยู่ในเมียวดี ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนไทยประมาณ 5 กิโลเมตร การยิงปะทะด้วยอาวุธหนักนานาชนิดทำให้เกิดไฟไหม้หลายจุด จนควันไฟสีดำลอยขึ้นปกคลุมทั่วเมือง
จากนั้นกองกำลังทหารฝ่ายต่อต้านสามารถทำลายแนวกำแพงรั้วของค่ายผาซองได้บางส่วน แต่ยังเข้าไปยึดค่ายไม่สำเร็จ เนื่องจากถูกตอบโต้ด้วยเครื่องบินรบมิก-29 ของกองทัพอากาศเมียนมา ซึ่งบินโจมตีและทิ้งระเบิดเสียงดังสนั่นไหวไปทั่วชายแดนไทย-เมียนมา สร้างความตกใจให้ทั้งฝั่งไทยและฝั่งเมียนมาอย่างมาก
ส่วนที่ด่านพรมแดนถาวรแม่สอด แห่งที่ 1 มีชาวเมืองเมียวดีจำนวนมากเดินเท้าข้ามแดนเข้ามาผ่านสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 จนทำให้การจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัด และเต็มไปด้วยชาวเมียวดีจำนวนมากที่เข้าแถวรอตรวจหนังสือผ่านแดนชั่วคราวเข้าประเทศไทยแบบถูกต้องตามกฎหมาย
ชาวเมืองเมียวดีคนหนึ่งเล่าว่า ตัดสินใจทิ้งบ้าน ข้ามแดนเข้ามาพักบ้านญาติที่ฝั่งแม่สอด เนื่องจากไม่มั่นใจในสถานการณ์ เพราะการยิงปะทะอาจลุกลามเข้ามาในเขตชุมชนเมืองได้ทุกเวลา ส่วนชาวเมียวดีที่เหลืออีกจำนวนมากยังรอดูสถานการณ์ตลอดทั้งคืนนี้ ก่อนจะตัดสินใจ
ล่าสุด มีรายงานว่าหลังมีการยิงปะทะตลอดวัน ทำให้ทหารทั้งสองฝ่ายบาดเจ็บจำนวนมาก ขณะนี้ทหารกองทัพเมียนมาพร้อมรถยานเกราะเร่งเดินทางมาเสริมกำลังที่ค่ายผาซอง คาดว่าจะมาถึงในคืนนี้ และอาจทำให้สถานการณ์ตึงเครียดมากยิ่งขึ้น
ด้านเจ้าหน้าที่ฝั่งไทย ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง นำกำลัง พร้อมรถติดอาวุธ และรถยานเกราะ เข้าตรึงแนวชายแดนแม่สอดทุกจุด รวมถึงเสริมกำลังและอาวุธเข้ารักษาความปลอดภัยรอบสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 ทั้งนี้ หน่วยงานความมั่นคงไทยยังเฝ้าติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด และยังไม่พบว่าการสู้รบและการโจมตีทางอากาศของเมียนมาครั้งนี้มีการล้ำแดนเข้ามา หรือส่งผลกระทบต่อฝั่งไทย
ขณะที่เพจกองทัพอากาศ เผยแพร่ภาพเครื่องบิน เอฟ-16 บินเหนือน่านฟ้า พร้อมข้อความว่า “24/7 All Day & Night …our falcons maintain utmost readiness กองทัพอากาศเตรียมความพร้อมการป้องกันทางอากาศ”
จากสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดน กองทัพอากาศยังคงปฏิบัติภารกิจการบินลาดตระเวน เพื่อปกป้องอธิปไตยและพี่น้องประชาชนชาวไทย
ทั้งนี้ แหล่งข่าวระบุว่า ปฏิบัติการบินตรวจการณ์จะทำในเวลาที่เหมาะสม ยืนยันยังเฝ้าติดตามเหตุการณ์ใกล้ชิด เพื่อไม่ให้กระทบต่อชายแดน หรือมีการรุกล้ำอธิปไตย ซึ่งมีขั้นตอนปฏิบัติในกรณีล้ำแดนอยู่แล้ว โดยจะประสานงาน และแจ้งเตือนก่อน.-สำนักข่าวไทย