พนมเปญ 9 มิ.ย. – นายปรัก สุคน (Prak Sokhonn) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา ได้ส่งหนังสืออย่างเป็นทางการมาถึงนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย เพื่อขอความร่วมมือกับประเทศไทย ในการยื่นข้อพิพาทเรื่องพรมแดนกับศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก (International Court of Justice : ICJ) ให้ตัดสินอย่างสันติและถูกต้องตามกฎหมาย
โดยเนื้อหาในหนังสืออย่างเป็นการทางระบุไว้ว่า จากความซับซ้อนทางประวัติศาสตร์และความอ่อนไหวในข้อพิพาท เห็นได้ชัดว่า การเจรจาระดับทวิภาคีเพียงอย่างเดียว อาจไม่เพียงพอที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างครอบคลุมและยั่งยืน
รัฐบาลกัมพูชาจึงเห็นว่า การแก้ไขปัญหาพื้นที่ช่องบก ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควาย โดยศาลโลกเป็นหนทางที่เหมาะสมและสันติมากที่สุด
นายปรักยังระบุใจความในหนังสืออย่างเป็นทางการว่า คำตัดสินของศาลโลกตั้งอยู่บนหลักกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นคำตัดสินที่ยุติธรรม ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย และสามารถให้ความชัดเจนในเรื่องข้อพิพาทดินแดนของทั้ง 2 ประเทศ อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ ตลอดจนความร่วมมือของทั้ง 2 ประเทศ
“แนวทางปฏิบัติดังกล่าว จะยืนยันถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของเราในการรักษาหลักนิติธรรม รักษาความสามัคคีในภูมิภาค และส่งเสริมความร่วมกันของประชาชนภายในชุมชนอาเซียน
“จากที่กล่าวมาข้างต้น ฉันขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยพิจารณาร่วมกับรัฐบาลกัมพูชา ในการส่งข้อพิพาทเรื่องพรมแดนของเรา ไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ขอให้ใช้โอกาสนี้ยืนยันความมุ่งมั่นร่วมกันของเรา ในการพูดคุยอย่างสันติ การแก้ไขปัญหาทางกฎหมาย และอนาคตของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี”
ทั้งนี้ข้อความในหนังสืออย่างเป็นทางการยังสอดคล้องกับท่าทีของนายฮุน เซน (Hun Sen) ประธานวุฒิสภา องคมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ออกมาระบุว่า จะนำข้อพิพาทที่เกิดขึ้นสู่ศาลโลก เนื่องจาก การเจรจาระดับทวิภาคีได้ผลเพียงเล็กน้อย ขณะที่พื้นที่อื่นที่ไม่อยู่ในความขัดแย้งจะดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจ (MoU) ปี 2543 ต่อไป
ขณะเดียวกันเมื่อช่วงเวลา 12.45 น. ของวันเดียวกันนี้ กระทรวงกลาโหมของกัมพูชาออกมาแถลงถึงสถานการณ์ล่าสุดในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยระบุว่า
- ไม่มีการถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา และที่ซึ่งกองทัพกัมพูชาประจำการมาเป็นเวลานาน
- การเตรียมกองกำลังทั้งหมดของกองทัพกัมพูชา รวมทั้งการประจำการ การส่งกำลัง การปรับกำลัง และการระดมกำลัง อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชาเพื่อเตรียมการป้องกันบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา
- กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการแก้ไขปัญหาโดยสันติ ทั้งนี้พร้อมปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องดินแดน ไม่ให้มีการรุกรานใดๆ
- กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะสนับสนุนกลไกการเจรจาชายแดนกับไทย โดยเฉพาะคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Commission: JBC) เพื่อดำเนินการวัดเขตแดนและปักปันเขตแดนที่เหลือระหว่าง 2 ประเทศต่อไป.-810(814).-สำนักข่าวไทย