“พงศ์ศรัณย์” ติดตามการแก้ไขปัญหาแท็กซี่จอดแช่หน้าเซ็นทรัลเวิลด์

30 เม.ย. – “พงศ์ศรัณย์” จับมือ กทม. ติดตามการแก้ไขปัญหารถแท็กซี่จอดแช่แถวเซ็นทรัลเวิลด์ ย้ำเป้าหมายรัฐบาลสร้าง “ราชประสงค์โมเดล” เพื่อการเดินทางที่ดีสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยว


นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (30 เมษายน 2567) เวลา 16.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มอบหมายนายพงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ร่วมกับนายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หารือและตรวจติดตามการแก้ไขปัญหารถแท็กซี่และสามล้อรับจ้างจอดแช่รอรับผู้โดยสาร ส่งผลจราจรติดขัด ณ บริเวณสี่แยกราชประสงค์ (ฝั่งห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์) ถนนราชดำริ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ โดยมีนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมตรวจติดตามการแก้ปัญหาครั้งนี้ด้วย

พล.ต.อ.อดิศร์ กล่าวว่า สำหรับการแก้ปัญหารถแท็กซี่และสามล้อรับจ้างจอดแช่ ส่งผลการจราจรติดขัด รวมถึงการแก้ปัญหากรณีที่รถแท็กซี่หลอกลวงนักท่องเที่ยวไปซื้อของราคาแพงที่ไม่ได้คุณภาพ เช่น จิวเวลรี่ ตัดชุดสูท และไม่พาไปยังจุดหรือสถานที่ที่นักท่องเที่ยวต้องการนั้น นายกฯ และรัฐบาลมีความห่วงใยต่อปัญหาที่เกิดขึ้น จึงได้มอบหมายให้กรุงเทพมหานครเร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็ว


โดยกรุงเทพมหานครได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการภายใต้โครงการ “ราชประสงค์โมเดล” เพื่อจัดระเบียบการจราจร ยกระดับการรักษาความปลอดภัย และสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวในพื้นที่ถนนราชดำริ โดยกรุงเทพมหานคร ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี สน.ปทุมวัน และผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าในบริเวณทั้งสองฝั่ง ร่วมมือกันทำงาน รวมทั้งใช้เทคโนโลยี AI ตรวจจับป้ายทะเบียน หากพบผู้กระทำความผิดหรือมีการจอดเกิน 3 นาทีที่ระบบได้กำหนดไว้ตามกฎหมาย กล้องจะถ่ายภาพไว้และระบุเวลาตั้งแต่เข้าจอดถึงเวลาที่กำหนด จากนั้นจะส่งต่อข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการทางกฎหมาย

นอกจากนั้นกรุงเทพมหานครยังได้นำแนวคิดของสถานีตำรวจนครบาลลุมพินีมาใช้โดยการตั้งเสาเลนบล็อก เพื่อบังคับทิศทางไม่ให้รถเข้าไปจอดขวางการจราจร โดยพยายามให้รถโดยสารประจำทาง (รถเมล์) เข้ามาวิ่งในช่องทางซ้ายสุดของแต่ละฝั่ง ซึ่งเมื่อรถเมล์วิ่งในช่องทางซ้ายสุดแล้วจะทำให้รถแท็กซี่และรถสามล้อไม่สามารถเข้ามาจอดแช่ได้ อีกทั้งการตั้งเสาเลนบล็อกจะเป็นการกำกับช่องทางอื่นๆ บนถนนราชดำริด้วย รวมทั้งพยายามแก้ปัญหาการปักหมุดของนักท่องเที่ยว เช่น คนที่เรียกรถ Grab หรือ Bolt หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ โดยไม่ให้มีการปักหมุดขึ้น-ลงรถกลางถนน ซึ่งตรงนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีทั้งจากผู้ประกอบการแพลตฟอร์มต่างๆ และศูนย์การค้าในการเปลี่ยนจุดปักหมุดให้เข้าไปใช้รอบบริเวณด้านในของศูนย์การค้า ซึ่งจะทำให้การกีดขวางการจราจรดีขึ้นตามลำดับ สำหรับปัญหาการหลอกลวงนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้นทางตำรวจท่องเที่ยวได้มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาแล้ว

นายพงศ์ศรัณย์ กล่าวว่า การลงพื้นที่วันนี้นอกจากเป็นการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนกรุงเทพมหานครแล้วนั้น บริเวณถนนราชดำริยังเป็นพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ การดูแลอำนวยความสะดวก ระบบคมนาคม รัฐบาลไม่ได้ดูแลแค่เพียงเรื่องรถแท็กซี่หรือเส้นทางการจราจร แต่รัฐบาลยังดูแลเรื่องความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยวด้วย สำหรับปัญหาการจอดรถแช่ของรถแท็กซี่เป็นการนำมาซึ่งปัญหารถแท็กซี่ไม่กดมิเตอร์และการหลอกลวงนักท่องเที่ยว เป้าหมายหลักของรัฐบาลคือ การสร้างการเดินทางที่สะดวก ปลอดภัย โปร่งใส มีความเป็นธรรม เพื่อสร้างประสบการณ์ ความประทับใจที่ดีให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวในประเทศไทย


ด้านโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า บริเวณพื้นที่ถนนราชดำริมีการร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาการจราจร สาเหตุจากรถแท็กซี่จอดแช่บริเวณริมถนนส่งผลให้การจราจรติดขัด ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจึงมอบหมายให้นายพงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฯ ประสานกับกรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด โดยต้องไม่มีรถจอดแช่บริเวณริมถนน แต่บริเวณเซ็นทรัลเวิลด์เป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวมาก การเดินทางต่างๆ การใช้บริการรถแท็กซี่ต้องสะดวกด้วย ฉะนั้นการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดและปัญหารถจอดแช่บริเวณริมถนนนั้นไม่เพียงพอ ซึ่งวันนี้ทางรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฯ กรุงเทพมหานคร กรมการขนส่งทางบก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันทำงานแบบบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างครบวงจร.-314-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 19 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 5 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย คลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 19-24 กรกฎาคม 2568) ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้ วันที่ 19 กรกฎาคม 2568ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานีภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสระบุรีภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี […]

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]