Died Suddenly สารคดีลวงโลก อ้างคนฉีดวัคซีนโควิดตายเพราะ “ลิ่มเลือดขาว”

27 เมษายน 2567
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


หนึ่งในสารคดีที่สร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีนโควิด-19 มากที่สุด ได้แก่ Died Suddenly สารคดีความยาว 69 นาที ผลงานของ สตู ปีเตอร์ส พิธีกรชาวอเมริกันผู้สร้างชื่อจากการเผยแพร่ทฤษฎีสมคบคิด เนื้อหาใน Died Suddenly พยายามอ้างว่า หลังการรณรงค์วัคซีนโควิด-19 พบผู้เสียชีวิตอย่างเฉียบพลันมากขึ้น (Died Suddenly) จึงพยายามเชื่อมโยงว่า สาเหตุมาจากการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในร่างกายของผู้ฉีดวัคซีนโควิด-19

สตู ปีเตอร์ส เริ่มเข้าสู่วงการในฐานะนักร้องเพลงแร็ปและนักล่าเงินรางวัล ก่อนจะผันตัวมาจัดรายการพอดแคสต์ของตัวเองในชื่อ The Stew Peters Show เมื่อปี 2020 โดยเนื้อหาเน้นเผยแพร่แนวคิดอนุรักษ์นิยมสุดโต่ง ทั้งการเชิดชูคนผิวขาว เหยียดหยามผู้มีความหลากหลายทางเพศ เหยียดคนเชื้อชาติยิว ไม่ยอมรับการมีอยู่ของเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในสงครามโลกครั้งที่ 2 รวมถึงข่าวปลอมเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 จน Spotify and iHeartRadio เคยลบเนื้อหาบางตอนของ The Stew Peters Show ออกไปจากระบบมาแล้ว


ในปี 2022 สตู ปีเตอร์ส ได้นำ Died Suddenly สารคดีโจมตีความปลอดภัยของวัคซีนโควิด-19 ออกมาเผยแพร่ทาง Rumble และ X (Twitter) เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2022 โดยพยายามเชื่อมโยงการตายเฉียบพลันกับการเกิดลิ่มเลือดอุดตันจากวัคซีนโควิด-19

แต่แหล่งข้อมูลที่ สตู ปีเตอร์ส ใช้อ้างอิง กลับไม่ใช่พยาธิแพทย์ซึ่งรับผิดชอบด้านการชันสูตรศพ แต่กลับอ้างอิงความเห็นของผู้คนในแวดวงการจัดงานศพและการแต่งศพ ซึ่งเป็นอาชีพที่ไม่อาจรู้ได้ว่า สาเหตุการเสียชีวิตหรือการเกิดลิ่มเลือดอุดตันมาจากสิ่งใด

ความเห็นของช่างแต่งศพ


แหล่งข้อมูลสำคัญของ Died Suddenly มาจากความเห็นของ ริชาร์ด เฮิร์ชแมน ช่างแต่งศพผู้ตั้งข้อสังเกตว่า พบลิ่มเลือดในศพจำนวนมากอย่างผิดสังเกต ลิ่มเลือดที่พบมีความเหนียวไม่ต่างจากยางหรือเนื้อปลาหมึก เขาจึงไม่แปลกที่คนเหล่านี้จะป่วยด้วยภาวะหลอดเลือดอุดตัน

แชด วิสแนนท์ เจ้าของกิจการจัดงานศพ ยืนยันใน Died Suddenly ว่า แต่เดิมเขาไม่ตั้งข้อสงสัยถึงความปลอดภัยของวัคซีน แต่หลังจากเห็นลิ่มเลือดในศพจำนวนมาก วันนี้เขาจึงเปลี่ยนมาเป็น Anti Vaxxer หรือผู้มีแนวคิดต่อต้านวัคซีนในที่สุด

Factcheck.org ได้ติดต่อไปยัง แชด วิสแนนท์ เพื่อขอความเห็น แต่ไม่ได้รับการติดต่อกลับ แต่มีโอกาสได้พูดคุยกับ บรูค วิสแนนท์ ภรรยาของเขา ซึ่งเธอยืนยันว่า ลิ่มเลือดที่พบในศพไม่ใช่สิ่งผิดปกติ ส่วนเธอก็ไม่ได้มีแนวคิดต่อต้านวัคซีนเหมือนกับสามี โดยให้ความเห็นว่า นับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามาดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ เมื่อปี 2017 การเผยแพร่ข่าวปลอมข้อมูลเท็จในสังคมก็เป็นไปอย่างแพร่หลาย และส่งผลต่อความคิดผู้คนจำนวนมาก รวมถึงสามีของเธอเอง

บรูค วิสแนนท์ ย้ำว่า ริชาร์ด เฮิร์ชแมน ช่างแต่งศพในสารคดี Died Suddenly เคยทำงานแต่งศพให้กับกิจการของเธอกับสามี และยืนยันว่าเขาไม่มีทางรู้ว่าศพใดผ่านการฉีดวัคซีนโควิด-19 มาก่อนหรือไม่

ช่างแต่งศพไม่มีทางรู้ประวัติสุขภาพของศพ

สอดคล้องกับความเห็นของสมาคมผู้จัดงานศพแห่งชาติสหรัฐฯ (NFDA) และสมาคมผู้จัดงานศพแห่งสหราชอาณาจักร (NAFD) ที่ยืนยันว่า ช่างแต่งศพและผู้จัดงานศพไม่ใช่อาชีพที่สามารถยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างการฉีดวัคซีนและการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน บทบาทดังกล่าวเป็นหน้าที่ของหมอ, นักวิทยาศาสตร์ หรือผู้ตรวจสอบทางการแพทย์ สภาวะในหลอดเลือดของผู้เสียชีวิตขึ้นอยู่กับสาเหตุการตายและระยะเวลาของการเสียชีวิต ซึ่งช่างแต่งศพและผู้จัดงานศพไม่รู้ข้อมูลดังกล่าว เพราะพวกเขาไม่ได้อยู่ในกระบวนการยืนยันสาเหตุการเสียชีวิต

ซาสเกีย มิดเดลดอร์ป หัวหน้าแผนกอายุรศาสตร์ โรงพยาบาล Radboud University Medical Center ประเทศเนเธอร์แลนด์ อธิบายว่า ลิ่มเลือดที่เกาะกันเป็นเส้นใยในร่างของผู้เสียชีวิต เป็นเรื่องปกติที่พบได้ในศพผู้ตาย ไม่ว่าจะฉีดวัคซีนหรือไม่ก็ตาม ที่แปลกคือช่างแต่งศพกลับตั้งคำถามถึงอันตรายของวัคซีน ทั้ง ๆ ที่ไม่มีหลักฐานว่ามีความเชื่อมโยงกับการเกิดลิ่มเลือดของผู้ตาย เพราะมีเพียงแพทย์ที่ศึกษาด้านพยาธิวิทยาโดยตรงเท่านั้น ที่สามารถวินิจฉัยการเกิดลิ่มเลือดกับสาเหตุการเสียชีวิตได้

เบน ชมิดท์ ผู้จัดงานศพและผู้เชี่ยวชาญด้านการแต่งศพ มองว่า ข้ออ้างในสารคดีเป็นเพียง Clickbait หรือการพาดหัวข่าวเพื่อให้ผู้ชมหลงเชื่อเท่านั้น เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ช่างแต่งศพจะรู้ประวัติสุขภาพของผู้เสียชีวิต นอกจากจะเป็นญาติใกล้ชิดกับคนตาย การดองศพจะเริ่มขึ้นก่อนที่สาเหตุการเสียชีวิตจะได้รับการยืนยัน ช่างแต่งศพจึงไม่มีทางรู้สาเหตุของการเสียชีวิต หรือแม้แต่สถานะการฉีดวัคซีนของผู้เสียชีวิต

ข้อมูลจากสมาคมผู้จัดงานศพแห่งชาติสหรัฐฯ (NFDA) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2022 ยืนยันว่า พบการเกิดลิ่มเลือดมากขึ้นในศพของผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ทั้งศพของผู้ที่ฉีดวัคซีนและไม่ฉีดวัคซีน

ลิ่มเลือดหลังการตาย

ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญมองว่า ลิ่มเลือดที่ปรากฏในสารคดี แท้จริงแล้วคือลิ่มเลือดหลังการเสียชีวิต หรือ Postmortem Blood Clot ซึ่งผิวสัมผัสมีลักษณะเรียบและเหนียวมากกว่าลิ่มเลือดทั่วไป

ดร.เอริค เบินเนทท์ แพทย์จากศูนย์ Irving Medical Center มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย สหรัฐอเมริกา อธิบายว่า ลิ่มเลือดที่เห็นในสารคดีคือลิ่มเลือดหลังการเสียชีวิต และมีลักษณะตามที่ช่างแต่งศพอธิบายไว้ในสารคดีทุกประการ ถือเป็นเรื่องน่าตกใจที่สิ่งเหล่านี้ถูกนำมาสร้างความหวาดกลัวผิด ๆ ต่อสาธารณชน

โมนิกา ตอเรส ช่างแต่งศพอธิบายว่า ลิ่มเลือดหลังการเสียชีวิตอาจเกิดกับศพที่ถูกแช่เย็นนานเกินไป ซึ่งเกิดขึ้นได้เสมอในกรณีที่ต้องจัดการกับศพคราวละมาก ๆ แต่ผู้สร้างสารคดีกลับนำมาเป็นประเด็นให้ผู้คนตกใจกลัว

การบิดเบือนภาพการผ่าตัด

นอกจากนี้ยังพบว่า ภาพบางส่วนในสารคดีนำมาจากวิดีโอสาธิตการผ่าตัดหัวใจเพื่อนำลิ่มเลือดอุดตันออกจากหลอดเลือด ซึ่งเป็นการรักษาที่มีความเสี่ยงสูงและใช้ในกรณีจำเป็นเท่านั้น โดยคลิปดังกล่าวถูกถ่ายเอาไว้ตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2019 จึงพิสูจน์ได้ว่าเหตุการณ์ในคลิปไม่มีความเกี่ยวข้องกับวัคซีนโควิด-19 ที่ผลิตในช่วงปลายปี 2020

แม้ลิ่มเลือดที่อยู่ในสารคดี อาจจะไม่ใช่ลิ่มเลือดหลังการเสียชีวิตหรือ Postmortem Blood Clot ทั้งหมด ลิ่มเลือดบางส่วนอาจเกิดขึ้นตั้งแต่ผู้ตายยังมีชีวิต แต่ก็ไม่มีหลักฐานใดยืนยันได้ว่า วัคซีนคือสาเหตุของการเกิดลิ่มเลือดเหล่านั้น

โอกาสเกิดลิ่มเลือดจากวัคซีนโควิด-19 ชนิด Viral Vector

เป็นจริงที่ว่า อาการลิ่มเลือดอุดตัน คืออาการไม่พึงประสงค์ที่พบได้ยากจากวัคซีนโควิด-19 ชนิด Viral Vector โดยมีสัดส่วนการเกิดอาการ TTS หรือการเกิดลิ่มเลือดและเกล็ดเลือดต่ำกับผู้รับวัคซีนของบริษัท Johnson & Johnson เพียง 4 เคสต่อ 1 ล้านโดสเท่านั้น

นอกจากนี้ วัคซีนโควิด-19 ชนิดที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันอย่างวัคซีน mRNA ก็เป็นวัคซีนที่แทบไม่มีความสัมพันธ์กับการเกิดลิ่มเลือดอุดตันอีกด้วย

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าการฉีดวัคซีนโควิด-19 ยังเป็นการป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตันอีกทางหนึ่ง เนื่องจากลิ่มเลือดอุดตันเป็นหนึ่งในอาการข้างเคียงจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกด้วย

ผลตอบรับของสารคดี Died Suddenly

การเชื่อมโยงผิด ๆ ว่าวัคซีนโควิด-19 มีความสัมพันธ์กับการเสียชีวิตอย่างเฉียบพลัน สร้างความเข้าใจผิดในสังคมเป็นวงกว้าง เพียงแค่ 2 วัน ก็มีผู้รับชมสารคดีทาง Rumble มากกว่า 4 ล้านครั้ง และมียอดรับชมทาง X (Twitter) มากกว่า 1.5 ล้านครั้ง การประเมินเมื่อช่วงต้นปี 2023 พบว่า Died Suddenly ทำยอดวิวรวมกันกว่า 20 ล้านครั้ง หลังได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มอนุรักษ์นิยม ทั้งสื่อมวลชนและนักการเมืองที่มีแนวคิดต่อต้านวัคซีน

ภัยสังคม

เดือนพฤศจิกายน 2022 สำนักข่าว BBC รายงานว่า มีหลายครอบครัวที่สูญเสียญาติพี่น้องกะทันหัน ตกเป็นเป้าโจมตีทางออนไลน์ของกลุ่มคนที่หลงเชื่อแนวคิดผิด ๆ จาก Died Suddenly

หนึ่งในนั้นคือ วิคตอเรีย สตรีชาวอเมริกันผู้สูญเสีย แมดดี หญิงคนรักที่จากไปด้วยอาการหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันหลังใช้ชีวิตร่วมกันมากว่า 23 ปี แต่ข้อความไว้อาลัยทางออนไลน์กลับถูกเหล่า Anti Vaxxer เข้ามาโพสต์ข้อความใส่ร้าย โดยอ้างว่าสาเหตุการเสียชีวิตมาจากการหลงเชื่อเรื่องความปลอดภัยของวัคซีน

แม้ วิคตอเรีย จะชี้แจงว่าคนรักของเธอป่วยเป็นมะเร็งระยะลุกลาม และการเสียชีวิตของเธอไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน แต่เหล่า Anti Vaxxer ก็ไม่ยอมรับฟัง และรุมประณามว่าวิคตอเรียกำลังโกหกต่อชาวโลก

เสียงประณามจากวงการวิทยาศาสตร์

เดวิด กอร์สกี แพทย์ชาวอเมริกันผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดมะเร็ง มองว่า Died Suddenly เป็นภาพยนตร์โฆษณาชวนเชื่อและสารคดีวิทยาศาสตร์ปลอม จากการนำลิ่มเลือดหลังการตายมาสร้างความเข้าใจผิดแก่สังคม

แอนเจลา ราสมุสเซน นักไวรัสวิทยาชาวแคนาดา ประณามว่า Died Suddenly คือสารคดีจอมปลอมที่จ้องหาเงินจากเรื่องโกหก หลายคนที่สารคดีนำภาพมาอ้างว่าตายจากวัคซีน เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเกินครึ่งยังมีชีวิตอยู่

โจนาธาน จาร์รี นักสื่อสารวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแม็คกิลล์ ประเทศแคนาดา เปรียบเทียบว่า การสร้างสารคดี Died Suddenly เหมือนกับการหาประโยชน์กับคนตาย (Grave-Robbing) ฝ่าฝืนจรรยาบรรณสื่อสารมวลชน ด้วยการนำภาพผู้เสียชีวิตมาใช้เผยแพร่วิทยาศาสตร์ปลอมโดยไม่ได้รับความยินยอม

Died Suddenly ยังถูกตำหนิจากสมาชิกบางรายของกลุ่ม Anti Vaxxer ที่มองว่า เนื้อหาเน้นการโจมตีวัคซีนโควิด-19 แบบด่วนสรุปเช่นนี้ กลับจะทำให้ความน่าเชื่อถือของกลุ่ม Anti Vaxxer ลดลงมากกว่า

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.factcheck.org/2022/12/scicheck-died-suddenly-pushes-bogus-depopulation-theory/
https://www.reuters.com/article/fact-check-viral-video-promotes-baseless/fact-check-viral-video-promotes-baseless-vaccine-depopulation-theory-idUSL1N32Y1SI
https://en.wikipedia.org/wiki/Stew_Peters
https://en.wikipedia.org/wiki/Died_Suddenly

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

เปิดแนวต้านน้ำหล่มสัก ผลักดันแผนแก้น้ำท่วมซ้ำซาก

เพชรบูรณ์ 22 ก.ย. – แม้ว่าน้ำที่ท่วมชุมชนและย่านการค้าในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก ที่เพชรบูรณ์ จะลดลงแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะย่านการค้าเก่าแก่ที่เจอน้ำท่วม 2 รอบในช่วง 3 สัปดาห์ เรียกว่ายังไม่ทันได้ฟื้นฟูความเสียหายจากน้ำท่วมรอบแรกเสร็จ ต้องมาเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะที่หลายคนกังวลและต้องเตรียมรับมือกับพายุที่คาดว่าจะเข้ามาในช่วงปลายสัปดาห์นี้ พร้อมเรียกร้องให้เร่งป้องกันและหาแนวทาง แก้ปัญหาระยะยาว ไม่ให้หล่มสักกลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก .-สำนักข่าวไทย

ฝนถล่มเชียงใหม่ ประกาศปิดน้ำตกแม่สา ส่วนวัดผาลาด เตือนน้ำป่าหลาก

เชียงใหม่ 22 ก.ย.-ฝนถล่มเชียงใหม่ อุทยานฯ ดอยสุเทพ-ปุย ประกาศปิดน้ำตกแม่สา อ.แม่ริม ชั่วคราว หลังน้ำป่าไหลหลาก ส่วนวัดผาลาด แจ้งเตือนชาวบ้านรับมือน้ำป่าหลากลงน้ำตกผาลาด ช่วงบ่ายวันนี้ ( 22 กันยายน) เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ เพจเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้โพสต์ข้อความประกาศปิดน้ำตกแม่สา ในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เนื่องจากเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากลงมาจนน้ำมีสีน้ำตาลขุ่น กระแสน้ำไหลแรงและเชี่ยวกราก โดยจะปิดน้ำตกแม่สาตั้งแต่วันนี้จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ขณะที่พระมหาสง่า ไชยวงค์ เจ้าอาวาสวัดผาลาด ก็ได้โพสต์คลิปภาพวิดีโอ พร้อมข้อความ “มวลน้ำจากยอดดอยกำลังผ่านวัดผาลาด ญาติโยมด้านล่างช่วงนี้ก็เฝ้าไว้เน้อ” ซึ่งทางวัดผาลาดจะมีการแจ้งเตือนชาวบ้านที่อยู่ใกล้ทางน้ำไหลน้ำตกผาลาด และบริเวณเชิงดอยสุเทพในตัวเมืองเชียงใหม่ ให้เฝ้าระวังน้ำป่าที่ไหลผ่านวัดลงสู่ด้านล่างทุกครั้ง สำหรับวัดผาลาดตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นดอยสุเทพ และมีน้ำตกผาลาดไหลผ่านพื้นที่วัดช่วงที่เกิดฝนตกหนัก จะมีน้ำป่าไหลหลากจากบนดอยสุเทพผ่านน้ำตกผาลาด ก่อนจะไหลลงสู่พื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่.-สำนักข่าวไทย

กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ชี้ JBC รับรองแล้ว

กทม. 22 ก.ย.- กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน ชี้ JBC รับรองแล้ว สอดคล้อง MOU 2543 พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยถึงประเด็นหลักเขตแดนที่ 42 และ 43 ในพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้วว่า หลักเขตแดนที่ 42 ตั้งอยู่ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว (บ้านไปรจัน) ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และหลักเขตแดนที่ 43 ตั้งอยู่ที่บ้านโนนหมากมุ่น ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยการกำหนดแนวเขตแดนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นเส้นตรงจากหลักเขตแดนที่ 41 มายังหลักเขตแดนที่ 42 และต่อเนื่องไปยังหลักเขตแดนที่ 43 จากนั้นแนวเขตแดนจะไปตามคลองระลมระสือจนถึงหลักเขตแดนที่ 44 สำหรับกระบวนการสำรวจ ชุดสำรวจร่วมไทย–กัมพูชาได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ 1 ของ TOR คือ การสำรวจสภาพ และที่ตั้งของหลักเขตแดนทั้งหมด 74 หลัก ตั้งแต่ปี พ.ศ. […]

ทีมทนายวัดนาป่าพง หอบเอกสารเข้าพบกองปราบ

22 ก.ย.- ทีมทนายวัดนาป่าพง หอบเอกสารเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบ ขณะที่สีกาเยอรมนีเตรียมนั่งเครื่องเข้าพบตำรวจ 2 ต.ค.นี้ หลังจากที่นายนันทน อินทนนท์ ทนายความวัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี พร้อมทีมทนายความ ได้มีการตั้งโต๊ะแถลงชี้แจงประเด็นที่ น.ส.ทองใหม่ ขวัญหมื่น หรือ ทนายอุ้ม ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากสีกาจากประเทศเยอรมนี เข้ามาร้องเรียนที่กองบังคับการปราบปราม กล่าวหาว่า พระคึกฤทธิ์ ยักยอกเงินวัด ก่อนนำมาฟอกกับมูลนิธิพุทธวจนที่ประเทศเยอรมนีนั้น ความเคลื่อนไหวล่าสุดวันนี้ (22 ก.ย.68) เวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม กองกำกับการ 2 นายนันทน อินทนนท์ ทนายความวัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี และทีมทนายความ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน โดยนำเอกสารเป็นพยานหลักฐานเกี่ยวกับเส้นเงิน เงินบริจาคภายในวัด มามอบให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อชี้แจงในประเด็นต่างๆ โดยใช้เวลาในการชี้แจงกับพนักงานสอบสวนไม่ถึง 1 ชั่วโมง ก่อนจะเดินทางกลับทันที และไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด หลังจากนั้นทีมข่าวได้ติดต่อไปที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดนาป่าพง โดยเฉพาะเงินที่เปิดรับบริจาคทั่วประเทศ หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีความผิดจริง […]